ปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 ช่วงหยุดยาวปีใหม่ คุณพ่อพาขับรถจากไทยไปกัมพูชาทริปนี้เกิดขึ้นแบบที่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเดินทางด้วยวิธีนี้ ....ขับรถจากไทยไปกัมพูชาทริปนี้เกิดเมื่อพนักงานที่ร้าน มาขอลางานกลับบ้านช่วงปีใหม่ ขอกลับไปจัดงานทำบุญให้พ่อกับแม่ที่บ้านพนักงานที่ร้านเป็นคนกัมพูชา บ้านอยู่ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชาเราเลยอยากจะไปร่วมงานบุญในครั้งนี้และเห็นว่าเป็นช่วงปีใหม่พอดี นครวัด อีกสถานที่ที่เราอยากจะไป แต่ยังไม่มีโอกาส ครั้งนี้หลังจากงานบุญนี้แล้ว เราจะเดินทางไปนครวัดด้วยเริ่มหาข้อมูลจากการดูตั๋วเครื่องบิน เพราะว่าเป็นช่วงปีใหม่ค่าตั๋วเครื่องบินราคาค่อนข้างสูง การเดินทางครั้งนี้เราจะเดินทางกัน 4 คน ถ้าซื้อตั๋วเครื่องบิน บินไปถึง ก็ต้องเช่ารถหรือไกด์นำทางอีก เลยเกิดความขึ้นขึ้นว่า กัมพูชา ขับรถไปได้ใช่ไหม เดี่ยวลองหาข้อมูลดูใช่!! กัมพูชาขับรถข้ามแดนชายแดนไปได้ แต่ข้อมูลที่เราหาได้มีไม่ค่อยเยอะและส่วนใหญ่จะเป็นการผ่านข้ามแดนทางด่านปอยเปต แต่การเดินทางครั้งนี้ของเรา เราตั้งใจจะเดินทางออกจากจากประเทศไทย ทางด่านผักกาด และเข้าประเทศกัมพูชาทางด่านปรม จังหวัดไพลิน แล้วค่อยมุ่งหน้าสู่ จังหวัดพระตะบอง ที่เราเลือกไปเส้นทางนี้ เพราะว่าวันหยุดยาวก่อนปีใหม่ จะพาเด็กๆไปหาคุณปู่ คุณย่า ที่ อ.แกลง จ.ระยอง ด่านผักกาดน่าจะใกล้ที่สุดในการเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชาเส้นทางการเดินทางในครั้งนี้กรุงเทพ-แกลง-พระตะบอง-เสียมเรียบ-ปอยเปตค่อยๆขับรถแวะพักไปเดินทางทั้งหมด 5 วัน ในประเทศกัมพูชาเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนขับรถเข้าประเทศกัมพูชาคู่มือจดทะเบียนรถ ( ต้องเป็นเจ้าของรถ แล้ว รถไม่ติดไฟแนนซ์) 3 ชุด (ชื่อของผู้ขับรถต้องเป็นเจ้าของรถ)แบบ ตม.2 ,ตม.3 ตม, 4สำเนาใบขับขี่ 3 ชุดสำเนาพาสปอร์ตคนขับ 3 ชุดใบ ว. ขอจากหน่วยนาวิกโยธิน โป่งน้ำร้อน (เฉพาะถ้าจะออกด่านนี้ )สำเนาบัตรประชาชน 3 ชุดรูปถ่ายรถ ด้านหน้า-หลัง 3 ชุดสำเนาพาสปอร์ตของผู้ร่วมเดินทาง คนละ 3 ชุดสำเนาหน้า 16 (หน้าที่เสียภาษี) ของคู่มือจดทะเบียน 3 ชุดขั้นตอนยื่นเอกสารผ่านแดนเมื่อเดินทางไปถึงหน้าด่านไปติดต่อต.ม.สำหรับส่งเอกสารของรถยนต์ เพื่อให้ตม. ทำเอกสารสำหรับรถยนต์ที่จะขับข้ามประเทศหลังจากที่ได้เอกสารขอรถยนต์ให้เดินไปที่ตม.เพื่อไปประทับตราออกนอกประเทศในพาสปอร์ต เจ้าหน้าที่จะลงข้อมูลในระบบและส่งเอกสารให้เราไปติดต่อศุลกากรส่งเอกสารให้ศุลกากร เพื่อให้ทำใบผ่านให้เราไปยื่นกับทางต.ม.ของประเทศกัมพูชา (เอกสารใบขนสินค้าพิเศษเก็บไว้ให้ดีเพราะต้องคืนเวลาแจ้งเข้าประเทศไทย)เมื่อเอกสารทั้งหมดครบเรียบร้อยเราก็ขับรถ ข้ามแดนที่ ด่านช่องผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี (ด่าน prum (ปรม ) จ.ไพลิน กัมพูชา)เสร็จขั้นตอนฝั่งไทยตอนนี้รถเราข้ามมาอยู่ฝั่งกัมพูชาแล้ว ให้เตรียมเอกสารปั๊มออกที่ด่านตม. และไปติดต่อ ศุลกากรของกัมพูชาแจ้งทางศุลกากรและตม.ว่าเราจะเดินทางกลับวันไหน และจะขับรถออกที่ด่านไหน ครั้งนี่เราจะเดินทางออกที่ด่านปอยเปต ก็ต้องแจ้งทางตม.ไว้ด้วยต้องลงทะเบียน online ให้ทาง ศุลกากร กัมพูชาได้เห็นข้อมูล รถยนต์และคนขับ ( https://apps.customs.gov.kh/login ) แนะนำให้ทำไปก่อนเพื่อความง่ายและไม่เสียเวลาครบทุกขั้นตอนเราขับเข้าไปเที่ยว พระตะบอง - เสียมเรียบ ( นครวัด ) ได้แล้ว1 มกราคม 2567 : แกลง-พระตะบองการเดินทางเริ่มต้นที่ อ.แกลง จ.ระยอง ขับผ่านตัวเมืองจังหวัดจันทบุรี ไป อ.โป่งน้ำร้อน จนถึงด่านผักกาด 4 คนพ่อแม่ลูก ใช้เวลาที่ตม. และศุลกากร ทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา ประมาณ 1.30- 2 ชม. อย่าไปตอนเที่ยงตรง เราจะติดเค้าพักเที่ยง 2 ชม. ที่กัมพูชาขับรถข้างขวา จากด่านช่องปรม จังหวัดไพลิน ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง เดินทางเข้าสู่จังหวัดพระตะบอง หลังจากเช็คอินที่โรงแรมเรียบร้อย มื้อกลางวันประมาณบ่ายสอง เราเดินจากโรงแรมที่ไปที่ Jaan Bai เป็นร้านอาหาร Local ที่ปรับรสชาติอาหารกัมพูชาให้ทุกคนทานได้ Jaan Bai เป็นภาษาเขมรแปลว่า ชามข้าวมื้อเย็นวันนี้ขับรถกันไปที่ริมน้ำtหาหม้อไฟร้อนๆกินกัน CHUAN MA PO คือร้านที่เราเลือก เป็นร้านหม้อไฟแบบจีนที่เลือกหยิบของในตู้เย็นมาได้ตามใจและคิดราคาตามจาน ที่เราหยิบ2 มกราคม 2567 : พระตะบองมื้อเช้าวันนี้เรากินอาหารเช้ากันที่ร้าน Pong เป็นร้านแซนด์วิชสไตล์เกาหลี เป็นอาหารเช้าทานง่ายๆ แพคเกจสะอาดทันสมัย มีให้เลือกหลากหลายเมนู ชื่อร้าน Pong ออกเสียงว่า โปง ภาษากัมพูชาแปลว่า ไข่มาเมืองพระตะบองต้องลองมานั่ง Bamboo Train เป็นไม้ไผ่ที่มาต่อกันเป็นที่นั่ง ติดล้อด้านล่างและเอาไปวิ่งบนรางรถไฟ เราพาเด็กมาลองนั่งกันที่ Banon Bamboo Trainดูค้างคาวออกจากถ้ำที่ Phanom Sampov bat cave ค้างคาวออกจากถ้ำเยอะมากเริ่มออกเวลาหกโมงเย็น ถ้าไปถึงก่อนเวลาก็ขึ้นไปดูวิว เมืองพระตะบองด้านบน จะมีไกด์พานำเที่ยวอธิบายถึงประวัติศาสตร์ยุคเขมรแดง มีถ้ำ The Killing Cave หรือที่เรียกว่าทุ่งสังหาร มีปืนใหญ่ 2 กระบอก ซึ่งเป็นปืนใหญ่ในยุคเขมรแดงหลังจากดูค้างคาวออกจากถ้ำเราขับรถกันกลับเข้าเมืองก่อนเข้าที่พักแวะทานมื้อเย็นที่ร้าน La pizza เป็นพิซซ่าเตาฟืน ที่รสชาติอร่อยสไตล์อิตาเลียนแท้ แต่บางเมนูก็มีการปรับให้มีหน้าพิซซ่าที่เป็นอาหารกัมพูชา บรรยากาศดี นั่งสบาย3 มกราคม 2567: พระตะบอง-เสียมเรียบ ( นครวัด )วันนี้เราจะออกเดินทางออกจากพระตะบองไปยังเมืองเสียมเรียบ เมืองที่เป็นที่ตั้งของนครวัด (Angkor Wat) นครธม 2 ชั่วโมงเราก็เดินทางกันมาถึง ก่อนที่เราจะเข้าชมนครวัด ต้องไปซื้อบัตรเข้าที่ Angkor Enterprise ราคาตั๋ว 1 วัน 37$ ตั๋ว 3 วัน 62$ ตั๋ว 7 วัน 72$ ต้องเอาพาสปอร์ตไปซื้อและทำบัตรสำหรับท่องเที่ยวในนครวัด นครธม เพราะจะมีจุดตรวจบัตรก่อนเข้าปราสาทต่างๆ ถ้าเราซื้อบัตรล่วงหน้าของวันรุ่งขึ้นหลัง 16.30 น. จะสามารถไปขึ้นปราสาทพนมบาเค็งเพื่อดูพระอาทิตย์ตกในเย็นวันนั้นได้เลย และวันรุ่งขึ้นเราก็จะใช้บัตรนี้เที่ยวได้อีก1 วันสำหรับคนที่ซื้อบัตรแค่ 1 วัน แต่ครั้งนี้เรา ซื้อบัตรเที่ยวสำหรับ 3 วัน เด็กอายุต่ำกว่า 12 เข้าฟรีปราสาทพนมบาเค็ง เป็นจุดชมวิว ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกดิน ระยะทางการเดินขึ้นไป ประมาณ 1.5 กิโลเมตร เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ยังไม่สามารถขึ้นไปบนตัวปราสาทได้เนื่องจากทางขึ้นสูงและชันมาก เด็กๆเลยต้องรอกันอยู่ด้านล่าง4 มกราคม 2567วันนี้ต้องพาเด็กๆไป Angkor Wildlife & Aquarium ไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางครั้งนี้ แต่เมื่อเด็กๆอยากเรียนรู้เรื่องสัตว์ เลยนอกแพลนพาเด็กไปตะลุยสวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ตอนบ่ายขับรถกันมาที่ปราสาทตาพรหม เป็นปราสาทที่มีรากไม้ขนาดใหญ่เลื้อยปกคลุมปราสาท เป็นภาพที่สวยอลังการมาก สมกับเป็นมรดกโลกนครวัดขับรถไปจอดที่จอดรถและเด็กอยากนั่งสามล้อมายังนครวัด ที่นี่มีมนต์ขลัง สมกับเป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก มีคำถามมากมายว่า สร้างกันได้อย่างไร เรื่องราวๆ ต่างบนผนังทางเดิน บอกถึงประวัติศาสตร์ของดินแดนแห่งนี้ก่อนพระอาทิตย์ตกเรานั่งสามล้อกันมาที่ Angkor Balloon พาเด็กมาขึ้น Balloon ชมวิวมุมสูง 360 องศาของนครวัดและได้ดูพระอาทิตย์ตกบนบอลลูนมื้อเย็นวันนี้เราได้คนกัมพูชาที่เป็นพี่พนักงานที่ร้านเราตามมาสมทบและพาเราไปกินอาหารกัมพูชาที่ร้าน Malis Siemriep (มะลิ เสียมเรียบ) กบย่างสมุนไพร ไก่บ้านย่าง ผัดผักเครื่องในไก่ ปลาช่อนเผา เมี่ยงหมูย่างพร้อมผักเคียง อร่อยอิ่มมากๆ ร้านนี้ถ้าเรามากันเองคงไม่ได้มากิน5 มกราคม 2567เช้าวันนี้เราตื่นกันตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง ถามเด็กๆตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะให้ปลุกไหม เด็กบอกไหว อยากไปด้วย ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัดอีกครั้ง ผู้คนหลั่งไหลกันมาเพื่อมารอดูพระอาทิตย์ที่ยอดปราสาทนครวัด วันนี้พระอาทิตย์ไม่ได้ขึ้นมาตรงกลางของยอดปราสาท แต่ภาพที่ถ่ายได้วันนี้ก็สวยตราตรึงใจออกจากปราสาทนครวัด แวะไปกินขนมจีนร้าน Local สั่งเป็นน้ำยาปลาอันนี้จะคล้ายๆกับอาหารไทยแต่ น้ำยากัมพูชาหรือ นมบัญเจาะ น้ำยาจะคล้ายๆแกงกะหรี่ ทานกับผักเคียงชื่อแปลกๆ ท้องอิ่มเราเดินทางไปต่อที่ไปชมปราสาทบายน ปราสาทบาปวน ทุกปราสาทมีเรื่องราวที่น่าค้นหาทุกที่ ถ้าหามีเวลาและโอกาสอีกเราจะพาเด็กกลับมาที่นี่อีกครั้งในวันที่เค้าโตขึ้น และสามารถที่จะเดินขึ้นปราสาทได้ระหว่างทางกลับมีร้านขนมตาลกำลังนึ่งร้อนๆ แวะซื้อไว้เป็นเสบียงระหว่างเดินทางกลับประเทศไทย เราจะเดินทางออกจากประเทศไทยกันที่ด่านปอยเปต ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จากเสียมเรียบถึงชายแดนไทยกัมพูชาที่ด่านปอยเปตการขับรถในกัมพูชาข้อควรระวังคือการตรวจจับความเร็ว ข้างทางอาจจะเจอตำรวจนั่งอยู่และถือปืนจับความเร็วยิงไปที่รถเพื่อดูว่าขับรถเกินกำหนดความเร็วหรือไม่ ยิ่งถ้าเราเป็นรถทะเบียนไทยเราต้องปฏิบัติตามกฎให้ถูกต้อง การแซง ต้องใช้ความระมัดระวังขับรถเลนขวา พวงมาลัยขวา ต้องแซงซ้าย จะดูรถยากแชร์ประสบการณ์กลับเข้าไทยไม่ได้ใกล้ถึงด่านปอยเปตเราเห็นชายแดนประเทศไทยอยู่ข้างหน้า จอดรถเพื่อไปยื่นเอกสารขอผ่านแดนกลับประเทศ ใช้เอกสารชุดที่เราได้มาจากขาเข้าที่ด่านผักกาด เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ด่านปอยเปต ไม่ให้เราออกที่ด่านนี้เพราะเอกสารที่เราได้มาไม่มีลายเซ็นอนุมัติว่าสามารถออกที่ด่านนี้ได้ เราพยายามคุยกับเจ้าหน้าที่ว่าช่วยอะไรเราได้บ้างไหม เพราะในออนไลน์เราก็ลงทะเบียนไว้แล้วว่าเราจะออกจากกัมพูชาวันนี้ ด่านนี้ เค้าบอกช่วยอะไรไม่ได้ทางเดียวคือคุณต้องขับรถกลับไปออกด่านที่คุณเข้ามา ต้องไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ที่นั่น เดี่ยวผมจะรีบไลน์ไปบอกเค้า คุณต้องรีบขับรถกลับไปให้เร็วที่สุด เราถามเจ้าหน้าที่ว่าที่นั่นปิดกี่โมง เจ้าหน้าที่ตอบมาเพียงว่าให้รีบไป เค้าจะรอเราต้องรีบขับกลับไปที่ด่านผักกาดให้ทันก่อน 1 ทุ่ม เราดูเวลาใน GPS ต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หันหลังไปบอกเด็กๆว่าดูแลตัวเองกันนะลูก หาผลไม้ หาขนมกินกันเองนะ เด็กๆหิวเพราะหลังจากมื้อเช้าพวกเรายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย แต่ตอนนี้เราต้องเดินทางกันต่ออีก 3 ชั่วโมง เราขับรถไปตามเส้นทางเลียบชายแดนประเทศไทยไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผ่านจังหวัดมาลัย ประเทศกัมพูชา พอมาถึงด่านช่องปรมเหมือนเจ้าหน้าที่ที่นี่เค้ารอเราอยู่จริงๆ พอเห็นทะเบียนรถเราเค้าเรียกให้เข้าไปติดต่อที่ศุลกากรเลย สรุปคือ ที่เราไปออกที่ด่านปอยเปตไม่ได้เพราะตอนขาเข้าเราไม่ได้มาติดต่อที่สำนักงานศุลกากรตรงนี้ให้เค้าประทับตราอนุญาติ ในใบศุลกากร เราก็บอกเจ้าหน้าที่ไปตามตรง ว่าเราไม่รู้เราบอกว่าเราพาเด็กไปเที่ยวที่นครวัด และวันนี้กำลังจะกลับ เจ้าหน้าที่ขอข้อมูลที่เราเคยลงทะเบียนออนไลน์ไว้ เค้าเข้าไปดูข้อมูลของเรา ในใจเราเต้นว่าจะผ่านได้ไหม จะผ่านได้ไหม สุดท้ายเจ้าหน้าที่โอเค บอกถ้ามาครั้งหน้าอย่าลืมต้องมาติดต่อที่นี่นะ และแล้วเราก็สามารถเดินทางกลับสู่ประเทศไทยได้ เป็นการเดินทางกลับประเทศที่ดีใจสุด เด็กๆดีใจที่จะได้กลับไปบ้านปู่อีกครั้ง เพราะคืนนี้เราคงจะกลับกรุงเทพกันไม่ไหว เราจะต้องนอนกันที่แกลง อีกคืนปัญหาครั้งนี้พวกเรา 4 คนผ่านมาได้ ระยะเวลา 3 ชั่วโมง เด็กๆนั่งอยู่ด้านหลังหาเสบียงขนมตาล ผลไม้ขึ้นมากินแก้หิว ดูแลตัวเองได้ดี ทุกการเดินทางมีประสบการณ์ให้เราได้เรียนรู้ ทุกการเดินทางทำให้พวกเราแก้ปัญหาและผ่านไปได้ด้วยกัน บทเรียนนอกห้องเรียนครั้งนี้ สอนทั้งพ่อ แม่และ เด็กๆ เครดิตภาพถ่าย Arinangel (เป็นภาพที่ถ่ายเองทั้งหมดจากการเดินทางครั้งนี้)Google Map ร้านอาหารในทริปนี้ร้าน Jaan Bai Restaurant. https://maps.app.goo.gl/RSku5u2Vi4fAgaHp8Chuan Ma po https://maps.app.goo.gl/FjxM4yivw9wnwgmx7La Pizza Battambong https://maps.app.goo.gl/DmtYFv6BaNH1XCX3AMalis Siemriep https://maps.app.goo.gl/UzVPTknFxHKrwgbz6เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !