Penang เป็นรัฐหนึ่งของประเทศมาเลเซีย อยู่ห่างจากปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประมาณ 200 กม. การเดินทางค่อนข้างง่าย สามารถเดินทางได้ทั้งทางเครื่องบิน รถตู้โดยสาร และรถไฟ วันนี้เราจะมาแจกทริปราคาประหยัดนั่งรถไฟไปปีนัง ด้วยงบเพียง 1500 บาท สำหรับการเดินทางไปเยือนเมืองพหุวัฒนธรรม ที่รวมหลายเชื้อชาติ ศาสนา และความหลากหลายทางด้านภาษา เริ่มจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ขบวนที่ 45 ชุมทางหาดใหญ่ >> ปาดังเบซาร์ (07:20-08:05) ราคาตั๋ว 50 บาท นั่งกินลมชมวิวข้างทางประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง เราก็จะถึงสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ แต่!!! เพื่อน ๆ อย่าเพิ่งลงสถานีนี้นะ สถานีนี้ยังเป็นเขตของประเทศไทย รถไฟจอดเพียงไม่นานก็จะเดินทางต่อประมาณ 5 นาทีก็จะถึงสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ 2 จุดนี้แหละที่เราต้องลงไปจ๊อบพาสปอร์ต ด่านแรกก็จะเป็นของฝั่งไทย ด่านถัดไปเป็นด่านฝั่งมาเลเซีย อย่าลืม!! ลงทะเบียนเข้าประเทศ MDAC (https://imigresen-online.imi.gov.my/mdac/main?registerMain) จนท.จะขอดูตอนจ๊อบพาสปอร์ต เพื่อนๆสามารถลงทะเบียน ณ จุดนั้นก็ได้ แต่เพื่อความรวดเร็วสามารถลงทะเบียนล่วงหน้ามาได้เลย จนท.ไม่ดุ ทักทายได้ เซอลามัต...... >< เมื่อผ่านด่านแล้วก็ขึ้นบันไดมาซื้อตั๋วรถไฟที่ชั้น 2 ของสถานี จะมีเคาน์เตอร์แยกกันระหว่างรถไฟมาเลเซีย (KTM) กับรถไฟไทย (การรถไฟแห่งประเทศไทย) **ประเทศมาเลเซียเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง อย่าลืมปรับเวลากันนะเพื่อน ๆ เริ่มปรับที่สถานีรถไฟได้เลย ปาดังเบซาร์ >> บัตเตอร์เวิร์ท (10:30 - 12:30 MYT) ราคาตั๋ว 114 บาท หรือ 11.4 ริงกิต **เก็บตั๋วให้ดี ใช้สำหรับผ่านเข้าประตู และออกประตูปลายทาง เมื่อถึงสถานีรถไฟบัตเตอร์เวิร์ทเดินขึ้นไปยังชั้น 2 ของสถานีเพื่อสแกนตั๋วออกและเดินทางไปยังท่าเรือเฟอร์รี่เพื่อข้ามฟากไปยังจอร์จทาวน์ เฟอร์รี่มีหลายรอบ เพื่อน ๆ สามารถแวะทานข้าวหรือเข้าห้องน้ำได้ที่ Penang Sentral ซึ่งเป็นทางผ่านที่จะไปท่าเรือเฟอร์รี่ มีร้านอาหารคาว หวาน ให้เลือกกินเยอะเลย และยังเป็นจุดขายตั๋วรถโดยสารหากเพื่อน ๆ อยากเดินทางไปเที่ยวเมืองต่าง ๆ ของประเทศมาเลเซีย เรือเฟอร์รี่บัตเตอร์เวิร์ท >> จอร์จทาวน์ 2 ริงกิต (ไม่รับเงินสด รับบัตรเครดิต) ใช้เวลาประมาณ 10 ถึง 15 นาที เราก็จะถึงจอร์จทาวน์ จากนั้นเราก็เดินไปที่ Bus Service เราเลือกนั่งรถบัส Central Area Transit (CAT) ฟรี!! รถบัสก็ดีนะ เหมือนได้นั่งรถชมเมืองปีนังไปในตัว เราเลือกลงป้ายรถบัสใกล้ร้านข้าวที่จะไปกิน (ถึงโรงแรม The George ก็เตรียมตัวลงได้เลย) เดินประมาณ 500 เมตรก็จะถึงร้าน Goh Thew Chik Haina Chicken RiceGoh Thew Chik Haina Chicken Rice ร้านนี้เพื่อนที่ปีนังแนะนำมา อร่อยมากเลย ไม่รู้ว่าชื่อเมนูอะไร ให้เขาดูรูปแล้วบอกว่าสำหรับทาน 2 คน ราคาทั้งหมด 31 ริงกิต หรือ ประมาณ 240 บาทกินเสร็จก็เดินไปที่พัก เน้นเดินฮะ ประหยัดดี >< เดินง่าย อากาศร้อนเหมือนไทย ที่พัก Loop on leith george town penang hotel จองผ่าน Agoda ราคารวมภาษีประมาณ 1000 บาท มีอาหารเช้าด้วย ห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก พนักงาน ทุกอย่างโอเคเลย เหมาะสมกับราคา หลังจากเช็คอินเก็บของเรียบร้อยเราก็เริ่มออกเที่ยว ลุยยยยยKek Lok Si Temple เริ่มจากนั่งบัส CAT จากใกล้ ๆ ที่พักไปลง Komtar Bus Terminal จากนั้นก็รอรถสาย 203 เพื่อไปวัด Kek Lok Si ค่าโดยสาร 2 ริงกิต (จ่ายเป็นเงินสด) เราค่อนข้างประทับใจกับที่นี้เพราะตอนแรกไม่ได้อยู่ในแพลนที่จะไป แต่อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจแวะไปหน่อย พอไปถึงก็ว้าวกับสิ่งที่เห็นตรงหน้ามาก ๆ ทั้งธรรมชาติที่เกิดขึ้นเอง และสิ่งปลูกสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นPenang Hill เนื่องจากเราอยากรีบขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกให้ทันเลยเรียก Grab ราคา 6 ริงกิต (แอพเดียวกับที่ไทย) ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงที่หมาย ราคาตั๋ว 30 ริงกิต ตอนขึ้นรถรางไฟฟ้าสนุกดี หวาดเสียวนิดหน่อย พอขึ้นไปถึงบนเขาก็ได้สัมผัสกับอากาศเย็น ๆ เห็นหมอกจาง ๆ จนเริ่มดึกหมอกก็เริ่มปกคลุมหนาขึ้น บนเขามีร้านอาหาร จุดถ่ายรูป จุดชมวิว วัด และมัสยิด เราสามารถมองเห็นเมืองปีนังได้จากจุดนี้ ใช้เวลาเสพธรรมชาติให้เต็มอิ่ม และมองแสงไฟที่เริ่มเปิดขึ้นเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า จากนั้นเราก็ลงมาเพื่อขึ้นรถบัส 204 กลับเข้าในเมือง ราคา 2 ริงกิต รถออกประมาณ 20:10Chulia Street อาหารสตรีทฟู้ด ส่วนใหญ่จะมีพวกเมนูเส้น หมี่ผัดแบบแห้ง ๆ ผัดไทยแบบบ้านเราก็มี พ่อค้าแม่ค้าพูดไทยกันเก่งมาก ราคาไม่แพงด้วย ดึก ๆ แวะไปกินกันได้ ถนนสายนี้นอกจากจะมี Chulia Street แล้ว ยังมีร้านนั่งชิว ร้านเหล้า ร้านน้ำชาตามถนนสองข้างทางอีกด้วย ยิ่งดึกยิ่งครึกครื้น Chew Jetty & Tan Jetty เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วย หมู่บ้านชาวประมงปีนัง เป็นโซนบ้านไม้เก่า ๆ มีกลิ่นอายศิลปะแบบจีน มีสะพานยื่นไปในทะเล ถ้าอยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นต้องไป Tan Jetty ไม่มีค่าเข้า หรือคนเฝ้า สามารถเดินเข้าไปได้เลย อย่าลืมดูเวลาพระอาทิตย์ขึ้นของมาเลเซียนะ ความโก๊ะของเราคือ ตื่นมาลืมสิ้นทุกอย่าง ออกมาดูพระอาทิตย์ขึ้นเวลาไทย รอนานมาก แต่ก็ดีไปอีกแบบ นั่งตั้งแต่ฟ้ามืดยันฟ้าสว่าง ได้ฟังเสียงคลื่นที่กระทบชายฝั่ง เสียงลม ทุกอย่างนิ่งสงบเพราะมันเช้ามาก ผู้คนยังไม่ออกมา >< ส่วน Chew Jetty เปิดให้เข้า 9 โมงเช้า ไม่มีค่าเข้า เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีโซนที่เปิดร้านขายของฝาก มีของกินทั้งคาว และหวาน บางโซนก็เป็นที่อยู่อาศัยจริง ๆ ไม่ได้เปิดเป็นร้าน และยังมีงานอาร์ตตามผนังบ้าน ลองไปตามรอยกันดูนะPenang Street Art ปีนัง สตรีท อาร์ท ถนนสายศิลปะ มีงานศิลป์ริมถนนมากมายหลายจุด ถ้าเดินไม่ไหวมีรถจักรยานไฟฟ้าให้เช่ายืมด้วย แต่ด้วยพลังนักท่องเที่ยว เราสู้ตาย เดินไปเรื่อย เดินไปเดินมาก็หลายกิโลอยู่ พอเดินเสร็จเราก็รีบกลับไปกินข้าวเช้าที่โรงแรม พักผ่อนนิดหน่อยแล้วก็เช็คเอาท์กลับไทยด้วยรถไฟเหมือนเดิม การเดินทางทุกครั้งนอกจากจะให้ความทรงจำดี ๆ กลับมาแล้ว ยังให้ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ หากเราไม่สัมผัสด้วยตัวเอง การมาเยือนปีนังครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเรา ครั้งแรกของเราคือการมาคนเดียว (สาย alone trip ไรงี้) ตอนนั้น ก่อนไปแอบมีความกลัวและความกังวลนิดหน่อยว่าเราจะไปรอดรึป่าว แต่สุดท้ายพอได้ไปจริง ๆ มันสนุก มันเปิดโลกมาก ๆ เลย ส่วนครั้งนี้ เพื่อนขอให้พาไปเที่ยว กลายเป็นว่าความสุขของเรา มันอยู่กับเพื่อน คือถ้าเพื่อนจอยและมีความสุข เราก็สุขไปด้วย หวังว่าทุกคนจะมีความสุขและได้ประสบการณ์ดี ๆ กลับมา และอย่ากลัวที่จะไปเที่ยวคนเดียว ><&nbsp;ภาพหน้าปก จัดทำโดย Tlayyaภาพประกอบทั้งหมด จัดทำโดย TlayyaTag#ปีนัง2วัน1คืน #Penangtrip #มาเลเซียทริป อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !