เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สวัสดีครับ นักเที่ยวสายบุญทั้งหลายวันนี้ผู้เขียนมีเรื่องเกี่ยวกับวัด มานำเสนออีกแล้วครับ...ใช่ครับวัดอีกแล้วครับท่าน....วันนี้ขอสำเนา “วัดบ้านปง” ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ วัดนี้เป็นวัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านเป็นวัดเล็ก ๆ ครับไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากแต่เหมือนมีมนต์เสน่ห์หรือมีความขลังอย่างบอกไม่ถูกเมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางเข้ามาสัมผัส วัดนี้แต่เดิมวัดนี้แต่เดิมมีหลวงปู่ครูบาน้อย ชยวังโส เป็นเจ้าอาวาส (ครูบาภาษาถิ่นเหนือ หมายถึงพระภิกษุผู้มีพระผู้ทรงความรู้ นักพัฒนาหรือมีคาถาอาคมแก่กล้าประมาณนี้นะครับ) ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั่วไป และเป็นพระนักปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบตามแนวพระพุทธศาสนา และท่านได้มรณภาพเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2541 รวมอายุได้ 101 ปีครับปัจจุบันสรีระสังขารของท่าน ยังไม่ได้มีการเผานะครับแต่คณะศิษยานุศิษย์ได้เก็บสรีระสังขารหลวงปู่ไว้กราบสักการะอยู่ เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) สรีระสังขารหลวงปู่ท่านไม่เน่าเปื่อยแต่อย่างใดครับน่าจริง ๆ ปัจจุบันวัดบ้านปงแห่งนี้มีท่านพระครูปิยสีลสีลธัช (พระอาจารย์เกตุ) เป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ต่อไปมาดูกันครับว่าสิ่งที่น่าสนใจในแต่ละจุดมีอะบ้าง จุดที่หนึ่ง เมื่อเข้ามาในวัดจะพบกับพระวิหารหลังใหญ่เป็นจุดสะดุดตา หากนักท่องเที่ยว มาแล้วอันดับแรกต้องขึ้นไปกราบพระประธานบนพระวิหารให้ได้นะครับจะมีพระประธานองค์สีเหลืองทองประดิษฐานอยู่บนอยู่อยู่บนฐานในซุ้มสวยงามมาก เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดที่สอง จะพบกับหอพระไตรปิฎกเก่า สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2475 หอพระไตรปิฎกเก่าแห่งนี้เป็นหอสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้มีตัวมอมอยู่ฝั่งซ้ายขวาบันไดก่อนจะเข้าไปในหอพระไตรปิฎก( มอม เป็นสัตว์ในจินตนาการอย่างหนึ่งรูปร่างคล้ายราชสีห์ผสมมังกรเป็นศิลปะล้านนาจะพบมากในภาคเหนือซึ่งจะมีการปั้นประดับไว้แถววัดในภาคเหนือเป็นส่วนใหญ่) เท่าที่ผู้เขียนเห็นหอพระไตรปิฎกแห่งนี้จะใช้เก็บคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาภาคเหนือจะเก็บคัมภีร์ใบลานคำสำคัญอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งจากการประเมินด้วยสายตาหอพระไตรปิฎกยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์เก่า ๆ แบบนี้หาชมยากหายากมากในสมัยนี้ เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดที่สาม พระอุโบสถเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา เช่น ลงฟังการสวดพระปาฏิโมกข์ ทำพิธีอุปสมบท เป็นต้น ปกติอุโบสถนี้จะห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าโดยเฉพาะเวลาที่พระสงฆ์ทำสังฆกรรม เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดที่สี่ เป็นศาลาประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมองค์สีทองตรงนี้นักท่องเที่ยวสามารถเข้ากราบสักการะขอพรได้เขาว่าถ้าใครขอพรสำเร็จแล้วหากจะเอาอะไรมาถวาย เช่น ผลไม้ ดอกไม้ ได้หมด ยกเว้นอย่างเดียวคือ เนื้อสัตว์เพราะมีความเชื่อว่า พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ในพระพุทธศาสนามหายาน (ทางฝ่ายมหายานจะไม่รับประทานเนื้อสัตว์) ดังนั้นหากใครจะเอาของมาสักการะถวาย ทางวัดจึงห้ามนำเนื้อสัตว์มาถวาย เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) จุดที่ห้า จุดสุดท้ายครับเป็นจุดที่สำคัญทางจิตใจอย่างยิ่งของผู้ที่เข้ามายังวัดแห่งนี้ คือศาลาเก็บสรีระสังขารของหลวงปู่ครูบาน้อย ชยวังโส เป็นศาลายกสูง 2 ชั้นตรงนี้ท่านสามารถขึ้นไปกราบสักการะขอพรได้ ดังเช่นที่ผู้เขียน ได้นำเสนอไปในเบื้องต้นว่าสรีระสังขารของครูบาท่านไม่เน่าเปื่อย มีการบรรจุไว้ในโลงแก้วให้ได้เข้ากราบสักการะขอพร เครดิตภาพจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.) อย่าลืมนะครับถ้ามีโอกาสผ่านไป-มาสามารถแวะเข้ามาได้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ท่าน และครอบครัว สำหรับการเดินทางมาวัดบ้านปงแห่งนี้ไม่ยากครับ...ถ้าท่านมาจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง ขับรถมาถึงสี่แยกสัญญาณไฟจราจรแยกเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เลี้ยวขวาเข้ามาประมาณ 4 กิโลเมตรจะพบกับป้ายบอกทางเข้าวัดด้านซ้ายมือของท่านขับรถก็มาอีก 200 เมตรก็จะพบกับจุดหมายดังกล่าว อย่าลืมนะครับมาให้ได้นะครับ เพราะเป็นวัดอีกหนึ่งวัดที่ต้องห้าม (พลาด) สำหรับวันนี้ธรรมะสวัสดีครับ.....