ก่อนอื่นขอส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวอิตาลี สำหรับสถานการณ์ COVID-19 โดยเมื่อวันที่ 9 มีนาคมประธานาธิบดีคอนเต้สั่งปิดประเทศ เพื่อลดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยขอให้ประชาชนอยู่ในบ้าน ล่าสุดกำลังเป็น Viral ในโลกออนไลน์เป็นภาพประชาชนชาวอิตาลีที่กักตัวอยู่บ้านกำลังเล่นดนตรีที่ระเบียงบ้านเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ เห็นภาพแล้วก็สร้างรอยยิ้มให้ผู้พบเห็นในการแสดงความเป็นศิลปินในตัวตนของชาวอิตาลี เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศอิตาลีเป็นครั้งแรก แต่ไม่ได้ไปเมืองยอดนิยมอย่าง โรม มิลาน หรือเวนิส หากแต่ได้ไปเมือง Genao หรือ เจนัว บางคนออกเสียง เจโนวา เป็นเมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวทางทะเล Mediterranean เมืองหนึ่งของประเทศอิตาลีและเป็นเมืองที่มีเรือสำราญมาเทียบท่า และยังเป็นบ้านเกิดของ Christopher Columbus โดยการเดินทางครั้งนี้ผู้เขียนได้ขึ้นเรือสำราญของ MSC ชื่อเรือ MSC Orchestra ซึ่งออกเดินทางจากเมืองบาร์เซโลน่าประเทศสเปนและมาแวะที่เมือง เจนัวนี้เป็นเวลา 1 วัน เมื่อมาถึงเมืองเจนัว เราได้รับอนุญาตให้ลงจากเรือเมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. และเราต้องกลับมาถึงเรือก่อนเวลา 17.00 น. เราเลือกซื้อตั๋วรถ Hop on Hop off กับ City Sightseeing ที่ท่าเรือ Port of Genoa ราคาอยู่ที่คนละ 10 Euro ซึ่งจะมีจุดจอดรถทั้งหมด 11 จุด ใช้เวลารอรถประมาณ 15 ถึง 20 นาที หลังจากเราขึ้นรถแล้วเราเลือกนั่งรถให้ครบเส้นทางก่อนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อดูว่ามีสถานที่เที่ยวไหนที่เราอยากลงบ้าง หลังจากนั้นเราเลือกลงจุดแรกที่น้ำพุกลางจัตุรัส Piazza De Ferrari วันนี้อากาศดีไม่ร้อนเกินไป อุณหภูมิประมาณ 18 องศา ฟ้าใส แดดออก น้ำพุที่จัตรัส Piazza De Ferrari เป็นน้ำพุขนาดใหญ่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 16 เป็นศิลปะกรรมสไตล์ Renaissance สร้างจากหินอ่อน สวยงามมาก ๆ มีโซนด้านหน้าที่เป็นน้ำพุดขึ้นมา เด็ก ๆ วิ่งผ่านกันสนุกสนาน แดดออกกระทบไอน้ำเป็นสีรุ้งงดงามประทับใจ จัตุรัส Piazza De Ferrari เป็นศูนย์กลางของเมือง Genoa เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานต่าง ๆ ทั้งธนาคาร สำนักงานประกันภัย บริษัทเอกชนต่าง ๆ หลังจากถ่ายรูปกับน้ำพุจนหนำใจพวกเราแล้ว เราก็ไปยัง Stop ที่สองคือตลาด Oriental Market เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ใน Oriental Market บริเวณริมด้านในตลาดมีขายผลไม้นานาชนิด ทับทิบ ลูกพลับ แอปเปิ้ล สตอเบอรี่ องุ่น บูลเบอรี่ ลูกแพร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่จุดตรงกลางจะเป็นร้านอาหารคล้าย ๆ ฟู้ดคอร์ท แต่เป็นสไตล์อิตาลี มีให้เลือกหลายร้าน บางร้านขายอาหารพาสต้าสามารถสั่งได้เลยจะเอาซอสรสชาดไหน Presto Alfredo Bolognese และอื่น ๆ และเส้นชนิดไหน แบบเป็นโบว์ เป็นเส้นสปาเก็ตตี้ ราวิโอลี่ และอื่น ๆ ทางร้านจะทำให้ทานสด ๆ เลย เนื่องจากเจนัวเป็นเมืองที่ติดทะเล เพราะฉะนั้นอาหารซีฟู้ดที่นี่ก็มีให้เลือกมากมาย สามารถทำเป็นเมนู Soup หรือเป็นเมนู Spaghetti ได้ทั้งนั้น บางร้านขายพิซซ่าซึ่งมีหลายหน้าจะหน้าชีส หรือหน้ามะเขือม่วง Aubergine มีหมด ก็ถ้ามีโอกาสไปแล้วไม่รู้จะไปทานอาหารที่ไหนก็ลองแวะไปทานกันที่ Oriental Market ดูนะคะ หลังจากนั้นเราก็มารอรถบัสของเราเพื่อกลับขึ้นเรือ ตอนนั้นเวลาประมาณบ่ายสามกว่า ๆ แล้วเรามาถึงท่าเรือประมาณสี่โมงเย็นกว่า ๆ ก็เดินเล่นถ่ายรูปบริเวณท่าเรือแล้วก็เดินทางขึ้นเรือเพื่อไปยังเมืองต่อไป ไปครั้งนี้เรามีเวลาสั้นเพียงแค่ประมาณ 6-7 ชั่วโมงในเมืองเจนัว ทำให้เราได้เที่ยวไม่ได้หลายที่นัก แต่น้ำพุก็ถือว่าเป็นไฮไลท์ที่พวกเราประทับใจ ยังไงเจนัวยังมีสถานที่ให้เที่ยวอีกมากโดยเฉพาะ Aquarium ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าใครมาแล้วต้องแวะเข้าไปเยี่ยมชมให้ได้ สำหรับครอบครัวเราถ้ามีโอกาสคราวหน้าพวกเราต้องไม่พลาดแน่นอน ภาพปกและภาพประกอบโดยผู้เขียน