วันนี้วันอะไร สำหรับชาวไทยหลายคนคงตอบได้ทันทีว่าวันนี้คือวันหยุดราชการและเป็นวันพระใหญ่ที่สำคัญอย่าง วันอาสาฬหบูชา วันที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมครั้งแรกจนเกิด “พระรัตนตรัย” คือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ขึ้นครบองค์เป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งตรงกับคืนวันเพ็ญเดือนแปด และเป็นวันที่วัดต่าง ๆ ทั่วประเทศจัดกิจกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะการฟังธรรมและเวียนเทียนช่วงเย็น เช่นเดียวกับปีนี้ที่เรามีโอกาสเดินทางไปเวียนเทียน ณ "วัดโป่งสะเก็ต จังหวัดชลบุรี" วัดเล็ก ๆ ในชุมชนโป่งสะเก็ตที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน หลังจากที่สายฝนยามเย็นได้โปรยปรายลงมา ความตั้งใจของพวกเราก็ยังไม่หวั่นไหว แรงศรัทธาในพระพุทธศาสนายังคงมั่นคงไม่เสื่อมคลาย เราจึงตั้งหลักและมุ่งหน้าไปยัง วัดโป่งสะเก็ต วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนสาย 331 (ชลบุรี–สัตหีบ) ไม่ไกลจากที่พักของเรานัก ตลอดเส้นทางที่ขับรถมุ่งหน้าไปทางสัตหีบ เราสามารถมองเห็นวัดได้อย่างชัดเจนจากระยะไกล เพราะทางวัดประดับประดาด้วยแสงไฟสวยงามในยามค่ำคืน นอกจากนี้รอบวัดเต็มไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลมาทำบุญในเทศกาลพิเศษเช่นนี้อย่างคึกคัก และเมื่อเราขับวนหาที่จอดรถจนเรียบร้อยแล้ว ก็พากันเดินเข้าไปยังบริเวณวัดอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางบรรยากาศรื่นเริงของเทศกาลสำคัญในวันนี้พวกเราเริ่มต้นค่ำคืนนี้ด้วยการเดินไปยังบริเวณ โบสถ์ของวัดโป่งสะเก็ต เพื่อร่วม เวียนเทียนรอบโบสถ์ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่ชาวพุทธปฏิบัติในวันอาสาฬหบูชา การเวียนเทียนเป็นการตั้งสติ มีสมาธิ และระลึกถึงคุณของ พระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ก่อนจะเริ่มเวียนเทียน พวกเราจึงไปบูชาดอกไม้ ธูป เทียน กันที่บริเวณหน้าทางเข้าโบสถ์ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก พร้อมจัดโต๊ะให้ผู้มาร่วมงานสามารถบริจาคค่าดอกไม้ธูปเทียนตามกำลังศรัทธา บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความอิ่มเอมใจเมื่อบูชาดอกไม้ ธูป เทียนเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็สังเกตเห็นว่าบริเวณด้านข้างของโบสถ์มีการประดิษฐาน องค์หลวงพ่อโสธรจำลอง ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้กราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนจะเดินเข้าสู่พื้นที่เวียนเทียน บรรยากาศตรงจุดนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นธูปอ่อน ๆ เสียงสาธุจากผู้ศรัทธา และแววตาอิ่มเอมใจของผู้ที่มากราบไหว้อย่างตั้งใจพวกเราเดินเข้าสู่พื้นที่ภายในโบสถ์อย่างเงียบสงบ ก่อนจะเริ่มเวียนเทียนโดยเวียนไปทางด้านขวาเป็นจำนวน สามรอบ รอบแรกตั้งจิตระลึกถึง พระพุทธ รอบที่สองระลึกถึง พระธรรม และรอบสุดท้ายระลึกถึง พระสงฆ์ ทั้งหมดนี้เราทำด้วยความตั้งใจและจิตใจที่สงบแน่วแน่ ในค่ำคืนที่เงียบงามแต่เปี่ยมไปด้วยพลังศรัทธา เมื่อเสร็จสิ้นการเวียนเทียน พวกเราก็นำ ทองคำเปลว ที่ได้รับมากราบแปะลงบน ลูกนิมิต ที่ตั้งอยู่รอบโบสถ์ ด้วยความเชื่อว่าจะเสริมสิริมงคลให้ชีวิต พร้อมทั้งเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้มั่นคงยั่งยืนต่อไป และก็อย่าลืมที่จะไปไหว้พระประธานในพระอุโบสถกันด้วยนะ ก่อนจะออกจากโบสถ์ หากใครต้องการร่วมทำบุญกับทางวัด ก็สามารถบริจาคได้ที่ ตู้รับบริจาค ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของโบสถ์ ให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสร้างกุศลตามกำลังศรัทธา และบริเวณใกล้กันยังมีจุดสำหรับ เจิมหน้าผากเพื่อความเป็นสิริมงคล ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เราสังเกตเห็นผู้คนจำนวนมากต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบ รอรับการเจิมหน้าผากจากพระภิกษุด้วยความเคารพและศรัทธา โดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิตในช่วงครึ่งปีหลังอย่างราบรื่นและสงบเย็น เมื่อเราเดินออกมาจากบริเวณโบสถ์แล้ว ก็แวะมาเสี่ยงโชคกับทางวัดสักหน่อยที่ กองการกุศล วัดโป่งสะเก็ต กับกิจกรรมน่ารัก ๆ อย่าง “ล้วงไหพาโชค” ซึ่งแน่นอนว่าโชคของเราวันนี้ ก็ยังไม่ถึงรางวัลใหญ่อีกเช่นเคย แต่ก็ถือว่าได้ร่วมทำบุญกับทางวัดไปในตัว และเพราะความไม่เข็ด ความหวังยังมี พวกเราจึงไปต่อด้วยกิจกรรม เล่นบิงโก ที่บรรยากาศรอบโต๊ะเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความลุ้นระทึก แต่ผลสุดท้าย...ก็ยังดวงดีไม่พอจะคว้ารางวัลกลับบ้านไปได้อีกเหมือนเดิมเมื่อเล่นเกมกันพอหอมปากหอมคอ พวกเราก็พากันเดินต่อไปยัง โซนขายของ ที่ทางวัดจัดพื้นที่ไว้รองรับผู้มาร่วมงาน ภายในเต็มไปด้วยร้านค้าเล็ก ๆ ที่มีทั้งของกิน ของใช้ รวมถึงมีวงดนตรีและมีลิเกให้ดูกันด้วย หลังจากที่พวกเราซื้อของกินคลายหิวแล้ว ก็ถึงเวลาต้องเดินทางกลับเพื่อพรุ่งนี้จะได้มีแรงกลับไปทำงานกันต่อไป แม้จะเป็นค่ำคืนที่เรียบง่าย แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความอิ่มบุญ อบอุ่น และประทับใจ ****ภาพถ่ายเองจากสถานที่จริง**** อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !