19 มกราคม 2563 ขณะที่กำลังขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส อยู่บนถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 44 จากพุนพิน สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปกระบี่ เมืองที่มีคำขวัญน่ารัก ๆ ว่า “เมืองกระบี่น่าอยู่ ผู้คนน่ารัก” ช่วงที่กำลังผ่านอำเภอปลายพระยาเข้าเขตอำเภออ่าวลึก ทิวทัศน์สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนไป เรามองตรงไปข้างหน้า เป็นเพราะขับรถอยู่บนที่สูงกว่า จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองกระบี่ได้จากระยะไกล ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เราถึงกับอุทาน “ว้าว!” นี่เรากำลังเข้าสู่ดินแดนแห่งเทพนิยายหรือไรกัน? ทิวเขารูปทรงประหลาด โผล่ยอดสลับซับซ้อนเหนือหมู่เมฆและท้องฟ้าสีสดใส นั่นอาจจะเป็นเกาะแก่งมากมายที่อยู่ในทะเลอันดามันตะวันตกก็เป็นได้ หันมามองดูทิวทัศน์ใกล้ ๆ รอบ ๆ ตัวบ้าง ทางด้านขวามือของเรา ถัดจากริมถนนไปเป็นที่ราบเวิ้งกว้างสีเขียวอ่อนตัดขอบกับแนวของทิวเขาสีเขียวเข้มของต้นไม้ใหญ่น้อย ที่สันเขามีรูปร่างปูดโปนแปลก ๆ มีหน้าผาหินปูนสีขาวแทรกอยู่ในท่ามกลางสีเขียวเข้ม ที่เห็นว่าแปลกนั้น เพราะภูเขาที่นี่รูปทรงแตกต่างกับภูเขาที่เราคุ้นเคยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภูเขาดินและหินทรายมีลักษณะเป็นทิวเขาสูงต่ำลาดชันสลับซับซ้อนลดหลั่นกัน เรารู้สึกเสียดาย ถ้าจะผ่านจุดชมวิวสวยข้างทางตรงนี้ไปเฉย ๆ แต่ถ้าจะจอดรถเพื่อลงไปถ่ายภาพ อาจจะไม่ปลอดภัยเท่าใดนัก เพราะเป็นที่เปลี่ยว ปลอดบ้านเรือน จึงลดความเร็ว แล้วบอกน้องที่นั่งรถมาด้วย ให้ถ่ายรูปให้ จ๊อยหัวเราะขบขัน “ดูหัวหน้าตื่นเต้นมากเลยนะคะ” "ยัง ๆ น้อง ยังมีที่ให้ตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ มากกว่านี้อีก จ๊อยเคยไปหรือยัง อ่าวนาง" "หนูยังไม่เคยมากระบี่เลยค่ะ" จ๊อยตอบ "งั้นคืนนี้ เราจะไปนอนค้างคืนที่อ่าวนางนะ พรุ่งนี้เช้าค่อยไปพังงา" เราขับรถมาจนถึงสามแยกที่เป็นจุดบรรจบกับถนนเพชรเกษม หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ที่ตำบลคลองหิน อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ระหว่างทางก่อนจะเข้าตัวอำเภอเมืองกระบี่ เราแวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม ป.ต.ท. แล้วใช้สมาร์ทโฟนจองโรงแรมผ่านอะโกด้า เลือกที่พักติดชายหาด ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ไปถึงที่นั่นเป็นเวลาเกือบ 1 ทุ่ม ขนกระเป๋าเข้าห้องพักเสร็จ ก็พากันออกมาเดินเล่นเลียบชายหาด นักท่องเที่ยวทั้งฝรั่งและชาวจีน มาเป็นครอบครัว บ้างก็ควงมาเป็นคู่ สีสันของแสงไฟยามค่ำคืนทำให้ walk street อ่าวนาง มีเสน่ห์น่าเดิน ผู้คนละลานตา ร้านอาหารเต็มไปด้วยผู้คน กลิ่นไก่ย่างหอมโชยลมมาแตะจมูก เราจึงเลือกร้านส้มตำไก่ย่างชื่อร้านส้มตำขอนแก่น มีฝรั่งนั่งรับประทานอยู่ 3 โต๊ะ ที่เหลือเป็นคนไทย 2 โต๊ะ และคนจีน 1 โต๊ะ ดูจากลูกค้าแล้ว จัดว่าร้านส้มตำธรรมดา ๆ ร้านนี้ เป็นร้านอาหารนานาชาติตำรับเด็ดร้านหนึ่งเชียวล่ะ คืนนี้ เป็นคืนมหัศจรรย์ของสาวจ๊อย ชาวนครศรีธรรมราช ผู้ไม่เคยแผ้วพานลมทะเลอันดามันฝั่งตะวันมาก่อน เป็นคืนที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับเธอยิ่งนัก ถึงกับพึมพำให้ได้ยินว่า "กระบี่นี่ช่างเป็นเมืองที่ไร้เทียมทานจริง ๆ นะหัวหน้า" เรากับจ๊อยเดินช้อปปิ้งไปตามฟุตบาทถนนเลียบชายหาดอ่าวนาง ร้านค้าขายของมากมายหลายชนิด มีทั้งของเล่นของเด็ก ของที่ระลึก จำพวกสบู่ เครื่องประดับ พวงกุญแจ กระเป๋า เสื้อผ้าลวดลายสดใส พวกอาหารของกินเล่น และเครื่องดื่มพวกน้ำปั่น น้ำผลไม้ มีหลากหลายให้เลือกสรร เสียงเพลงบรรเลงจากร้านอาหาร และเสียงเรียกเชิญชวนให้เข้าไปซื้อของดังเป็นระยะ ๆ รู้สึกตัวว่า ชักจะเดินไกลจากที่พักมากเกินไปแล้ว นี่เราเพลิดเพลินเสียจนลืมดูเวลาไปเลย โอ้! อีก 20 นาทีก็จะเที่ยงคืน ต้องขอตัวกลับที่พัก ลาไปนอนก่อน ไว้เที่ยวด้วยกันใหม่ กู้ดไนท์ค่ะ