เพนกวินกลับมาแล้วววว วิ่งไปช้า ๆ เหมือน นกเพนกวิน แต่ก็ไม่เกินเวลานะคะ หาทางออกจากป่าทันเวลาคัทออฟพอดี วันนี้เรามีประสบการณ์สนามเทรลในระยะ 30Km. ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนจะมาโม้ให้ฟังนะคะ เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ ใครที่สนใจการออกกำลังกายในแบบเทรลจะได้สนุกไปด้วยกัน ลุ้นไปด้วยกัน ได้เห็นภาพบรรยากาศการเที่ยวปายในแบบเทรลผ่านสองขาและปลายปากกาของเรา เราขอมอบประสบการณ์เที่ยวแบบใหม่ และอาจจะเป็นการจุดประกายให้ ในอีกวันหนึ่งข้างหน้า คุณอาจจะหันมาหลงรักการเที่ยวในแบบเทรลเหมือนกันกับเรา เริ่มกันเล้ยยยย ณ สะพานประวัติศาสตร์ปาย ( Pai Historical Bridge ) เราสองคนออกเดินทางทันที ที่ได้ยินเสียงสัญญาณของแตรลม สิ้นเสียงแตรลม ก็เป็นเสียงลมหายใจ สลับกับ เสียงความห่วงใยที่สัมผัสได้จากคนข้างๆ เพื่อนช้านนน นางจะห่วงกันตั้งแต่กิโลแรกๆเลยเหรอคะ เราคิดในใจ ถ้าจะห่วง งั้นห่วงกันให้ถึง 30 โลเลยนะ แอบท้าทายในความคิด ที่หวงตัวไม่ให้ห่วงเพราะอยากวิ่งสนุก อยากวิ่งท้าทาย และอยากวิ่งก๋ากั่นไปคนเดียวอย่างที่เคยเป็น แต่งานนี้นักวิ่งหญิง มีจำนวนไม่ถึง 80 คน ส่วนนักวิ่งชายก็เช่นกัน กับเส้นทาง 30k ก็แอบว้าเหว่อยู่พอสมควร ท้ายขบวนคงไม่เหลือใคร งั้นเก็บความก๋ากั่นไว้ใช้สนามอื่น ดึงสติกลับมารับความห่วงใยจากเพื่อนก็ได้เนอะ ถ่ายรูปมั้ย แก!!!! เสียงความห่วงใยเปลี่ยนเป็นคำเชื้อเชิญที่คุ้นเคย เราสองคนมาถึงจุดชมวิวจุดแรก “กองแลน แกรนด์แคนยอนปาย (Pai Canyon)” มีทางเดินป่าแคบๆ รับกับสองฝั่งที่เป็นหุบเหวสูงชัน มองเห็นวิวหุบเขาสุดลูกหูลูกตา ชื่นชมวิวอยู่ไม่นาน สายลมก็พัดพาลมตะวันตกมาปะทะตัว ป่ะ!!! ไปให้ทันตัดตัว (Cut off) ที่ B1 กัน เราชวนกันไปต่อ มีนักวิ่งสวนทางลงมาจาก B1 แตะมือส่งพลังให้ เรารับกำลังใจจากเสียงทักทายบอกอีกนิดเดียวถึง B1 บ้างบอกข้างในสวยมาก สู้ๆ วิ่งสวนกันไปไม่นาน คำพูดเหล่านั้นก็เป็นจริง สวยมากกกกกก สวยจริงๆ “แผ่นดินแยก (Pai land split)” เราแทรกตัวไปภายใต้ทุ่งใบเฟิร์น สวยจนวิ่งชมเพลินตลอดทาง เพลินจนลืมเหนื่อยเลยค่ะ เราขึ้นไปเช็คอินโดยผ่านจุดตัดตัวจุดแรกแบบไม่มีอะไรต้องกังวล ไปต่อเลยเรา ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่ความห่วงใยกันและกันก็ต้องควักมาใช้อีกครั้ง หลังกราฟความชันจาก smart watch ได้บ่งบอกว่า เราไต่ระดับความชันขึ้นมาถึงจุดสูงสุดแล้ว ณ จุดนั้นเพิ่งรู้ว่าเราไม่ได้มาโดยลำพังกันสองคน เราเองดันพกเพื่อนสนิท ITB เจ้าเก่าผู้ไม่เคยซื้อ BIB แต่ก็ยังจะมาตีสนิท เสนอตัวขอวิ่งด้วยซะทุกครั้ง อ้อ เล่าสั้น ๆ เกี่ยวกับเจ้า ITB นะคะ เจ้า ITB คือ เอ็นข้างหัวเข่าอักเสบซึ่งมักจะปวดบริเวณเส้นเอ็นข้างหัวเข่า สาเหตุมาจากการฝึกซ้อมหนักเกินไป สามารถป้องกันได้โดยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเหล่านั้น หรือ ฝึกปรับการวิ่งให้มีท่าวิ่งที่ถูกต้อง แล้ววันนี้เอาไงดี ณ ตอนนี้ ก็คงต้องใช้กล้ามเนื้อหลัง กล้ามเนื้อสะโพกซินะคะ ถูกโยกให้มาใช้งานทำหน้าที่หนักแทนกล้ามเนื้อบริเวณเข่า และแผนการใช้กล้ามเนื้อแบบนั้นก็พอได้วิ่งต่อแบบพอไหว ทำให้ไปต่อได้คร่าาาา เพื่อนร่วมทางบริหารความห่วงใยออกมาใช้ได้กลมกล่อม ไม่มากไป ไม่น้อยไป ไม่ทำให้เราลำบากใจเลยสักนิด บอกวิธีพิชิต ก้าวกันไปทีละนิด เหยาะได้เหยาะ วิ่งได้วิ่ง เดินได้เดิน ขอเพียงไม่หยุด มีช่วงป่าทึบ มีช่วงเคว้งคว้าง มีช่วงที่ต้องไต่ไหล่เขา มีช่วงทางชัน มีช่วงที่เจอขี้ช้าง มีช่วงเวิ้งว้างกลางหุบเขา มีประตูวัวควาย “ผ่านน้ำตกแพมบก( Pam Bok Waterfall )” “ ผ่านสะพานบุญโขกู้โส่ (Boon Kho Koo So Bridge)” ผ่าน ผ่าน ผ่าน และ ผ่าน B4 ทันตามเวลา เย้ เราได้เหรียญได้เสื้อ finisher มาครอบครอง 30km. กับ เวลา 5:38 ชั่วโมง ที่เราภูมิใจ จะครบหนึ่งปีแล้วซิ ที่เสียงแตรลมที่นั่นกลายเป็นเสียงโปรดของเรา และ สนามแล้ว สนามเล่า ก็ยังมีเราอยู่ในวงการเทรล จากการพิชิต 30Km. ได้สำเร็จในครั้งนี้ เรามีข้อคิด ดี ๆ มาฝากด้วยนะคะ เลือกลง ระยะ Sightseeing 30 ซึ่งเหมาะกับการซ้อมที่ร่างกายเตรียมพร้อมมาพอดี ไม่มากจนเกินกำลัง จึงจบแบบไม่พัง ถึงไม่ปัง แต่เราก็สุดจะภูมิใจในการก้ามข้ามขีดจำกัดของเราเอง นั่นคือเราได้เรียนรู้การเป็นผู้ตั้งอยู่บนความประมาณตน มีความพอเพียงพอดี Sightseeing 30 เป็นเส้นทางที่ดีต่อใจ ผ่านชุมชนพื้นถิ่น ได้น้ำใจเติมไปตลอดเส้นทาง ผ่านที่ท่องเที่ยว ผ่านวิวสวย ๆ ถึงจะร้อนจะเหนื่อยแค่ไหน พอได้สายลมผัดผ่านแค่นั้นก็ชื่นใจ นี่คือเสน่ห์ที่แท้ทรูของเทรล สายลมสอนเราเท่ากับว่าความสุขไม่เคยหล่นหาย ความสุขก็อยู่กับสิ่งเล็ก ๆ รอบ ๆ ตัว รอเราเก็บเกี่ยว นั่นล่ะนะ การมีสติ ไม่ประมาท รับรู้และฟังเสียงของคนรอบข้าง รวมทั้งเสียงของร่างกายตัวเอง บริหารพลังงานที่มีให้พอดีกับระยะทาง ไม่ฝืน ไม่ผลักดันตัวเองเพื่อตามใครหากเรารู้ว่าเกินกำลังของตัวเอง เรียนรู้ที่จะสร้างความสำเร็จในแบบของตัวเอง แค่ไม่ท้อ ไม่ถอย ก้าวไปเรื่อย ๆ ความสำเร็จถึงจะเร็วจะช้า ถ้าได้ชื่อว่าทันเวลามันก็มีค่าสำหรับเราที่ได้ชื่นชมในผลงาน การมีทีมเวิร์คที่ดี ส่งมิตรไมตรีตลอดทาง แม้ทุกคนจะก้าวกันคนละจังหวะ จะขับเคลื่อนไปคนละความไว แต่ก็ใช่ว่าจะต่างคนต่างไป เราส่งใจส่งพลังส่งเสียงเชียร์ ผลักดันกันและกันเสมอ ทุกคนสู้ในแบบของตัวเอง สู้ภายใต้กติกา คว้าความสำเร็จมาภายใต้ความภูมิใจและร่วมยินดีกับความสำเร็จของกันและกัน การเดินทางครั้งใหม่ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง .... สายลมตะวันตกเป็นเช่นไร ? วันที่ 3-4 ตุลาคม 2563 คือกำหนดการเดินทางที่เปิดทางให้พวกเราได้เข้าไปหาคำตอบอีกครั้งหนึ่ง คุณสนใจจะไปกับเรามั้ยยยย เตรียมความพร้อมร่างกาย เตรียมพลัง เตรียมกำลังใจ ไปท่องเที่ยว ในเมืองปาย ด้วยสองขา เพื่อค้นหา และ สัมผัส เรื่องราว บรรยากาศ และผู้คน เส้นทาง ด้วยตัวคุณเอง ไปกันกับเรา นะคะ แล้วคุณจะรู้เหมือนเราว่า ความสุขรอให้เราไขว่คว้าอยู่เสมอ บทความโดย วีรันดา ภาพถ่ายโดย VEE ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงานวิ่งเทรลนี้ ได้ที่ The Westwind Trail ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยงกับ ITBโรคยอดนิยมของนักวิ่ง