ความไม่เหมือนใครอีกหนึ่งสิ่งของจังหวัดพิษณุโลกก็คือ ที่นี่คือถิ่นของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ภาพลูกสุนัขตั้งขายในกรงริมถนเส้นสีหราชเดโชชัย ในช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงธันวาคมของทุกปี มักสร้างความสงสัยและชวนให้เข้าไปใกล้ ๆ สุนัขพันธุ์บางแก้วยิ่งนัก เพราะนี่คือของฝากจากเมืองพิษณุโลกที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนาสายพันธุ์มาไม่ใช่น้อย ชื่อของสุนัขคือบางแก้ว เป็นที่แน่นอนว่าเกิดมาจากตำบลบางแก้ว อยู่ในอำเภอระกำของเมืองพิษณุโลก เรื่องน่ายินดีคือสุนัขพันธุ์นี้ได้กลายเป็นหนึ่งในภูมิปัญญาในการพัฒนาสายพันธุ์ จากที่เป็นสุนัขพันธุ์ดุ กลายมาเป็นสุนัขสวย น่ารัก ซื่อสัตย์ ไม่โหดร้าย และสามารถเล่นกับคนได้เป็นอย่างดี คุณพิษณุชัย โพธิ์คง เป็นชาวพิษณุโลกที่ยังคงรักษาพันธุ์สนัขนี้ไว้ ได้เล่าให้เราฟังว่า “พิษณุโลกเป็นถิ่นกำเนิดของสุนัขบางแก้ว สุนัขนี้อยู่คู่กับจังหวัดมาช้านานแล้ว ลักษณะเด่นของสุนัขบางแก้วคือ ขนยาวปานกลาง ขนฟู เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ ภักดีต่อนายมาก ขี้อ้อน เจ้าเล่ห์ ฉลาด บางครั้งจะตีไม่ลงเลยด้วยซ้ำ” ในแง่ภายนอกที่คนชอบกันก็คือ เอกลักษณ์ของสุนัขพันธุ์นี้ โดดเด่นด้วยแข้งสิงห์ หูตั้ง หางพวง ขนสองชั้น และสวยตรงแผงรอบคอ คนส่วนใหญ่ที่ชอบสุนัขพันธุ์บางแก้ว ก็มักจะเลี้ยงสุนัขที่มีสีขาว-ดำ ขาว-น้ำตาล และขาว-เทา และมีโครงสร้างของร่างกายเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สุนัขบางแก่วร่าเริง รักเจ้าของมาก เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่กลัว จิตประสาทมั่นคง กล้าหาญ จนสามารถฝึกให้ดูแลทรัพย์สินที่บ้านได้เป็นอย่างดี สุนัขไทยแท้ ๆ จะดูแลไม่ค่อยยาก เพราะเขาจะคุ้นชินกับสภาพอากาศร้อน ๆ ของบ้านเรา คุณพิษณุชัยบอกว่า “ให้อาหารเป็นหลักวันละ 1 ครั้ง หลังจากที่ให้อาหารเสร็จ 10-15 นาที เขาจะต้องถ่ายเลย ดังนั้นต้องทำความสะอาดกรง ฉีดล้างพื้นทันที ต้องล้างทำความสะอาดทุกวัน และอย่าให้น้ำโดนตัว แล้วก็ต้องปล่อยให้วิ่งเล่นกันด้วย” แต่จริงๆเคล็ดลับการเลี้ยงสุนัขบางแก้วที่ดีที่สุด ควรใช้วิธีธรรมชาติเป็นตัวกำหนดการเลี้ยงดู เขาจะเติบโตมาอย่างอารมณ์ดี และอยู่ได้นาน “ภูมิใจมากเพราะว่าเป็นอาชีพที่ทำเงินให้เราด้วย และก็เป็นอาชีพที่ได้อนุรักษ์ความเป็นไทยไปด้วยพร้อม ๆ กัน ผมรัก และเลี้ยงมัน และมันก็เลี้ยงผมเหมือนกัน ทุกครั้งที่บ่นกับมันว่าไม่มีเงิน มันก็จะหามาให้” นี่เป็นความรัก ความผูกพันของคนรักสุนัขพันธุ์บางแก้ว แห่งเมืองพิษณุโลกที่เราไปเจอมา