แนะนำทริปท่องเที่ยวชิล ๆ ใกล้กรุงเทพฯ เที่ยวได้แบบไม่ต้องใช้เงินและเวลาเยอะ ที่ที่เรากำลังจะแนะนำก็คือ ฉะเชิงเทราทริปนี้เราเดินทางด้วยการนั่งรถไฟไปเที่ยวฉะเชิงเทรากันค่ะ จุดเริ่มต้นของการเดินทางคือสถานีรถไฟหัวตะเข้ ซื้อตั๋วรถไฟธรรมดาไปลงสถานีชุมทางฉะเชิงเทราในราคา 6 บาท เป็นรถไฟรอบ 08.57 น.ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงเราก็เดินทางมาถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทรากันแล้วค่ะ เราชอบการตกแต่งของสถานีนี้นะคะ ให้ความรู้สึกเชิญชวนให้ท่องเที่ยวในจังหวัดฉะเชิงเทราดีค่ะออกจากสถานีรถไฟ ด้านหน้าสถานีจะมีทั้งรถสามล้อแบบเหมามารอรับและมีรถสองแถวหลายสายที่เป็นรถสาธารณะไว้ใช้เดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ในฉะเชิงเทรา ซึ่งเราเลือกเดินทางด้วยรถสองแถวค่ะ โดยทริปนี้เราจะไปเที่ยวที่ ตลาดบ้านใหม่ รถสองแถวคันที่เราจะใช้โดยสารจะเป็นคันสีขาวมีแถบสีเหลืองที่ข้างรถ ให้เดินออกมารอที่ป้ายรอรถโดยสารด้านหน้าสถานีรถไฟนะคะ ราคาค่าโดยสารอยู่ที่คนละ 10 บาทนั่งรถสองแถวมาไม่นาน รถก็พาเรามาผ่านหน้าตลาดบ้านใหม่ จุดสังเกตว่าใกล้ถึงหรือยังให้สังเกตที่ภาพนี้ซึ่งจะอยู่ทางฝั่งขวาค่ะ ถ้าเห็นปุ๊ปก็กดกริ่งให้รถจอดได้เลย รถจะจอดให้ฝั่งตรงข้ามทางเข้าตลาดบ้านใหม่พอดีค่ะพิกัดตลาดบ้านใหม่ ด้านหน้าตลาดบ้านใหม่จะมีจุดให้ถ่ายรูปแบบนี้ด้วยนะคะบรรยากาศทางเข้าตลาดบ้านใหม่ดูมีเสน่ห์ของความเป็นตลาดเก่าแก่ดีค่ะภายในตลาดก็จะมีร้านขายของหลากหลาย ซึ่งจะเป็นของกินโดยส่วนใหญ่ ทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ใครมาเที่ยวตลาดรับรองไม่หิวแน่นอนเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงสะพานตรงนี้ จะหยุดชมวิวและถ่ายรูปแม่น้ำบางปะกงก่อนก็ได้นะหรือจะเดินต่ออีกนิดไปพักที่คาเฟ่ Banmai Stories Home Cafe เป็นคาเฟ่ที่บรรยากาศดีมาก แนะนำให้นั่งชั้น 2 ของคาเฟ่นะคะ จะได้รับลมชมวิวแม่น้ำบางปะกง นั่งชิล ๆ เพลิน ๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบ Slow life มากค่ะเราสั่งเครื่องดื่มบลูพาราไดซ์มาดื่ม 1 แก้ว (ราคาประมาณ 50 บาท)พิกัด Banmai Stories Home Cafe ร้านเปิดวันศุกร์ เวลา 09.00-16.00 น. และเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 08.00 - 16.30 น. โทรศัพท์ 081-1728383https://www.facebook.com/BanmaiStoriesหลังจากที่เรา Slow life ที่ Banmai Stories Home Cafe ได้สักพัก เราก็ไปเดินเที่ยวชมตลาดต่ออีกนิดแต่เราเดินไปไม่สุดทางนะคะ เพราะจำได้ว่าตอนลงจากรถสองแถวมีคาเฟ่อยู่ใกล้ ๆ กับทางเข้าตลาดบ้านใหม่ เราก็เลยตัดสินใจไปนั่งตากแอร์ต่อที่คาเฟ่ค่ะคาเฟ่ที่ 2 นี้มีชื่อว่า The Brown House Coffee Shop เป็นคาเฟ่คุมโทนมีความละมุนและอบอุ่นด้วยสีน้ำตาล ให้ความรู้สึกเป็นคาเฟ่แห่งหนึ่งในต่างประเทศมากค่ะที่นี่เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ อยู่ด้านล่างของโรงแรม The Brown House Hotel เมนูเครื่องดื่มที่เราชอบมากอยากแนะนำคอกาแฟสายครีมมี่แบบเราคือเมนู เอสเปรสโซ่มัคคิอาโต้ (ราคาประมาณ 80 บาท) คือดีมาก กาแฟไม่ขมไปตอนดื่มคู่กับฟองนมที่มีความครีมมี่ด้านบนคือลงตัวสุด ๆ เต็ม 10 ไม่หักเลยส่วนถ้าใครเป็นสายชาลองสั่งเป็นเออเกร์ยเย็น (ราคาประมาณ 60 บาท) สักแก้วมาดื่มคลายร้อนก็ดีนะคะ ในส่วนของเค้กทางร้านมีเค้กหลายแบบให้เลือกนะคะ เราเลือกสั่งมา 2 ชิ้น เป็นเครปเค้กสตรอเบอร์รี่กับช็อกโกแลตหน้านิ่ม (ราคาประมาณชิ้นละ 105 บาท) อร่อยทั้งสองชิ้นค่ะ ความแป้งเครปแป้งและวิปครีมในแต่ละชั้นคือไลท์และละมุนค่ะ พอทานกับซอสตรอเบอร์รี่ก็ยิ่งอร่อย ส่วนเค้กช็อกโกแลตหน้านิ่มอร่อยแบบหวาน ๆ ค่ะพิกัด The Brown House Coffee Shop เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น. โทรศัพท์ 083-0114212https://m.facebook.com/thebrownhousechachoengsao/หลังจากที่เราอิ่มอร่อยกับเครื่องดื่มและเค้กแล้ว ดูนาฬิกาก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเตรียมกลับไปที่สถานีรถไฟเพื่อไปขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯ รอบ 14.05 น. เราเลือกกลับรอบนี้เพราะจะได้ถึงกรุงเทพฯ ไม่เย็นมากค่ะ เรานั่งรถสองแถวกลับมาลงฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟและข้ามสะพานลอยกลับไปซื้อตั๋วรถไฟกลับกรุงเทพฯ ค่ะ ขากลับเราเลือกไปลงที่สถานีลาดกระบัง ราคาตั๋ว 7 บาททริปนี้เป็นทริปชิล ๆ 1 วันที่สนุกดีค่ะ ได้นั่งรถไฟชมวิวสองข้างทางไปเรื่อย ๆ เดินเที่ยวตลาดบ้านใหม่แบบไม่เร่ง ได้เช็คอินคาเฟ่ 2 แบบ 2 สไตล์ เรียกได้ว่าเป็นทริปท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ประหยัดแต่คุ้มค่าที่จะใช้เวลาลองไปสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ดูในวันพักผ่อนสุดสัปดาห์ภาพประกอบโดยนักเขียน : WanWander อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !