ตะลอนเที่ยวทั่วไทย By Wachi สวัสดีค่ะสายมู วันนี้จะพาไปสถานที่แห่งหนึ่งในประเทศไทยของเรา อยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อพูดถึงการขอพร โชคลาภต่าง ๆ สถานที่แห่งนี้ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่มีผู้คนเดินทางกันไปเป็นจำนวนมาก บางท่านเดินทางไปขอพรเรื่องการทำงาน ทำกิจการ ส่วนบางท่านก็เดินทางไปขอเลข แต่จะได้หรือไม่ได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับบุญพาวาสนาของแต่ละบุคคล จะพาไปที่ไหนนั้นมาติดตามกันได้เลยค่ะ สถานที่แห่งนี้ที่เราเกริ่นถึงก็คือ คำชะโนดตำนานป่าลึกลับ ที่มีตำนานเล่าต่อกันมาว่ามีผีจ้างหนัง ปัจจุบันคือพื้นที่ของวัดศิริสุทโธ หรือ วัดป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งมีอีกหนึ่งตำนานความเชื่อที่เกี่ยวของกับพญานาค ซึ่งคนในพื้นที่เชื่อกันว่าป่าคำชะโนดแห่งนี้เป็นดินแดนของพญานาค เป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ ลี้ลับ อาถรรพ์ และเป็นเกาะลอยน้ำ เดิมทีมีเรื่องราวความเชื่อที่ว่าเกาะคำชะโนดไม่เคยจมน้ำ เพราะมีพญานาคคอยปกปักรักษาอยู่ ป่าคำชะโนด หรือ เกาะลอยน้ำ แห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 20 กว่าไร่ มีต้นไม้ชนิดหนึ่งเรียกว่า “ต้นชะโนด” ขึ้นเป็นจำนวนมากแผ่ต้นรากใบปกคลุมที่แห่งนี้ เมื่อเข้าไปที่คำชะโนด อากาศในป่านั้นจะเย็นสบาย ราวกับติดแอร์ไว้ ถึงจะร้อนแค่ไหนเมื่อเดินเข้าไปก็จะมีความร่มเย็นมากเลยทีเดียว เมื่อเข้าช่วงของฤดูฝนบริเวณรอบเกาะจะมีน้ำท่วมทุกปี แต่ที่บริเวณป่าคำชะโนดนั้นน้ำจะไม่ท่วมเลย และดูเหมือนว่าพืนที่เกาะนี้จะลอยขึ้นตามน้ำ เมื่อน้ำขึ้นพื้นดินป่าคำชะโนดก็จะสูงขึ้น เหมือนลอยขึ้นลงตามปริมาณของน้ำซึ่งจุดนี้นั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้คนจำนวนไม่น้อย น้ำที่ไหลมาบริเวณป่าคำชะโนดจะไหลเอ่อล้นมาจากแม่น้ำสงครามและจะไหลลงสู่แม่น้ำโขงอีกที ที่คำชะโนด ชาวบ้านพูดต่อกันว่ามีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เรียกว่า “ปล่องพญานาค” ซึ่งเคยมีคนนำไม้ไผ่ลำยาว 3 ต้นมาต่อกัน แล้วพยายามจะปักลงไปวัดความลึกตั้งแต่พื้นดินขึ้นมาเหนือน้ำปรากฏว่ายังไม่ถึงพื้น แต่กลับเป็นที่น่าแปลกใจเมื่อโยนเหรียญลงไป จะสามารถมองเห็นเหรียญได้หมดเพราะน้ำใสมาก ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่า พญานาค ได้เดินทางเข้า – ออกผ่านจากปล่องนี้ พญานาคที่ชาวบ้านทุกคนนับถือกันนั่นคือ “องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธ“ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “พ่อปู่ศรีสุทโธ” ซึ่งมี พระวรกายสีเขียวมรกต ปล้องพระนาภี (ท้อง) และพระเศียรเป็นสีทอง มีเมตตาสูงต่อผู้กราบไหว้บูชา หากอธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นจะสัมฤทธิ์ผล จึงทำให้มีผู้คนไปกราบไหว้ บนบานศาลกล่าวกันเป็นจำนวนมาก องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธเป็นมหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ แผลงเศียรได้ 9 เศียร ส่วน “องค์นางพญาศรีปทุมมานาคิณี” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “แม่ย่าศรีปทุมมา” ผู้เป็นชายานั้น แผลงเศียรได้ 5 เศียร ซึ่งมี พระวรกายเป็นสีเขียวตองอ่อน ปล้องพระนาภี (ท้อง) และพระเศียรเป็นสีทอง ทั้งสององค์โปรดปรานการฟังธรรมจากพระอริยสงฆ์มาก และเนรมิตวรกายเป็นเศียรเดียว หรือเป็นมนุษย์ก็ได้ดั่งคำโบราณอีสานกล่าวว่า “นามนาคนั้นข้างขึ้นเป็นคน ข้างแรมเป็นนาค” เมื่อพูดถึงองค์นาคาธิบดีศรีสุทโธ และป่าคำชะโนดหลายคนอดสงสัยไม่ได้เกี่ยวกับโชคลาภว่า บูชาพญานาคจะมีโชคลาภหรือไม่ ความจริงสิ่งนี้นั้นย่อมขึ้นกับกรรม วาระ และความดีของแต่ละบุคคลที่ทำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันด้วย ส่วนพญานาคนั้นท่านเป็นผู้ที่สามารถเข้าถึงทรัพย์ในดินและสินในน้ำ เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีผู้คนเดินทางไปกราบไหว้สักการะและขอหวยกับองค์นาคาธิบดีศรีสุทโธเป็นจำนวนมาก เมื่อมีผู้ประสบผลสำเร็จได้โชคได้ลาภไปมากมายหลายคน เรียกได้ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ จนกลายเป็นกระแสในหมู่คนเล่นหวย หรือทำมาขายขาย ทำกิจการต่าง ๆ ที่ต้องไปกราบไหว้ดูสักครั้ง ทำให้มีผู้คนไปกราบไหว้กันอย่างมากมาย แต่จะมากสุดประมาณช่วงเข้าพรรษาและออกพรรษา คาถาบูชาพญานาคาธิบดีศรีสุทโธ นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวาปูเชมิ ทุติยัมปิ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวาปูเชมิ ตะติยัมปิ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวาปูเชมิ เมตตัญจะมหาลาโภปิโยนาคะ ขันธปริตตัง (คาถาขอทรัพย์พญานาคราช) คาถาบูชานางพญานาคิณีศรีปทุมมา นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณีศรีปทุมมา วิสุทธิเทวีปูเชมิ ทุติยัมปิ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณีศรีปทุมมา วิสุทธิเทวีปูเชมิ ตะติยัมปิ กายะ วาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณีศรีปทุมมา วิสุทธิเทวีปูเชมิ เมตตัญจะมหาลาโภปิโยนาคะ ขันธปริตตัง (คาถาขอทรัพย์พญานาคราช) พระคาถานี้ไม่ใช่เป็นคาถาของพ่อปู่องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธเพียงพระองค์เดียว แต่เป็นพระคาถาที่ลูกหลาน ทั้งหลายสวดสาธยายถึงพญานาคราช-พญานาคิณีถ้วนทุกพระองค์ โดยแบ่งออกเป็นดังนี้ ลำดับแรกก่อนจะสวดสาธยายมนต์คาถาทุกบทต้องตั้ง นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ ถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเป็นพระศาสดาของข้าพระพุทธเจ้า (คือพวกเรา) ทั้งหลายทั้งปวงเสียก่อน ซึ่งถ้าใครอยากจะมีโชคเรื่องเงินทอง ไปสักการะและขอพรกับท่านได้ แต่ทั้งนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้ต้องการให้ผู้คนลุ่มหลงแต่อย่างใด อยากได้มีมีโชคลาภก็จงหมั่นทำความดีสร้างบุญกุศล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็จะช่วยบันดาลผลต่าง ๆ เป็นที่พึ่งทางใจอีกแรงหนึ่ง แต่ถ้าไม่ทำความดีรอแต่จะขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยก็คงจะไม่มีผลดีใด ๆ เกิดขึ้นกับตนเองครั้งหน้าจะพาไปที่ไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ