ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่ “ต้าหลี” เมืองกลางหุบเขา และทะเลสาบสีน้ำเงินใส ที่ให้ความรู้สึกเหมือนรวมเชียงใหม่และลี่เจียงไว้ในที่เดียว ที่นี่คือคำตอบของใครหลายคนที่มองหาทริปสายวัฒนธรรมผสานธรรมชาติ สะท้อนเรื่องราวชุมชนโบราณ และให้ความรู้สึกโรแมนติกเบา ๆ ใครมาเที่ยวเองก็บอกเลยว่า “คุ้มค่าแน่นอน” การเดินทางไปยังเมืองต้าหลี เราเดินทางจากเมืองคุนหมิงไปยังเมืองต้าหลี ด้วยรถไฟความเร็วสูง เพราะสะดวก และรวดเร็ว ขั้นตอนการเดินทางง่าย ๆ ตามนี้ครับ จองตั๋วผ่านเอเจนซี่หรือบนเว็บจีน สามารถจองล่วงหน้าได้สูงสุด 15 วันก่อนวันเดินทาง แนะนำให้นับวันดีๆ แล้วจองตั้งแต่วันแรกที่ทางระบบให้จองครับ เพราะที่นั่งเต็มไวมากครับ ใช้ Passport เข้าเช็คอินที่สถานีรถไฟได้เลยครับ แนะนำให้เดินไปช่อง “ซ้ายสุด” เพราะมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลอยู่ครับ จุดแสกน Passport จุดแรกคือทางเข้าสถานีรถไฟ ถ้าเราไม่มีตั๋วจะเข้าไม่ได้ แสกนเข้าเสร็จ ก็ต้องมาแสกนกระเป๋าก่อนครับ ตรงนี้ น้ำเปล่าที่เปิดแล้วอาจจะเข้าไม่ได้ หรือเจ้าหน้าที่จะให้เราดื่มให้ดูว่าเป็นน้ำที่ดื่มได้จริง และออกซิเจนกระป๋อง ห้ามเอาขึ้นรถไฟนะครับ และวัตถุอันตรายอื่นๆ จุดแสกน Passport จุดที่2 คือ ทางเข้าชานชาลารถไฟ ให้เราดูตั๋วของเราว่า ได้รถไฟขบวนที่เท่าไร ชานชาลาที่เท่าไร ตู้ที่เท่าไร และเดินไปตามป้ายได้เลยครับ 3. รถไฟความเร็วสูงจากคุนหมิง ไป ต้าหลี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เหตุผลที่เราเลือกวิธีนี้: • สะดวกสบาย ตรงเวลา • มีระบบ Check‑in ที่ชัดเจน • วิวระหว่างทางสวย เห็นภูเขา ทุ่งหญ้า และธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ เมื่อเราถึงเมืองต้าหลี เราก็จองรถจากโรงแรมให้มารับที่สถานีรถไฟ พนักงานขับรถก็ได้แนะนำสถานที่เที่ยวหลายแห่งเลย คุยไปคุยมา เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง เลยจ้างเขาต่อให้พาเราเที่ยวรอบเมืองต้าหลี เพราะเรามีเวลาแค่ ครึ่งวันช่วงบ่าย เพราะพรุ่งนี้เช้าก็เดินทางต่อไปลี่เจียงแล้ว เมื่อพูดคุยตกลงราคาและสถานที่เที่ยวที่เราอยากไปกันเรียบร้อย ก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อนแล้วเที่ยวกันต่อเลยครับ สถานที่แนะนำสำหรับ คนที่มีเวลาน้อยแบบเรานะครับ 🛕 เจดีย์สามองค์แห่งต้าหลี – ศิลปะคู่แผ่นดินเก่าแก่กว่า 1,000 ปี หากจะพูดถึง “แลนด์มาร์กของเมืองต้าหลี” ที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง คงต้องยกให้ “เจดีย์สามองค์” (Three Pagodas) แห่งวัดชงเซิง (Chongsheng Temple) เพราะแค่ได้เห็นจากระยะไกล ก็อดร้อง “ว้าว” ออกมาไม่ได้ ✨ ความยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมประวัติศาสตร์ เจดีย์สามองค์ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวเขาชางซาน (Cangshan) อันเขียวขจี และเบื้องหน้าคือทะเลสาบเอ๋อไห่ (Erhai) ถือเป็น ศาสนสถานสำคัญของพุทธศาสนาในแคว้นต้าหลี มายาวนานกว่าพันปี โดยเจดีย์หลักที่อยู่ตรงกลางชื่อว่า “เจดีย์เฉียนซวน (Qianxun Pagoda)” มีความสูงถึง 69.6 เมตร สร้างขึ้นในช่วงราชวงศ์ถัง (ราว ค.ศ. 823–840) ถัดออกไปทางซ้ายและขวาอีก 2 องค์ ถูกสร้างเพิ่มในภายหลังสมัยราชวงศ์ซ่งตอนใต้ เพื่อเสริมความสมมาตรทางฮวงจุ้ย และแสดงถึง “ความมั่นคงของแคว้น” ซึ่งในสมัยโบราณ ต้าหลีเคยเป็นอาณาจักรอิสระมาก่อนรวมกับจีนปัจจุบัน 📷 จุดถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้ 1. สระสะท้อนเงา (Reflection Pond) สระน้ำหน้าเจดีย์ที่เงานิ่ง ๆ สามารถสะท้อนภาพเจดีย์ได้อย่างงดงามราวกับภาพวาด โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นที่แสงพอดี มุมนี้คือ ซิกเนเจอร์โพสต์ลงโซเชียล ที่ทุกคนห้ามพลาด! 2. วิวจาก Wanghai Tower ด้านหลังวัดมีเนินสูงขึ้นไปอีก เป็นจุดที่สามารถชมวิวเจดีย์ทั้งสามจากมุมบน พร้อมเห็นเมืองต้าหลีแบบพาโนรามาได้อีกด้วย — แนะนำให้นั่งรถไฟฟ้าภายในขึ้นไป จะประหยัดแรงและได้วิวคุ้มค่า 🙏 ความศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อ เจดีย์สามองค์ถือเป็น “เครื่องปกป้องบ้านเมือง” จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะแผ่นดินไหว ที่เคยเกิดขึ้นบ่อยในภูมิภาคยูนนาน เชื่อกันว่าการตั้งสามเจดีย์ไว้ในแนวสามเหลี่ยม ช่วยกระจายพลังงานและคุ้มครองประชาชน 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัด: Chongsheng Temple, ต้าหลี, มณฑลยูนนาน วิธีเดินทาง: จากเมืองเก่าต้าหลี ใช้เวลาเพียง 10–15 นาทีโดยแท็กซี่หรือจักรยานไฟฟ้า ค่าเข้าชม: 120–121 หยวน (รวมรถไฟฟ้าในวัด) เวลาเปิด: ทุกวัน 08.00 – 18.00 น. คำแนะนำพิเศษ: ถ้าไม่อยากเข้าไปเสียค่าใช้จ่าย สามารถแวะถ่ายภาพจากด้านนอกได้เช่นกัน แสงช่วงเย็นจะถ่ายเจดีย์สีทองออกมาสวยมาก เราเองก็ไม่ได้เข้าไปภายใน เพราะค่าเข้าแพงพอสมควร และมีเวลาน้อย จึงเลือกไปถ่ายรูปด้านนอกแทน 🏘 เมืองเก่าซีโจว – ชุมชนโบราณที่ยังมีลมหายใจ หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวที่ไม่ได้มีแค่ภาพสวย ๆ แต่ยังเต็มไปด้วย “ความรู้สึก” Xizhou Old Town คือหมู่บ้านที่จะเปลี่ยนมุมมองคุณที่มีต่อประเทศจีน เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเก่าต้าหลีเพียง 15 กิโลเมตร ขับรถพียง 30 นาที แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่เขตเมืองเก่า — คุณจะสัมผัสได้ถึงโลกอีกใบ 🌸 วิถีชีวิตแบบไป๋แท้ ๆ ซีโจวคือบ้านของชาว “ไป๋” (Bai) ชนกลุ่มน้อยในยูนนานที่ยังรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างน่าชื่นชม บ้านไม้แบบจีนโบราณ หลังคาทรงสูง แกะสลักด้วยลายมังกรและนกฟีนิกซ์ เดินไปตามซอยเล็ก ๆ จะได้กลิ่นหอมของชาร้อนลอยมาตามลม และเสียงสนทนาภาษาถิ่นที่ยังคงใช้กันจริง คุณสามารถแวะเข้าร้านชาเล็ก ๆ ริมถนน ชิม “Three-Course Tea” หรือ “ชาสามแบบ” อันเป็นเอกลักษณ์ของชาวไป๋: เริ่มด้วยชาเข้ม ขม, ต่อด้วยชาอบสมุนไพรหอม ๆ และปิดท้ายด้วยชาหวานละมุนกลมกล่อม 📷 จุดถ่ายรูปสุดโรแมนติก ช่วงที่เราไปตรงกับต้นเดือนพฤษภาคม – มีถนนสายหนึ่งที่ทั้งสองฝั่งเรียงรายด้วยดอกไม้สีม่วงละมุนตา ราวกับซีนในหนังจีนโบราณ ใครที่ชอบถ่ายรูปพอร์ตเทรต โอกาสทองเลยครับ! นอกจากนี้ยังมี บ้านโบราณตระกูลหยาง (Yang Family Compound) ที่เปิดให้เข้าชมบางส่วน เป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมจีนที่ผสมผสานลวดลายกับภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างลงตัว — หากสนใจเชิงวัฒนธรรม ห้ามพลาด 🧺 ตลาดท้องถิ่น & ขนมพื้นบ้าน อย่าลืมแวะตลาดประจำหมู่บ้านตอนเช้า มีผักพื้นเมืองสด ๆ ปลาจากทะเลสาบเอ๋อไห่ และขนมหวานแบบบ้าน ๆ เช่น ข้าวเหนียวดำปั้นกับถั่วแดง หรือแป้งทอดไส้ถั่วเหลือง หอม กรอบ นุ่ม ตอนเราไปไม่ทันตลาดเช้าแล้ว แต่ยังมีของกินขายสองข้างทาง ขนมอร่อยมาก 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัด: เมืองซีโจว, เขตต้าหลี, มณฑลยูนนาน วิธีเดินทาง: รถบัสสายท้องถิ่นจากเมืองเก่าต้าหลี (ราว 7 หยวน) หรือแท็กซี่ส่วนตัว ค่าเข้า: ฟรี เวลาเหมาะแก่การเที่ยว: 9.00 – 15.00 น. แสงสวย คนไม่แน่น คำแนะนำพิเศษ: ลองสวมผ้าพันคอหรือเสื้อผ้าสีเอิร์ธโทน จะเข้ากับโทนเมืองมาก ถ่ายรูปออกมาดูละมุนสุด ๆ 🌊 ทะเลสาบเอ๋อไห่ – ความสงบในฉากฟ้าภูเขา จะมีอะไรดีไปกว่าการนั่งจิบชาเย็น ๆ ท่ามกลางลมเบา และวิวพาโนรามาที่ผืนน้ำทอดยาวสุดลูกหูลูกตา “ทะเลสาบเอ๋อไห่” คือความลงตัวของธรรมชาติที่เรียบง่าย แต่ชวนให้ใจหยุดนิ่ง ทะเลสาบเอ๋อไห่ (Erhai Lake) เป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน ล้อมรอบไปด้วยภูเขาชางซาน (Cangshan Mountain) ด้านตะวันตก และเมืองเก่าต้าหลีทางฝั่งตะวันออก เส้นทางรอบทะเลสาบทอดยาวกว่า 100 กิโลเมตร แต่ละช่วงมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน 🚴 เส้นทางปั่นจักรยานริมทะเลสาบ – เกินกว่าที่คาด ตอนแรกเราเกือบจะไม่ได้ปั่นจักรยาน เพราะคิดว่าแดดจะแรง... แต่หลังจากถูกคนขับรถกล่อมแล้วกล่อมอีก (เกือบทะเลาะ 555) จนยอมออกไป เราก็ต้องยอมรับว่า – ดีมากกก! มีทางจักรยานเลียบทะเลสาบเป็นระยะ มีต้นไม้ให้ร่มเงา ลมเย็นพัดตลอดทาง ระหว่างทางเจอทั้งคาเฟ่เล็ก ๆ ร้านขายของพื้นเมือง และทิวทัศน์ทะเลสาบที่เปลี่ยนไปในแต่ละโค้งถนน จุดแนะนำ: ปั่นจากจุดใกล้เมืองเก่าไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ เช่น Caicun หรือ Shuanglang – วิวสวยและมีคาเฟ่บรรยากาศดีให้แวะพักตลอดทาง 📷 มุมถ่ายรูปที่ต้องไป คาเฟ่ริมทะเลสาบ ที่มีที่นั่งหันหน้าออกหาน้ำ กับหมอนนุ่ม ๆ สีเอิร์ธโทน (มีหลายร้าน เช่น “Sky Cafe” หรือ “Sea&Cloud”) จุดท่าเรือ ที่มีเรือไม้เรียงราย และมองเห็นเงาสะท้อนภูเขา ทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาล เช่น ดอกลาเวนเดอร์ หรือดอกมัสตาร์ด ขึ้นอยู่กับช่วงที่ไป 🍰 โมเมนต์เล็ก ๆ ที่น่าจดจำ เราหยุดที่คาเฟ่เล็ก ๆ ชื่อ “Qian Shui” (แปลว่า น้ำเงียบ) สั่งเค้กมัทฉะกับชาพีชเย็น ๆ แล้วนั่งมองคนปั่นจักรยานผ่านหน้าร้าน บางคนมากับแฟน บางคนมาเดี่ยว บางคนนั่งอ่านหนังสือริมผนัง... นี่แหละ คือเสน่ห์ของเอ๋อไห่ — ความช้าแบบไม่เหงา ความเงียบแบบไม่ว่างเปล่า 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัด: ฝั่งตะวันออกของเมืองต้าหลี เชื่อมต่อหลายหมู่บ้าน ค่าเข้า: ฟรี เช่าจักรยาน: • จักรยานธรรมดา 20–60 หยวน (~100–300 บาท) • จักรยานไฟฟ้า 100–150 หยวน (~500–750 บาท) ช่วงเวลาที่ควรไป: 15.30 – 17.30 น. แดดเริ่มอ่อน ลมเย็น คำแนะนำพิเศษ: • พกหมวกกันแดด, น้ำดื่ม, ครีมกันแดด • แวะคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ไม่ดังในแผนที่ อาจเจอเพชรเม็ดงามไม่คาดคิด 🕉 วัดเจ้าแม่กวนอิมแปลงกาย – ปาฏิหาริย์ที่หยุดสงครามด้วยหัวใจ แม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือหรูหราแบบวัดชื่อดังทั่วไป แต่ “วัดเจ้าแม่กวนอิมแปลงกาย” กลับเปี่ยมไปด้วยพลังบางอย่างที่สัมผัสได้ตั้งแต่ย่างเท้าเข้าไป ความเงียบ สงบ และเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ต้องไป…ไม่ใช่เพื่อถ่ายรูป แต่เพื่อซึมซับ ✨ ตำนานหญิงชรา…ผู้หยุดสงคราม ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านในเมืองต้าหลี วัดแห่งนี้เกี่ยวข้องกับตำนานโบราณที่เล่าว่า: “ครั้งหนึ่งในอดีต เมืองต้าหลี่กำลังเผชิญหน้ากับศึกสงคราม ข้าศึกเตรียมเข้าตีเมือง ชาวบ้านหวาดกลัว ไม่มีอาวุธ ไม่มีทางสู้ ในช่วงเวลานั้นเอง เจ้าแม่กวนอิมทรงแปลงกายเป็นหญิงชรา แบกก้อนหินขนาดใหญ่ไว้บนหลัง และยืนอยู่หน้าประตูเมือง เหล่าทหารข้าศึกเมื่อเห็นภาพนั้น ต่างตกใจว่า... หากหญิงชรายังแข็งแรงถึงขนาดนี้ แล้วชาวเมืองต้าหลีคงลุกขึ้นสู้อย่างสุดใจแน่ ท้ายที่สุด กองทัพจึงตัดสินใจถอยทัพ โดยไม่ต้องเกิดการสู้รบหรือเสียเลือดเนื้อใด ๆ เลย” เรื่องเล่านี้ไม่ได้ถูกเขียนในตำราใหญ่โต แต่ฝังรากอยู่ในหัวใจของชาวบ้าน และทำให้วัดนี้เป็น สัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญและสันติ 🧘♀️ บรรยากาศวัด – เล็ก เรียบ แต่ทรงพลัง ตัววัดตั้งอยู่ในมุมเงียบของเมืองเก่าต้าหลี มีต้นไม้โบราณเรียงราย ศาลาไม้เก่า ๆ และรูปปั้น “หญิงชราแบกหิน” อยู่ใจกลางลานวัด — ชาวบ้านยังคงนำธูปมากราบไหว้ ขอพรให้ครอบครัวพ้นภัย และมีสติในการตัดสินใจ ไม่มีการจัดแสง ไม่มีเสียงบรรยายภาษาอังกฤษ ไม่มีบัตรเข้าชม...แต่วัดนี้มี “พลังความศรัทธา” ที่เรียบง่ายและจับต้องได้ 📍 จุดไหว้–จุดถ่ายรูป รูปปั้นหญิงชราแบกหิน: จุดสำคัญของวัด สื่อถึงตำนานและสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ ศาลากลางวัด: มุมเงียบที่หลายคนใช้เป็นที่ทำสมาธิ หรือแค่พักใจ 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัด: ชุมชนท้องถิ่นในเมืองเก่าต้าหลี ใกล้กับจุดท่องเที่ยวหลัก ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย (อาจมีบริจาคตามจิตศรัทธา) เวลาที่ควรไป: 08.00 – 11.00 น. หรือ 15.00 – 17.00 น. (ช่วงแสงนุ่ม คนไม่เยอะ) คำแนะนำพิเศษ: • ควรแต่งกายสุภาพ • เดินเบา ๆ และพูดเบา ๆ เพื่อให้เกียรติสถานที่ แม้ว่าการเดินทางมาเยือนวัดแห่งนี้อาจจะไม่หวือหวา หรือมีภาพถ่ายอลังการ... แต่สิ่งที่คุณจะได้กลับไป คือความสงบ ความกล้าหาญแบบอ่อนโยน และความทรงจำเงียบ ๆ ที่นานเท่าไรก็ไม่ลืม 🚶♀️ เมืองเก่าต้าหลี – ย่านเก๋าเล่าเรื่องเมือง หากเปรียบต้าหลีเป็นบทกวี เมืองเก่าก็คือ ‘บทนำ’ และ ‘บทจบ’ ที่ละมุนไม่แพ้กัน “Dali Ancient Town” ไม่ได้มีเพียงความสวยงามของสถาปัตยกรรมโบราณเท่านั้น แต่ยังมีชีวิต...มีผู้คนจริง ๆ ที่ยังดำเนินชีวิตอยู่กลางอิฐเก่า ซุ้มไม้ และลมหายใจแห่งวัฒนธรรม 🏮 เสน่ห์ของถนนหินโบราณ เดินเข้าสู่เมืองเก่า คุณจะพบถนนปูหินขนาดเล็กที่สองข้างทางเรียงรายด้วยบ้านไม้จีนโบราณ หลังคาโค้ง ผนังฉาบขาวตัดกรอบดำ ตกแต่งด้วยโคมแดงสวยงาม และร้านค้าท้องถิ่นมากมาย — ตั้งแต่เสื้อผ้าพื้นเมืองไป๋ จนถึงชาจีนสูตรดั้งเดิม แม้จะมีความคึกคักจากนักท่องเที่ยว แต่เมืองเก่านี้ยังรักษาเสน่ห์ชาวบ้านได้ดี: เห็นเด็กปั่นจักรยานไปโรงเรียน ร้านชำเล็ก ๆ ที่ขายซาลาเปาไม้ไผ่ และคุณยายยืนขูดเส้นขนมจีนหน้าบ้าน 🍜 ของกินท้องถิ่นที่ต้องลอง ข้าวขาหมูสไตล์ไป๋: หนังหนึบ น้ำราดกลมกล่อม นมหมั่นถัว (豆腐乳): เต้าหู้หมักรสเปรี้ยวเค็ม คลุกข้าวสวยร้อนคือที่สุด ขนมแป้งทอดใส่ถั่วเหลือง: กรอบนอกนุ่มใน ชาสามรส (Three-course Tea): เครื่องดื่มประจำวัฒนธรรมชาวไป๋ ลองแวะร้านเล็ก ๆ ข้างทาง แล้วนั่งดูคนผ่านไปมา... คุณจะได้รู้ว่าความสุขของการเดินทาง อาจไม่ได้อยู่ที่การไปถึงไหน แต่คือการได้ "หยุด" และ “อยู่กับปัจจุบัน” 📷 จุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาด ประตูเมืองทิศใต้ (South Gate): ฉากคลาสสิกที่ถ่ายตอนเย็นแล้วแสงสะท้อนโคมแดงสวยมาก ตรอกศิลปะ: มีร้านภาพวาด ร้านเซรามิกแฮนด์เมดที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้เก๋สุด จัตุรัสกลางเมือง: มักมีนักดนตรีหรือศิลปินมาขับกล่อม ทำให้ภาพเมืองมีชีวิตชีวา 🗺️ ข้อมูลประกอบการเที่ยว พิกัด: ใจกลางเมืองต้าหลี มณฑลยูนนาน ค่าเข้า: ฟรี เวลาที่ควรไป: • เช้า (08.00–11.00) – คนไม่เยอะ ถ่ายภาพดี • เย็น (16.00–20.00) – แสงนุ่ม โคมไฟเปิด เมืองมีชีวิต คำแนะนำพิเศษ: • อย่าลืมลอง “ชาน้ำผึ้ง” ที่ร้านชาโบราณริมถนน • ใส่รองเท้าสบาย เพราะเดินเยอะกว่าที่คิด • ถ้าเจอร้านทำผ้าคราม ลองเข้าไปชมขั้นตอนผลิตของจริงได้เลย “เมืองเก่าต้าหลี” ไม่ใช่แค่ฉากหลังของวัฒนธรรม — แต่คือหัวใจที่ยังเต้นของผู้คน วิถีชีวิต และเสน่ห์จีนโบราณที่สัมผัสได้ทุกย่างก้าว สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ยังมีอีกมากมาย แต่เรามีเวลาแค่ครึ่งวันสำหรับเมืองต้าหลี ครับ รอบหน้าจะไปหลายๆวันเลยครับ ชอบมาก อากาศดีมากครับ ✨ อย่าลืมติดตาม “ตอนต่อไป: พาเที่ยวเมืองลี่เจียง” เมืองโบราณริมภูเขาหิมะ ที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในจีน นะครับ ! เครดิตภาพ :"รูปภาพทั้งหมดเจ้าของบทความเป็นผู้ถ่ายเองและสร้างมาเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นครับ" อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !