ลัดฟ้าไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ไกล้ไม่ไกลจากบ้านเรา 'มาเลเซีย' กันค่ะ ทริปนี้ชาวคณะของเราไปกันช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนของเด็ก ๆ วัยประถมศึกษา และไม่มีเวลาเตรียมตัวเดินทางมากนักสำหรับทริปเที่ยวต่างประเทศ รอบนี้ปักหมุดกันที่ 'Penang' (ปีนัง) เนื่องจากรุ่นพ่อ รุ่นแม่อินกับละครเรื่อง นางอาย ซึ่งในละครนางเอกจบคอนแวนต์ที่ปีนังค่ะ และเป็นการเดินทางไปปีนังครั้งแรกของชาวคณะเราเช่นกัน....'ปีนัง' มีอะไรที่ทำให้ชาวคณะของเราหลงรักนะ ไปติดตามกันค่ะ รู้จักกับ 'ปีนัง'? 'ปีนัง' เป็นหนึ่งในรัฐของประเทศมาเลเซีย มีพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1.ส่วนที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ ที่เรียกว่า บัตเตอร์เวิร์ท (Butterworth) 2. ส่วนที่เป็นเกาะ ที่เรียกว่า เกาะปีนัง ส่วนนี้เป็นที่ตั้งของเมืองจอร์จทาวน์ (Georg Town) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ สำหรับทริปนี้ชาวคณะเลือกไปเที่ยวที่ฝั่งเกาะกันค่ะ เนื่องจากไฮไลท์ของที่เที่ยวปีนังส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองจอร์จทาวน์ การเดินทางไป 'ปีนัง' ทริปนี้ชาวคณะเลือกเดินทางโดยเครื่องบิน ๆ ตรงไปลงที่สนามบินที่ปีนัง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที (พอได้พักสายตาสักงีบ) พอถึงสนามบินปีนังก็ต่อ TAXI ไปโรงแรมที่พัก อ่อลืมบอก! พวกเราเลือกพักโรงแรมฝั่งที่ติดกับทะเล แถวชายหาดบาตูเฟอริงกิ (Batu Ferringhi) เนื่องจากเป็นความต้องการของเด็กน้อยในทริปนั่นเอง ก็จะใช้เวลาจากสนามบินไปโรงแรมที่พักประมาณหนึ่ง คือนั่ง TAXI ประมาณ 45 นาที หากนั่งรถเมล์ของปีนังก็จะใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง (มีรถติดบ้างในเมือง แต่ไม่มากนัก) 'วันแรกของการท่องเที่ยว' วันนี้ตั้งใจไป 'Penang Hill' กันค่ะ ก่อนมาเที่ยวปีนังมีการหาข้อมูลตามอินเตอร์เน็ตเพื่อเตรียมตัวบ้างเนื่องจากทริปนี้ตั้งใจว่าจะเดินทางโดยใช้รถประจำทาง หรือรถเมล์กัน แอบตื่นเต้นเหมือนกันว่ารถเมล์ของประเทศมาเลเซียจะเหมือนบ้านเราไหม? แต่สิ่งที่พบคือ ง่ายค่ะ เริ่มตั้งแต่ป้ายรถเมล์ (Bus Stop) จะมีป้ายบอกรายละเอียดรถเมล์แต่ละสายที่ผ่านป้ายรถเมล์ พร้อมจุดจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร และราคา สำหรับรถเมล์ที่นี่จะต่างกับบ้านเราตรงที่ไม่มีกระเป๋ารถเมล์ คนขับรถเป็นผู้เก็บค่าโดยสารเอง อีกอย่างหนึ่งที่ชอบคือไม่ต้องกลัวลงผิดป้ายค่ะ บนรถเมล์จะมีจอมอนิเตอร์คอยเตือนให้เราเตรียมตัวว่าอีกกี่นาทีจะถึงสถานีไหนก่อนลง...หลงรัก รถเมล์ที่ปีนัง (แบบไม่ได้ตั้งใจ) ค่ะ สำหรับการเดินทางของเราจากโรงแรมที่พักไป 'Penang Hill' นั่งรถเมล์ 2 ต่อค่ะ คือจากโรงแรมที่พักไปสถานีต่อรถ (Komtar) ซึ่งชาวคณะหาข้อมูลมาว่ามีรถเมล์สายเดียวจาก Komtar ไป 'Penang Hill' คือ 204 คนเยอะมากเนื่องจากวันที่ไปตรงกับวันอาทิตย์...ได้ขึ้นรถเมล์ แต่ยืนตลอดทางจนถึง 'Penang Hill' (สุดสาย) กันเลย ไปถึง 'Penang Hill' ต่อคิวซื้อตั๋วนั่งกระเช้าเพื่อขึ้นไปด้านบนกันค่ะ ราคาตั๋วนอกจะแยกระหว่างคนมาเลเซีย นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักเรียน/ นักศึกษาแล้ว ยังแบ่งเป็นตั๋วเส้นทางปกติซึ่งต้องรอคิวขึ้น (ชาวคณะรอคิวเกือบ 1 ชั่วโมงได้กว่าจะได้นั่่งกระเช้ากัน) กับเส้นทางพิเศษ (ราคาประมาณ 2 เท่าของราคาเส้นทางปกติ) ซึ่งจะได้ Pass คิว (รอไม่เกิน 10 นาที) วิวระหว่างทางขึ้นสวยมากค่ะ เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนของ 'Penang Hill' มีกิจกรรมและมุมถ่ายรูปมากมาย อาทิเช่น เดินศึกษาธรรมชาติ นั่งรถกอล์ฟชมวิวรอบๆ พิพิทธภัณฑ์นกฮูก (Owl Museum) วัดชาวฮินดู มัสยิด สะพานคู่รักให้นักท่องเที่ยวไปคล้องกุญแจ เหมือนในซีรี่ย์เกาลีก็มีนะ... ฯลฯ ที่สำคัญอาหารการกินมีให้เลือกมากมาย จนทานกันไม่ไหว ชาวคณะเราขึ้นไปถึง 'Penang Hill' ประมาณเที่ยง และนั่่งกระเช้ากลับลงมาเกือบ 6 โมงเย็นได้ แต่ยังรู้สึกเที่ยวได้ไม่ครบเลย คงต้องไปอีกแน่นอนค่ะ หาดบาตูเฟอริงกี (Batu Ferringhi) กลับจาก 'Penang Hill' นั่งรถเมล์แวะหาดบาตูเฟอริงกี กันสักนิด...ฟ้ายังไม่มืดนี่นา (ทั้ง ๆ ที่เกือบจะ 2 ทุ่มแล้ว) เพื่อดูว่าหาดทรายสวยสู้บ้านเราได้ไหม? และหาอาหารเย็นรับประทานกัน หาดทราย ๆ หยาบ และสวยสู้บ้านเราไม่ได้ค่ะ แต่่น้ำทะเลพอเล่นได้อยู่นะ แต่สิ่งที่ประทับใจคือ มีอาหารให้เลือกหลากหลายค่ะ ทั้งสไตล์อาหารมาเลเซียแท้ ๆ อาหารแบบมาเล-อินเดีย อาหารประเภททะเลเผา หรือสเต็กก็มีค่ะ....หลงรัก อาหารที่ปีนัง (ไปที่ไหนก็มีแต่ของกินค่ะ) 'วันที่สองของการท่องเที่ยว' วันนี้ตั้งใจไปเดินชม 'Street Art ในจอร์จทาวน์' กันค่ะ ออกจากที่พักแต่เช้า นั่งรถเมล์ลงแถวถนนจอร์จทาวน์ แล้วก็เดิน ๆ กันตอนแรกเดินแบบไม่มีจุดหมายแต่มีนักท่องเที่ยวชาวไทยมากันเยอะค่ะ ชาวคณะก็เลยขอเดินตาม แต่สุดท้ายถึงบางอ๋อตอนได้คุยกับร้านค้าย่านนี้ ชาวคณะเราเนื่องจากเป็นทาสแมว จึงขอแวะร้านขายของที่ระลึกที่เกี่ยวกับแมวค่ะ ชื่อร้าน 'The Heritage Cat' เจ้าของร้านใจดีและมนุษยสัมพันธ์ดีมาก ให้แผนที่ Street Art มาค่ะ และแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมรายละเอียด ซึ่งก็ไม่พ้น คาเฟ่แมว ร้านอาหาร หรือคาเฟ่น่านั่งในย่านนี้กัน...งานนี้ใครที่เป็นทาสแมว ไปไหนไม่รอดค่ะ...ก็แหม หลงรักแมวนี่คะ 'วัน (เกือบ) สุดท้ายของการเดินทาง' วันนี้เรียกว่าวันสุดท้ายของการได้เที่ยวดีกว่าค่ะ เนื่องจากวันรุ่งขึ้นต้องบินกลับเพราะได้ไฟล์ทประมาณ 10.00 น. กว่าจะออกจากโรงแรมและไปสนามบินคงไม่ได้เที่ยวที่ไหน วันนี้เลยตะลุยกันต่อ เนื่องจากเมื่อวานไป Street Art แล้วรู้สึกยังเที่ยวกันไม่ทั่ว วันนี้เลยมาเดินเที่ยวต่อ โดยเดินเลาะ ๆ แถวบริเวณย่านจอร์จทาวน์ เพื่อไป Chew Jetty (ท่าเรือตระกูลชิว) กันค่ะ เดินจาก Street Art เลาะออกมาก่อนถึงจุดหมายจะเจอตรอกคล้าย ๆ กับเป็นแหล่งรวมของผู้มีใจรักงานศิลป์ ภายในจะมีทั้งร้านขายของจำพวกงาน Handmade มีห้องที่เป็นลักษณะแกลอรี่แสดงงานศิลปะ และร้านกาแฟแนว Art ให้แวะชม ช้อป ชิม กันค่ะ ใครที่ชอบงานศิลปะ หรือมีใจรักด้านนี้ก็เที่ยวกันเพลิน ๆ ชาวคณะเราใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง ตรงจุดนี้ เกือบลืมจุดมุ่งหมายคือ Chew Jetty กันเลยค่ะ สำหรับ Chew Jetty เป็นท่าเรือของชุมชนคนจีน จริง ๆ มีหลาย Jetty นะคะแต่ที่เหลือให้ชมสมบูรณ์แบบที่สุดคือ Chew Jetty เนื่องจากเป็นย่านที่อยู่อาศัยของคนมาเลเซียเชื้อสายจีน มีเวลาเปิด - ปิด ค่ะ โดยเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมคือ 09.00 - 21.00 น. ทางเข้าจะมีลักษณะเป็นศาลเจ้า เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับทางเดินลักษณะเป็นสะพานไม้ทอดยาวไปในทะเล ด้านข้าง 2 ฝั่งเป็นบ้านเรือนของคนในชุมชน ซึ่งจะมีการตั้งของขายหน้าบ้านกันค่ะ มีของฝากและอาหาร (เน้นเป็นพวก บะหมี่ เกี๊ยว ไอศกรีม น้ำมะม่วง ทุเรียน ฯ ล ฯ) ให้อารมณ์เหมือนเดินตลาดสามชุกบ้านเรา แต่ต่างกันที่ตัวอาคารกับบรรยากาศ ที่สำคัญคือพ่อค้าแม่ค้าคนจีนที่นี่พูดภาษาไทยคล่องทีเดียว เดินไปสุดสะพานไม้จะเป็นศาลเจ้า และมีบริเวณให้นั่งทอดอารมณ์ให้ผ่อนคลาย ในบรรยากาศริมทะเลสบาย ๆ ดูเรือประมง เรือสำราญ ท้องฟ้า และท้องทะเล หลังจากนั่งพักผ่อนกันอย่างสบายใจก่อนกลับไปโรงแรมที่พัก แวะไปเที่ยวงานเทศกาลอาหารนานาชาติ หรือ Penang International Food Festival กันค่ะ งานนี้เป็นความบังเอิญปนความโชคดี (คิดว่าโชคดีนะค่ะ) ของชาวคณะที่ไปเที่ยวในครั้งนี้ตรงกับช่วงที่ปีนังจัดงานนี้พอดี และโชคดีอีกที่พบกับเจ้าของร้าน 'The Heritage Cat' ซึ่งแนะนำให้ไปเที่ยวค่ะ มีร้านอาหารดัง ๆ ของปีนังที่มีโพสต์อยู่ใน Social มาออกบูทกันหลายร้าน และมีการแสดงของคนในย่านค้าขายให้ชมระหว่างรับประทานอาหารด้วยค่ะ รวมทั้งมีเกมส์ให้เด็ก ๆ ได้เล่นอย่างสนุกสนานด้วยค่ะ สำหรับใครที่จะไปปีนังและอยากไปให้ตรงกับช่วงที่มีจัดงานเทศกาลอาหาร สามารถหาข้อมูลได้ที่ www.piff.com.my นะคะ ซึ่งชาวคณะของเราก็มีแผนจะไปอีกในช่วงเทศกาลนี้เช่นกัน เนื่องจากยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่มอง ๆ ไว้แต่ไม่ได้ทานเนื่องจากกระเพาะอาหารไม่เอื้ออำนวย (แฮะ ๆ) Penang ไปแล้วก็อยากไปอีกเพราะ 'หลงรักเธอ Penang' เมืองสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบ อาหาร ศิลปะ และแมว