การได้ไปเที่ยวต่างประเทศ นอกจากได้ชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติ สิ่งปลูกสร้าง และศิลปะ วัฒนธรรมที่แตกต่างแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้วิถีชีวิตของผู้คนที่เราได้พบเจอ แต่ตั้งแต่มีโควิดเข้ามา ทำให้การท่องเที่ยวไปในที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต่างประเทศแตกต่างจากเดิมมาก จากเดิมที่เมื่อเงินพร้อม และเวลาอำนวยเราก็สามารถจองตั๋วเครื่องบิน และโรงแรมผ่านเว็บไซต์แล้วเดินทางได้ทันที แต่หลังจากมีโควิด การจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมีความแตกต่างออกไปจากเดิม เช่นเราอาจต้องเข้าไปตรวจสอบมาตรการต่าง ๆ ก่อนการจองตั๋ว และก่อนการเดินทางเข้าประเทศนั้น ๆ วันนี้ผู้เขียนจะมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่ประเทศสวีเดน ซึ่งผู้เขียนเองก็ได้ไปท่องเที่ยวหลังจากโควิดระบาดผู้เขียนได้จองตั๋วของการบินไทย เพื่อบินเข้ามาที่ประเทศสวีเดน โดยจองตั๋วล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน และถึงแม้เราจะรู้ว่าทางประเทศสวีเดน ไม่มีมาตรการการขอผลตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ แต่เราก็แอบกังวลอยู่ลึก ๆ ว่า 1. ประเทศสวีเดนมีการเปลี่ยนแปลงมาตรการต่าง ๆ ช่วงก่อนเราเดินทางเนื่องจากโควิดยังระบาดเป็นวงกว้างในหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย 2. ทางสนามบินสุวรรณภูมิ หรือการบินไทย อาจจะมีมาตรการขอผลตรวจโควิดก่อนขึ้นเครื่องบิน และเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการเดินทางครั้งนี้ เราจึงโทรติดต่อการบินไทยก่อนเดินทาง 2 วัน เพื่อขอคำยืนยันก่อนการเดินทาง ซึ่งทางการบินไทย ก็แจ้งว่าไม่ต้องใช้ผลตรวจโควิดในการเดินทางเข้าประเทศสวีเดน และช่วงที่เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เราก็ยังแอบกังวลใจ เพราะเกรงจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศสวีเดนได้ เมื่อถึงวันเดินทางเราก็เตรียมชุดตรวจด้วยตัวเองติดกระเป๋าไปสองชุด เพราะคิดว่า ถ้าหากทางการบินไทยขอผลตรวจ จะได้ตรวจให้ตรงนั้นเลย และเมื่อไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็ลากกระเป๋าเข้าไปเช็คอินแบบใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ระหว่างทางที่จะเข้าสู่จุดเช็คอิน ก็เหลือบไปเห็นเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก เลยลากกระเป๋าเข้าไปถามรายละเอียด เพื่อความแน่ใจอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ท่านนั้นแจ้งว่า จำเป็นต้องใช้ผลตรวจ ใจเราก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่ก็กัดฟัน ฝืนเดินไปเข้าแถวรอเช็คอิน สักพักเจ้าหน้าที่คนเดิมเดินมาแจ้งว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ผลตรวจ แต่ยังไงให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่จุดเช็คอินอีกที ก็รอลุ้นกันต่อไปไปถึงจุดเช็คอิน เราก็รีบยื่นพาสปอร์ตพร้อมกับเอกสารการฉีดวัคซีน ซึ่งเราเองได้รับวัคซีนไฟเซอร์แล้วทั้งหมด 2 เข็ม และระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร ก็แอบชำเลืองคนข้าง ๆ ว่ามีใครถูกขอผลตรวจเพิ่มเติมหรือไม่ พักสักเจ้าหน้าก็ยื่นเอกสารทั้งหมดคืนให้พร้อมกับตั๋วเดินทาง เฮ้อ โล่งอกแล้วเรา!! อยากจะบอกว่า เดินทางมาหลายครั้ง ยังไม่เคยมีครั้งไหนที่กังวลใจเท่าครั้งนี้มาก่อนเลยเมื่อเช็คอินผ่าน ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล แต่ผ้าปิดปากปิดจมูกใส่ไว้ตลอดเวลา เพราะกลัวติดโควิด และแอลกอฮอล์ก็พกไว้ในกระเป๋าเสื้อเพื่อใช้ล้างมือบ่อย ๆ อันนี้คิดเอง ทำเอง ไม่มีกฎ หรือข้อบังคับอะไร ระหว่างการยืนรอคิวต่าง ๆ เราก็พยายามยืนเว้นระยะห่าง แม้บางครั้งจะมีคนเข้ามานั่ง หรือยืนใกล้ ๆ เราก็พยายามขยับออก เพื่อเว้นระยะห่างให้ตัวเองนั่นเอง ในช่วงที่นั่งบนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่ก็แจ้งให้ผู้โดยสารทุกคนใส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูกตลอดการเดินทาง และห้ามเปลี่ยนที่นั่งเอง และเจ้าหน้าที่จะพยายามจัดที่นั่งให้ทุกคนมีระยะห่างระหว่างกัน ยกเว้นคนที่มาเป็นครอบครัว ก็จะได้นั่งใกล้กัน ส่วนคนที่เดินทางคนเดียวก็จะได้ที่นั่งห่างจากคนอื่น ก็ดีไปอีกแบบระหว่างที่อยู่บนเครื่องบินจะมีผู้โดยสารบางรายเท่านั้นที่ถอดผ้าปิดปากปิดจมูก แต่คนส่วนใหญ่รักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด สำหรับเราที่ไม่อยากได้โควิดเป็นของแถม นอกจากไม่พลาดเรื่องผ้าปิดปากปิดจมูกแล้ว เรายังใช้แอลกอฮอล์เจลล้างมือทุกครั้งที่นึกขึ้นได้ เช่น ช่วงตื่นนอน ก่อน และหลังทานอาหาร หลังจากการเข้าห้องน้ำนอกจากล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่แล้ว ยังใช้แอลกอฮอล์ล้างมือหลังการสัมผัสกับวัสดุ หรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกันบนเครื่องบิน เช่น กลอนห้องน้ำ จะว่าพารานอยด์ก็คงไม่ผิดเท่าใดนัก 😊เมื่อเครื่องลงจอดที่สนามบินออลันดา ณ กรุงสต๊อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน ชาวต่างชาติหลายคนรีบถอดผ้าปิดปากปิดจมูกทิ้ง และเดินตัวปลิวเข้ามาในประเทศสวีเดน และตลอดระยะเวลาที่อยู่ในสนามบินออลันดา ก็ไม่มีการตรวจไข้ หรือตรวจโควิดแต่ประการใด ง่าย ๆ สบาย ๆ สไตล์คนสวีเดน ส่วนเราเองก็ยังคงใส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูกตลอด เพื่อป้องกันการรับเชื้อโควิด ตอนที่เราไปเที่ยวที่เมืองโกเธนเบิร์ก ซึ่งถือเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศสวีเดน เราเลือกพักโรงแรมเรดิสันบลู (Redissonblu) ซึ่งตั้งอยู่แถบชานเมือง เพราะกลัวปัญหาความแออัด ลูกค้าที่มาพักในโรงแรมมากพอสมควร ซึ่งคนส่วนใหญ่ ประมาณ 99% ไม่ใส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูก แต่ทุกคนจะพยายามเว้นระยะห่างแบบอัตโนมัติทางโรงแรมเองก็มีป้ายเตือนเป็นระยะ ๆ ให้คนเว้นระยะห่าง หรือแม้ในห้องทานอาหารเช้าก็มีการทำสัญลักษณ์ให้เห็นชัดเจนเพื่อให้คนเว้นระยะห่าง แต่ก็ยังคงมีบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าเหมือนก่อนที่โควิดจะระบาด เราเองเลือกพักที่โรงแรม และขับรถเพื่อไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ตามแถบชายฝั่งตะวันตก และเยี่ยมชมตามเกาะแก่งต่าง ๆ แถบชายฝั่งทะเลตะวันตกของประเทศสวีเดน ซึ่งชายฝั่งส่วนใหญ่เป็นลักษณะโขดหิน และภูเขา ทำให้เราเองก็เดินเที่ยวได้อย่างไม่กังวลใจ และไม่จำเป็นต้องใส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูกในการท่องเที่ยวครั้งนี้ สำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ ในบรรยากาศสองต่อสอง รับรองทริปแบบนี้ฟินแน่!และแม้ช่วงที่เราเที่ยวรับลม ชมวิวจะไม่ได้เจอผู้คนมากนัก แต่ช่วงเวลาพักทานอาหารถึงกับต้องยืนรอคิว เพราะนักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาแน่น ทำให้เราเองก็ต้องเลื่อนเวลาทานอาหารกลางวันออกไป เกือบบ่ายสอง เพราะไม่ต้องการเจอความแออัด และบางวันถึงกับต้องยอมขับรถออกนอกพื้นที่เพื่อหาที่พักทานอาหารในบรรยากาศที่เงียบสงบ ที่คนหนาแน่นสาเหตุส่วนหนึ่งเพราะคนสวีเดนเองก็ไม่อยากเสี่ยงออกนอกประเทศ ไปถูกมาตรการล็อคดาวน์หรือกักตัว ทำให้คนสวีเดนเลือกที่จะท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้นหลาย ๆ คนอาจจะกังวลเรื่องการไปท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะการเดินทางโดยเครื่องบิน ว่าจะอาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด แต่เรามองว่าการเดินทางโดยเครื่องบิน มีความปลอดภัยมากกว่าการไปปาร์ตี้สังสรรค์ และอาจจะปลอดภัยมากกว่าคนที่เราพบเจอตามท้องถนนด้วยซ้ำไปสำหรับเราเองที่เคยป่วยด้วยโควิดถึงสองครั้ง ซึ่งก็เคยแชร์ในบทความที่ผ่าน ๆ มองว่าแม้โควิดไม่ได้อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่เราก็ไม่ควรไปล้อเล่นกับโควิดเหมือนกัน เพราะบางคนมีอาการมาก บางคนมีอาการน้อย บางคนมีปัญหาเรื้อรังต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากไปเที่ยวต่างประเทศอย่างปลอดภัยก็ควรหลีกเลี่ยงชุมชนแออัด หรือที่ ๆ คนหนาแน่น แต่หากจำเป็นต้องเข้าที่แออัด ก็ควรใส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูก ควรพกแอลกอฮอล์ติดกระเป๋าเอาไว้ล้างมือบ่อย ๆ ควรหลีกเลี่ยงทานอาหารช่วงเวลาที่คนหนาแน่น อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน คืออย่าลืมซื้อประกันเดินทางที่ครอบคลุมประกันสุขภาพช่วงที่อยู่ต่างประเทศด้วยนะ ขอให้ทุกคนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศอย่างปลอดภัย แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะขอบคุณกราฟฟิกจากเว็บ Canvaภาพปก และภาพถ่ายทั้งหมด โดยผู้เขียนบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง- ประเทศสวีเดน ความงามของธรรมชาติ ไปตกปลา แต่ได้มากกว่าปลา (trueid.net)- เที่ยวสวีเดน เก็บหิมะหน้าร้อนที่อัวเร่ @ Åre, SWEDEN (trueid.net)- พาชม น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวีเดน (trueid.net)- ป่วยโควิดรอบ 2 ดูแลและรักษาตัวเองแบบ Home isolation (trueid.net)- แชร์ประสบการณ์ 7 วันกับความเจ็บป่วย ด้วยโควิด (trueid.net)- แชร์ประสบการณ์ 7 สิ่งที่ต้องทำเมื่อเป็นโควิด แต่ไม่อยากให้ติดคนใกล้ตัว (trueid.net)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !