ถ้าพูดถึงที่เที่ยวเชียงใหม่ที่วิวสวย อากาศดี และเต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ซึมซับบรรยากาศหนาวเย็นบนยอดดอย พักผ่อนเพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย แน่นอน “ดอยม่อนแจ่ม” คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของวัยรุ่นสายชิลและสายถ่ายรูป ด้วยวิวภูเขาสลับซับซ้อน อากาศเย็นสบายตลอดปี และเสน่ห์ของวิถีชีวิตชาวเขา แต่คุณรู้ไหมว่า ม่อนแจ่ม ไม่ได้เป็นแค่ที่เที่ยวธรรมดา แต่ยังมีเรื่องราวและประวัติที่น่าสนใจ วันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกมนต์เสน่ห์ของดอยม่อนแจ่ม ที่จะทำให้คุณอยากแพ็คกระเป๋าแล้วออกเดินทางทันที! ประวัติความเป็นมาของดอยม่อนแจ่ม ภาพ1 ยอดดอยม่อนแจ่ม (ภาพโดยผู้เขียน) ดอยม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ในเขต โครงการหลวงหนองหอย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เดิมทีที่นี่เป็นพื้นที่ทำไร่ของชาวม้ง ซึ่งปลูกพืชเมืองหนาว เช่น เคพกูสเบอร์รี่และสตรอว์เบอร์รี แต่ต่อมาได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติ และเรียนรู้วิถีชีวิตของชุมชนบนดอย โดยได้รับการพัฒนาจากโครงการหลวง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำเกษตรของชาวบ้าน จากเดิมที่เคยปลูกฝิ่น มาเป็นการปลูกพืชเมืองหนาวที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ส่งผลให้ดอยม่อนแจ่มกลายเป็นพื้นที่ที่มีทั้งความอุดมสมบูรณ์และทัศนียภาพที่งดงาม ภาพ2 คนเล่นฟอร์มูล่าม้ง (ภาพโดยผู้เขียน) จุดเริ่มต้นของการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเริ่มจากการที่นักท่องเที่ยวบอกกันปากต่อปากว่าที่นี่มีวิวที่สวยงาม จนเกิดเป็นกระแสที่ทำให้ม่อนแจ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ทางโครงการหลวงและชุมชนจึงร่วมกันพัฒนาให้มีร้านอาหาร คาเฟ่ ทีพัก และกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเล่นฟอร์มูล่าม้ง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ม่อนแจ่มกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมีกิจกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แม้ว่าการท่องเที่ยวจะสร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ก็มีความท้าทายในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อมและการจัดระเบียบพื้นที่ เราจึงควรช่วยกันรักษาความสวยงามของม่อนแจ่มให้คงอยู่ตลอดไป ไฮไลท์ของดอยม่อนแจ่ม ภาพ3 วิวทิวทัศน์บนดอยม่อนแจ่ม (ภาพโดยผู้เขียน) ม่อนแจ่มขึ้นชื่อเรื่อง ทะเลหมอกยามเช้า ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแบบ 360 องศาได้ตลอดทั้งปี มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อนกัน โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวที่หมอกหนาเป็นพิเศษ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวจากจุดชมวิวหลักได้ ไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวในฤดูไหน ดอยม่อนแจ่มก็มีอากาศเย็นสบายตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิอาจลดลงถึง 10 องศาเซลเซียส ทำให้การเดินเล่นบนดอยเป็นประสบการณ์ที่ฟินสุดๆ และเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่ใครมาก็ต้องได้รูปกลับไปแน่นอน และดอยม่อนแจ่มยังมีไร่ดอกไม้หลายแห่งที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันบานตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นดอกลาเวนเดอร์ ดอกพู่กันเม็กซิกัน หรือดอกอื่นๆอีกมากมาย ให้คุณเดินเล่นท่ามกลางทุ่งดอกไม้สวยๆถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ ภาพ4 บ้านวัฒนธรรมม้งโบราณ (ภาพโดยผู้เขียน) ดอยม่อนแจ่มเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าม้ง นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเขาได้ที่หมู่บ้านม้งหนองหอย ดอยม่อนแจ่มมีร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่ให้บริการ มีทั้งอาหารไทย อาหารพื้นเมือง และอาหารนานาชาติ ที่สำคัญอาหารส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากโครงการหลวง ทำให้ได้รสชาติที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ นอกจากกิจกรรมที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว การได้มานั่งพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามและอากาศเย็นสบายก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนดอยม่อนแจ่ม สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ ณ ดอยม่อนแจ่ม ภาพ5 รวม3สถานที่แนะนำ ณ ดอยม่อนแจ่ม (ภาพโดยผู้เขียน) จุดชมวิวมอนแจ่ม : จุดชมวิวที่ใคร ๆ ก็ต้องมาเช็คอิน เพราะที่นี่คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแบบ 360 องศา มองเห็นภูเขาสลับซับซ้อนและสายหมอกยามเช้าแบบสุดลูกหูลูกตา เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่ใครมาก็ต้องได้รูปกลับไปแน่นอน ตลาดม้ง : บริเวณทางขึ้นดอยม่อนแจ่มที่ตลาดขายของฝากที่นักท่องเที่ยวสามารถมาเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก สินค้าพื้นเมือง สินค้าหัตถกรรมไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ และผลไม้ของชาวม้ง รวมไปถึงอาหารพื้นเมือง ฟาร์มแกะอัลปากาม่อนแจ่ม : ฟาร์มแกะอัลปากาน่ารักที่นักท่องเที่ยวสามารถมาให้อาหารแกะ และอัลปากามีมุมถ่ายรูปสวยๆ กับบ้านน้องแกะ พร้อมชมวิวเขาทิวทัศน์ที่สวยงาม และในฟาร์มยังมีกาแฟ ขนม เบเกอรี่ ของทานเล่น และเครื่องดื่มบริการ รวมถึงมีบริการให้อาหารเม็ดน้องแกะ ถาดละ 40 บาท อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟาร์มแกะอัลปากาม่อนแจ่ม : • ที่ตั้ง ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (ใกล้กับดอยม่อนแจ่ม) • เวลาทำการ : จันทร์-พฤหัสบดี 07.30 – 17.30 น. / ศุกร์ – อาทิตย์ 07.30 – 18.00 น. • ค่าเข้าชมฟาร์ม : มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท (นำไปเป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่มได้ 20 บาท) เด็ก 50 บาท (ส่วนสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าชมฟรี) • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/alpaca.monjam • แผ่นที่ : https://www.google.com/maps/place/ จุดชมวิวอื่น ๆ: นอกจากจุดชมวิวม่อนแจ่มแล้ว ดอยม่อนแจ่มยังมีจุดชมวิวอื่น ๆ อีกมากมายที่สวยงามและน่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น จุดชมวิวดอยกิ่วลม หรือจุดชมวิวผาหนาม เปิดโลกวิถีชีวิตบนดอยม่อนแจ่ม ภาพ6 การแต่งกายของเด็กชาวม้ง (ภาพโดยผู้เขียน) ดอยม่อนแจ่ม เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมของจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากธรรมชาติอันสวยงามแล้ว วิถีชีวิตของชาวเขาที่นี่ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ชาวม้งซึ่งเป็นชนเผ่าหลักที่อาศัยอยู่บนดอยม่อนแจ่ม ยังคงดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม ผสมผสานกับการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจึงไม่เพียงได้ชมวิวสวย แต่ยังได้สัมผัสวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย และอีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นคือการแต่งกายของชาวม้ง โดยผู้หญิงมักสวมเสื้อปักลายสีสันสดใส กระโปรงยาว และเครื่องประดับเงิน ส่วนผู้ชายจะใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวแบบดั้งเดิม ในปัจจุบัน ชาวม้งบางคนอาจปรับเปลี่ยนการแต่งกายให้ทันสมัยขึ้น แต่ในเทศกาลสำคัญยังคงแต่งชุดประจำเผ่าเต็มรูปแบบ การถ่ายภาพกับชาวเขาในชุดม้งจึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม ภาพ7 พืชเมืองหนาว (ภาพโดยผู้เขียน) การทำเกษตรถือเป็นหัวใจหลักของวิถีชีวิตบนดอยม่อนแจ่ม ชาวบ้านที่นี่ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น กะหล่ำปลี สตรอว์เบอร์รี และดอกไม้เมืองหนาว ซึ่งนอกจากจะเป็นรายได้หลักของชุมชนแล้ว ยังช่วยสร้างทัศนียภาพที่สวยงามให้กับพื้นที่ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมสวนผัก เก็บสตรอว์เบอร์รีสด ๆ และเรียนรู้วิธีการปลูกพืชแบบออร์แกนิกจากชาวบ้านได้ ส่วนอาหารของชาวม้งบนดอยม่อนแจ่มจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น ผักสดจากสวน เครื่องเทศพื้นบ้าน และเนื้อสัตว์เลี้ยงเอง อาหารที่ไม่ควรพลาดคือ “แหนมหมก” (แหนมห่อใบตองย่างไฟ) และ “ข้าวเบือ” (ข้าวบดคลุกสมุนไพร) ซึ่งเป็นเมนูพื้นบ้านที่หาทานได้ยาก การเดินทางไปดอยม่อนแจ่ม สำหรับการเดินทางนั้นเราสามารถเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปดอยม่อนแจ่มได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัว รถเช่า หรือรถโดยสาร สำหรับใครที่ชอบความสะดวก รถยนต์ส่วนตัวเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะสามารถขับขึ้นดอยได้โดยตรง เส้นทางจากเชียงใหม่ไปม่อนแจ่มมีระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง แต่ต้องระวังทางโค้งเยอะและลาดชัน สำหรับคนที่ขับรถมาเอง สามารถใช้เส้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ผ่านอำเภอแม่ริม แล้วขับขึ้นดอยม่อนแจ่มโดยใช้ถนนเส้น 1096 เส้นทางนี้มีวิวธรรมชาติสวยงามตลอดทาง แต่มีบางช่วงที่ถนนแคบและชัน ควรตรวจสอบสภาพรถและเติมน้ำมันให้เต็มก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ควรขับด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษแต่หากไม่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถใช้บริการรถเช่าจากตัวเมืองเชียงใหม่ได้ มีให้เลือกทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ การเช่ารถเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากแวะเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ระหว่างทาง เช่น สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และคาเฟ่สวย ๆ ในแม่ริม ราคาค่าเช่ารถอยู่ที่ประมาณ 300-1,500 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ ภาพ8 สองแถวเหลือง (ภาพโดยผู้เขียน) ส่วนคนที่อยากสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่น สามารถนั่งรถสองแถวจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปแม่ริม แล้วเหมารถขึ้นดอยม่อนแจ่ม ราคาค่าโดยสารประมาณ 50-100 บาทต่อคน (ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร) วิธีนี้อาจใช้เวลานานกว่าการขับรถมาเอง แต่เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าสนใจ และอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายคือการใช้บริการรถตู้หรือทัวร์นำเที่ยว มีหลายบริษัทที่ให้บริการแพ็กเกจพาเที่ยวดอยม่อนแจ่มแบบไป-กลับ หรือแบบค้างคืน โดยรวมค่าเดินทางและกิจกรรมต่าง ๆ ไว้เรียบร้อย เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากขับรถเองและต้องการไกด์พาทัวร์ บริการรถเช่า : • YouGo Car Rental: ให้บริการรถเช่าหลากหลายรุ่นในเชียงใหม่ เหมาะสำหรับการขับขึ้นดอยม่อนแจ่ม • ME CAR RENT: บริการรถเช่าครบวงจร สามารถจองล่วงหน้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง บริการรถโดยสาร : • รถแดงน้าเอ๊ะ: บริการรถแดงนำเที่ยวในเชียงใหม่ เหมาะสำหรับการเดินทางขึ้นดอย • รถแดงเชียงใหม่บริการนำเที่ยวราคาถูก: บริการนำเที่ยวด้วยรถแดง พร้อมคนขับที่ชำนาญเส้นทาง บริษัททัวร์และรถตู้พร้อมคนขับ: • Pond Car Rent: บริการรถเช่าพร้อมคนขับสำหรับทริปดอยม่อนแจ่ม • JC Tour Chiangmai: จัดแพ็กเกจทัวร์ม่อนแจ่มและสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในเชียงใหม่ • Car Rent Chiangmai: บริการรถเช่าพร้อมคนขับสำหรับทริปดอยสุเทพและม่อนแจ่ม การเลือกใช้บริการที่เหมาะสมจะช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น ควรติดต่อและจองล่วงหน้าเพื่อความมั่นใจในทริปของคุณ เที่ยวม่อนแจ่มให้สนุกต้องมาช่วงไหน? ภาพ9 วิวทิวทัศน์บนดอยม่อนแจ่ม (ภาพโดยผู้เขียน) ม่อนแจ่ม เป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตในเชียงใหม่ ที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูกาลมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นวิวทะเลหมอก ดอกไม้บานสะพรั่ง หรืออากาศเย็นสบาย วันนี้เราจะพาคุณมาดูกันว่าควรมา ม่อนแจ่มช่วงไหนดีที่สุด เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความประทับใจ ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) ช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุด ถ้าคุณชอบอากาศหนาวและวิวทะเลหมอก ฤดูหนาวเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยวม่อนแจ่มอุณหภูมิอาจลดต่ำถึง 10 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสลมหนาวและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีดอกไม้เมืองหนาวเบ่งบาน เช่น ลาเวนเดอร์ และสตรอว์เบอร์รีที่พร้อมให้เก็บสด ๆ จากไร่ ฤดูร้อน (มีนาคม – พฤษภาคม) ความสดชื่นท่ามกลางธรรมชาติ ถึงแม้ว่าเชียงใหม่จะร้อนในช่วงนี้ แต่ ม่อนแจ่มยังคงมีอากาศเย็นกว่าตัวเมือง โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็น ไฮไลท์ของฤดูร้อนคือทุ่งดอกไม้ที่ยังคงมีสีสันสดใส และกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น นั่งชิงช้าชาวเขา และขับ ATV ชมวิว เหมาะสำหรับสายแอดเวนเจอร์ที่อยากสัมผัสธรรมชาติ ฤดูฝน (มิถุนายน – ตุลาคม) ช่วงที่เขียวขจีที่สุด ฤดูฝนเป็นช่วงที่ ม่อนแจ่มมีความชุ่มชื้นและเขียวขจีมากที่สุด ท้องฟ้าอาจไม่เปิดตลอดเวลา แต่ถ้ามาในช่วงที่ฝนหยุดตก คุณจะได้เห็นทะเลหมอกหนาทึบที่สวยงามไม่แพ้ภาคเหนือของไทย จุดเด่นอีกอย่างคืออาหารพื้นเมืองอุ่นๆอย่างหมูกระทะและจิ้มจุ่ม ที่จะทำให้การท่องเที่ยวฟินขึ้นไปอีก ข้อควรรู้ก่อนเดินทางมาม่อนแจ่ม ก่อนเดินทางมาดอยม่อนแจ่ม ควรเตรียมเสื้อกันหนาว เพราะอากาศบนดอยค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะช่วงเช้าและกลางคืน นอกจากนี้ ควรสวมรองเท้าที่เดินง่าย เพราะบางจุดอาจมีทางเดินดินหรือเป็นพื้นที่ลาดชัน หากขับรถขึ้นดอย ควรตรวจสอบเบรกและระบบขับเคลื่อนของรถให้พร้อม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !