วันหยุดนี้ จะไปไหนดี หว่า ... ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ มือถือของผู้เขียนก็ดังขึ้น เบอร์ที่ผู้เขียนไม่ได้บันทึกชื่อไว้ เลยไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ใคร ยังไงก็กดรับก่อนดีกว่า เผื่อเป็นเจ้าหนี้ เสียงที่ต้นทาง ผู้เขียนได้ยินเสียงเป็นผู้หญิง ที่เสียงออกจะคุ้น ๆ พอต้นสายบอก น้องนิวเอง อ้อ ถึงนึกออก เพราะไม่ได้ติดต่อกับน้องเขานานมากพอสมควร ก็เลยถามสารทุกข์สุกดิบกันสักพัก น้องนิวก็อยากชวนไปรับฟังการทำการตลาดออนไลน์ผ่านเฟสบุค ซึ่งก็น่าสนใจในยุคที่กำลังต่อสู้กับโรคไวร้สตัวร้ายโควิด 19 กันอยู่นี้ ก็เลยตอบรับ นัดเจอกันที่ร้านกาแฟ ที่แฟนกับคุณนิวร่วมกันสร้างกันมา บอกแค่ว่าอยู่แถวป่าหล่าย เลยสวนสัตว์ภูเก็ตมาสักหน่อย ผู้เขียนรีบตอบตกลง ก่อนวางสายคุณนิวสอบถามว่าทำอะไรเสริมอยู่บ้าง ผู้เขียนตอบได้เต็มปากเต็มคำว่า งานเขียนบทความส่งให้กับ TRUE ID IN-TREND ก็เล่าถึงรายละเอียดคร่าว ๆ ในการเริ่มทำงานให้คุณนิวฟังรวมถึงค่าตอบแทนในการทำงานเสริมนี้ ซึ่งคุณนิวก็สนใจที่อยากให้เรามาแลกเปลี่ยนแนวคิดของงานทั้งสองงานแก่กันและกัน ผู้เขียนเลยตอบตกลง ภาพโดย : ผู้เขียน การเดินทางวันนี้มาด้วยยานพาหนะคันเดิม Wave 125R คันเก่า คันเก่ง ที่อยู่กับเรามานานแสนนาน ลูกสาวแต่งตัวเต็มสูตร เสื้อแขนยาวเพราะอากาศยามเที่ยงแดดร้อนแรงพอดู ผู้เขียนได้โอกาสพาสาวน้อยไปเที่ยวป่าหล่ายด้วย ซึ่งนานมากแล้วไม่ได้พามาเที่ยวสถานที่แห่งนี้ ผู้เขียนได้นัดคุณนิวไว้ที่หลังเที่ยง การเดินทางจากในตัวเมือง แถวเกาะสิเหร่ มาที่ป่าหล่ายก็ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง เนื่องจากช่วงนี้ผู้คนไม่ค่อยออกมาสัญจรกันมากนัก เพราะกังวลเรื่องโรคโควิด แต่ผู้เขียนมีนัดที่สำคัญจึงต้องออกมาดังกล่าวจึงต้องยอมเสี่ยงกันหน่อย ภาพโดย : ผู้เขียน คุณนิวบอกไว้ว่า เมื่อถึงสวนสัตว์ ให้ขี่มาเรื่อย ๆ สักประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงร้านชื่อ ทุ่งหญ้า นาวัว ชื่อเพราะดีนะ ไปได้สักพัก ชักไม่มั่นใจจึงจอดรถถามชาวบ้านแถวนั้น เขาชี้ไปข้างหน้า เมื่อมองไปก็เห็นกับร้านกาแฟ ที่ดูดีมีสไตล์มาก ๆ ตั้งอยู่ เลยแวะเข้าไปที่จอดรถด้านข้าง คุณนิวรีบเดินออกมาต้อนรับ ทักทาย กันสักพัก จึงเข้าไปหาที่นั่งพักทำเลดี ๆ ด้านใน คุณนิวถามว่า "กินข้าวกันมาหรือยัง" อยากจะบอกดัง ๆ ว่า "ยัง" ตรงปากทางเข้ามาตอนแรกผู้เขียนว่าจะแวะกินข้าวกันก่อน พอดีคุณนิวโทรเข้ามาว่าอยู่ร้านแล้วพอดี เลยไม่ได้แวะกินข้าวกัน ต้องลำบากคุณนิว จัดหาข้าว น้ำดื่มเย็น ๆ มาบริการอีก เกรงใจแท้ ๆ ด้วยความเกรงใจ ผู้เขียนได้สั่งข้าวผัดกุ้ง คนละจานกับลูกสาว ระหว่างที่รอ ผู้เขียนแอบมองรอบร้าน รู้สึกชอบไอเดียของแฟนคุณนิวจริง ๆ ที่ตกแต่งร้านได้ลงตัวมาก โดยการเอาของเก่า มาประดับตกแต่งภายในร้าน เต็มไปหมด ขอถ่ายรูปมาอวดเพื่อน ๆ หน่อยละกัน ภาพโดย : ผู้เขียน มุมด้านนอกก็มีที่นั่งกินลม ชมวิว ท้องทุ่งด้วยนะ มีไม้ทำสะพานให้เดินไปยังจุดชมวิว และจุดถ่ายภาพด้วย ลูกสาวได้ออกมานั่งเล่นตรงบริเวณนี้ เพราะมีลมเย็น ๆ พัดมาให้คลายร้อนได้เป็นอย่างดี ผู้เขียนอยากมานั่งชิว ๆ เพลิน ๆ สักวัน ภาพโดย : ผู้เขียน สักพักคุณนิว เรียกกินข้าว ที่ยกมาวางเสิร์ฟพร้อมอยู่บนโต๊ะ พอมาถึงโต๊ะผู้เขียนต้องอึ้งกับไอเดียจานใส่ข้าว เป็นกระด้งเล็ก ๆ ปูด้วยใบตอง ใส่ข้าวผัดกุ้งมา กับผักต้นหอม แตงกวา และ มะนาวหั่น กลิ่นข้าวผัดกุ้งหอมน่าอร่อยจริง ๆ ว่าแล้วเราสองคนพ่อลูกก็ลุยกันเลย รสชาติอร่อยใช้ได้ทีเดียวครับ สักวันค่อยมารีวิวร้านกันนะครับ งวดนี้มาด้วยภารกิจอื่น ภาพโดย : ผู้เขียน เมื่อผู้เขียนอิ่มเรียบร้อยแล้วก็เริ่มคุยเรื่องทำบทความกับคุณนิว เป็นการแบ่งปันกันด้วยใจจริง ๆ ในยามลำบากกันช่วงนี้ โดยให้คุณนิว สมัครผู้เขียนใหม่ และใส่ข้อมูลส่วนตัวในการตั้งค่าต่าง ๆ จนแล้วเสร็จ จึงให้คุณนิวเริ่มทำการสร้างบทความแรก สอนสร้างปกด้วยเว็บ Canva ในทันที เป็นบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่คุณนิวเพิ่งไปมา ไม่นานก็แล้วเสร็จและส่งบทความ ทีนี้ก็ได้แต่ลุ้นว่าจะเป็นอย่างไร เผลอแว๊บเดียวจะเย็นแล้ว ผู้เขียนเลยขอตัวกลับก่อน แต่ก่อนกลับผู้เขียนได้รับปากลูกสาวไว้แล้ว ว่าจะพาไปเที่ยวสะพานท่าเทียบเรือป่าหล่ายก่อน ซึ่งอยู่ถัดไปจากร้านคุณนิว ไม่ไกลมากนัก เราจึงออกเดินทางกันต่อ ภาพสองข้างทางสวยงามมากเพราะมีต้มก้ามปูปลูกไว้ริมขอบทางเป็นแนวยาวไปจนถึงใกล้สะพาน ภาพโดย : ผู้เขียน เมื่อไปถึงเชิงสะพานก็พบกับนักท่องเที่ยวชาวจีนกำลังซ้อมมวยไทยกันอยู่บนสะพาน ลูกสาวได้แต่ยืนดูด้วยความสนใจ แสงแดดวันนี้ดีมาก ทำให้ท้องฟ้าและทะเลดูสวยสดใสขึ้นมาทันที เลยได้ภาพสวย ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ถ้าในยามปกติ จะมีพ่อแม่ พี่น้อง นักท่องเที่ยวมาเดินเที่ยว มาออกกำลังกาย กันบนสะพานจำนวนมาก เดินไปจนสุดสะพานแล้วเดินกลับก็พอได้เหงื่อกันอยู่ครับ ส่วนหนึ่งเพราะมีร้านอาหารหลายร้านอยูบริเวณริมฝั่งใกล้สะพานแห่งนี้ หลายร้านจะมีอาหารทะเลไว้ให้บริการ ผู้เขียนและลูกสาวสนใจสะพานท่าเรือ กับวิวทะเลมากกว่า ภาพโดย : ผู้เขียน พวกเราทั้งสองพ่อลูกเดินไปจนถึงปลายสะพานท่าเทียบเรือ ช่วงเย็นวันนี้น้ำทะเลเริ่มจะลงแล้ว ปกติจะมีชาวบ้านระแวกนั้นหรือจากถิ่นอื่นมาหาพวกหอยแคลง หรือหอยอื่น ๆ รวมถึงสัตว์ทะเลอื่น ๆ ตอนน้ำลง เอาไปขาย หรือเอาไปเป็นอาหารกัน แต่วันนี้ ผู้เขียนไม่สามารถลงไปได้เพราะไม่ได้เตรียมพร้อมในการลงลุยทราย ลุยน้ำ ทะเลสักเท่าไหร่ รวมถึงตัวลูกสาวด้วย ไม่งั้นได้เปียกรองเท้าสวยกันละ ผู้เขียนจึงได้แค่ถ่ายรูปจากบนสะพานมาให้ได้ชมกัน ภาพโดย : ผู้เขียน เราอยู่กันได้สักพักก็เดินทางกลับ เพราะเดี๋ยวจะเย็นมากเกินไป กว่าจะเดินทางถึงบ้านอีก หากใครหาที่เที่ยวพักผ่อน หย่อนกาย หย่อนใจ อยากแนะนำเลย ที่นี่สะพานท่าเทียบเรือป่าหล่าย ตลอดเส้นทางก่อนจะถึงจะมีที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย อาทิเช่น ที่จัดแสดงโลมาโชว์ และสวนสัตว์ ภูเก็ต และค่ายมวย แถมยังมีร้านอาหารขึ้นชื่อดัง ๆ ที่ขายอาหารซีฟู้ดเยอะแยะอยู่ย่านนี้ รับรองทั้งที่เที่ยว ที่กิน บนถิ่นป่าหล่ายนี้ มีไม่ขาด แน่นอน หากในยามปกตินะครับแนะนำเลยครับ มาจบท้ายกันด้วยวิวสวย ๆ สะพานป่าหล่าย แล้วท่านจะกลับบ้านไปพักผ่อนต่ออย่างสบายใจ แต่ในยามนี้ ขอให้เก็บเนื้อเก็บตัวกันก่อน ให้ผ่านพ้นวิกฤติโรคร้ายนี้ไปก่อน แล้วเราค่อยออกมากัน หรือหากจะมาก็ควรมีระบบป้องกันที่เพียบพร้อมกันหน่อยนะครับ ทั้งเจลล้างมอื ทั้งหน้ากากอนามัย แล้วอย่าลืมอยู่ห่างคนอื่นสัก เมตร สองเมตรนะครับ เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวเราและตัวเขาด้วยครับ ด้วยความเป็นห่วงกันนะครับ ยังไงก็ฝากติดตาม บทความสนุก ๆ ได้สาระความรู้ ประสบการณ์การท่องเที่ยวอื่น ๆ ของพ่อน้องน้ำมนต์กันด้วยนะครับ