รีเซต

กระเช้าภูกระดึงมาแน่ เดินหน้าศึกษาหวังช่วยสูงวัยเที่ยวง่าย ไม่ทำลายธรรมชาติ

กระเช้าภูกระดึงมาแน่ เดินหน้าศึกษาหวังช่วยสูงวัยเที่ยวง่าย ไม่ทำลายธรรมชาติ
Muzika
6 พฤษภาคม 2568 ( 14:40 )
33

     ภูกระดึง หนึ่งในแลนด์มาร์กธรรมชาติของเมืองไทยที่ครองใจนักเดินป่ามาหลายสิบปี กำลังจะเปลี่ยนโฉมใหม่ ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนจิตวิญญาณของการเดินเท้า แต่เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทุกวัยได้สัมผัสยอดเขาสุดคลาสสิกแห่งนี้ได้ง่ายขึ้น โดย โครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง ได้รับการอนุมัติงบประมาณ 25.7 ล้านบาท สำหรับการออกแบบแล้ว

 

Pratan Saetang / Shutterstock.com

 

เดินหน้าแบบยั่งยืน ไม่ทิ้งธรรมชาติไว้ข้างหลัง

     โครงการนี้นำโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ซึ่งวางแนวคิดกระเช้าเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เน้นลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ทั้งในแง่ของพื้นที่ การก่อสร้าง และระบบนิเวศ โดยเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ส่วนใหญ่มาจากประเทศยุโรป เช่น สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดน ที่ใช้เสาเดี่ยวกินพื้นที่น้อย ไม่รบกวนพันธุ์ไม้หรือสัตว์ป่า

 

     จุดเริ่มต้นของกระเช้าจะไม่ตรงกับเส้นทางเดินปัจจุบัน แต่จะย้ายไปบริเวณ ผาหมากดูก ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนเส้นทางเดินเดิม

 

โอกาสใหม่ของผู้สูงวัย และนักท่องเที่ยวสายชิลล์

     จุดประสงค์สำคัญของกระเช้าคือการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถเดินเท้าระยะไกล เช่น ผู้สูงอายุ หรือครอบครัวที่มีเด็ก ได้ขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติบนยอดภูกระดึงได้ง่ายขึ้น โดยยังคงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ไม่เกิน วันละ 2,000 คน เพื่อรักษาสมดุลทางธรรมชาติ

 

     และในเฟสสองของโครงการ จะมีการจัดการพื้นที่บริการนักท่องเที่ยวทั้งด้านบน และล่างของภูกระดึง เช่น จุดพัก ห้องน้ำ และทางเดินที่ออกแบบให้เหมาะกับทุกวัย 

 

ซาฟารีบนภูกระดึง? อนาคตที่อาจเกิดขึ้น

     ภูกระดึงยังมีพื้นที่อีกมากที่ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า เนื่องจากเป็นถิ่นอาศัยของช้างป่า ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในอนาคต อาจพัฒนาโซนเหล่านี้ให้กลายเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวแบบซาฟารี โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถชมธรรมชาติและช้างป่าได้จากระยะที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางพัฒนาที่คงเสน่ห์ และความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าไว้

 

ยังไม่เริ่มสร้าง แต่ศึกษาอย่างจริงจัง

     แม้กระเช้าภูกระดึงยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาและออกแบบ แต่ก็มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน โดยล่าสุดทางกรมอุทยานฯ ได้ต่ออายุใบอนุญาตศึกษาออกไปอีกไม่เกิน 2 ปี พร้อมยืนยันว่าทุกขั้นตอนจะต้องผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างละเอียดรอบคอบ และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน

 

     กระเช้าภูกระดึงอาจไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบพลิกหน้าภูเขา แต่เป็นการเปิดทาง ให้คนทุกกลุ่มเข้าถึงความงามของธรรมชาติได้ โดยไม่ต้องแลกมาด้วยการทำลายสิ่งแวดล้อม หากโครงการนี้ดำเนินไปได้จริง จะกลายเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่แท้จริงของไทย

====================