สะพานมอญ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้น ๆ ที่ต้องไปให้ได้กันสักครั้งนึง แค่เพียงได้เห็นภาพสะพานไม้ทอดข้ามแม่น้ำเบื้องล่าง ทุกคนก็คงอยากจะ วาร์ป ไปอยู่ตรงนั้นกัน จังหวัดกาญจนบุรี ถึงแม้จะฟังดูอยู่ใกล้กรุงเทพฯมาก แต่ต้องบอกว่า จังหวัดกาญจนบุรีมีพื้นที่มากกว่ากรุงเทพถึง 13 เท่าเลยนะครับ และอำเภอสังขละบุรีนั้นอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือสุด ใกล้ประเทศพม่า ถ้าขึ้นไปทางเหนือเป็นทุ่งใหญ่นเรศวร ขึ้นไปอีกก็เป็นจังหวัดตาก ซึ่งเป็นภาคเหนือแล้ว ฉะนั้น คงจะต้องมีการเตรียมตัววางแผนกันพอสมควร เหมาะสำหรับการ เที่ยวสุดสัปดาห์ 2 วัน 1 คืน กำลังดี ควรจะออกจากกรุงเทพฯ แต่เช้ายิ่งดีครับ ถ้าไม่ขับรถไปเอง จะใช้บริการขนส่งที่เป็นรถบัสหรือรถตู้ก็ได้ มาถึงตัวจังหวัดกาญจนบุรี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นก็จะมีรถต่อไปยังอำเภอสังขละบุรี อันนี้ละครับจะใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่งถึง 4 ชั่วโมง เพราะห่างจากตัวจังหวัดกาญจนบุรี 220 กิโลเมตรเลย จะเป็นรถสองแถวลมโชยแบบคลาสสิค แต่เรามีทางเลือกถ้าไม่อยากเพลียมาก ก็จะนั่งรถตู้ไปก็ได้ จุดขึ้นรถลองสอบถามเอานะครับหาไม่ยากอยู่ไม่ไกลกันจากจุดลงรถที่มาจากกรุงเทพมากนัก ตามแพลนนี้ ก็จะมาถึง สังขละบุรี บ่ายแก่ ๆ จุดลงรถก็จะมีบริการมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ไปเช็คอินห้องพักที่เราจองไว้ สังขละบุรีมีที่พักทั้งแบบเกสต์เฮาส์ไปจนโรงแรมหรูหรา เลือกเอาที่ติดแต่แม่น้ำดีที่สุดครับ เช็คอินเสร็จแล้ว ก็ไป สะพานมอญ ได้เลย แล้วแต่ว่าที่พักอยู่ใกล้หรือไกลแค่ไหน อาจจะเดินได้ หรือ อาจจะต้องเช่ามอเตอร์ไซด์หรือจักรยานของที่พักไปก็ได้ จริง ๆ เมืองก็ไม่ได้ใหญ่ ผมค่อย ๆ เดินดูโน่นดีนี่ไปเรื่อย ๆ ถ้าเสาร์-อาทิตย์ จะมีตลาดนัด ให้เดินหาอะไรกินเล่นก็ดีเหมือนกันครับ มาถึง สะพานมอญ สัญลักษณ์ของสังขละบุรี มากี่ครั้งก็รู้สึกฟินกับบรรยากาศครับ รู้จักสะพานมอญแห่งนี้กันหน่อยครับ บริเวณนี้เรียกว่า สามประสพ คือแม่น้ำสามสาย มาเจอกัน คือ รันตี ซองกาเลีย บิคลี่ เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำแควน้อยไหลผ่านสังขละบุรี ลงไปอำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค อำเภอเมืองกาญจนบุรี รวมกับแม่น้ำแควใหญ่ กลายเป็นแม่น้ำแม่กลองไหลผ่านจังหวัดกาญจนบุรี ไปราชบุรี ออกอ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรสงคราม เห็นมั้ยครับว่ามาไกลแค่ไหน (ในรูปจะเห็นยอดเสาเป็นหงส์ สัญลักษณ์สัตว์มงคลจะเห็นได้มากมายตามวัดมอญในประเทศไทย) สะพานมอญ หรือสะพาน อุตตมานุสรณ์ เกิดจากแรงศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของชาวไทย มอญ กระเหรียง ที่มีต่อศาสนาพุทธและหลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกันออกเงินและแรงงานสร้างสะพานเชื่อมการเดินทางสองฝั่งแม่น้ำซองกาเลีย สร้างเสร็จในปี 2530 ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน เป็น เวอร์ชั่น 5 แล้วนะ ผมเคยมาเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน สะพานรุ่นเก่าจะคลาสสิคกว่านี้ ไม้มันจะดูคด ๆ งอ ๆ บิด ๆ อาจจะเป็นทั้งกระแสน้ำพัด ขนาดไม้ที่ต่างกัน วิทยาการสร้าง ปัจจุบันให้คนกับรถจักรยานผ่านเท่านั้นครับ รถยนต์ มอเตอร์ไซด์จะมีสะพานคอนกรีตที่อยู่ถัดไปไม่ไกล สะพานมอญ รุ่นใหม่ที่สร้างขึ้นก็ยังอนุรักษ์รูปแบบเดิมคือใช้ไม้และแรงงานคนเป็นหลักไม่ใช้เครื่องจักรใหญ่ ดูมั่นคงแข็งแรง หลายปีหลัง สะพานมอญ และสังขละบุรี ก็ป๊อปปูล่าร์มาก ทุกเทศกาลนักท่องเทียวมากันตรึมบางทีเห็นภาพนักท่องเที่ยวเดินกันแน่นสะพานเลย แต่ไม่กี่ปีก่อนอาจจะจำกันได้ ช่วงกลางสะพานถูกน้ำพัดพังลงมา ต้องปิดสร้างใหม่ใช้เวลาปีกว่า ช่วงที่ปิดสะพานก็มีสะพานลูกบวบที่เป็นแพบนพื้นน้ำก็ดูแปลกไปอีกแบบนึง สะพานมีความยาวประมาณ 900 เมตร ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสะพานไม้อูเบ็งของพม่าครับ สิ่งนึงที่อยากแนะนำให้นั่งเรือชมวิวแม่น้ำด้านล่างครับ ไปกันหลาย ๆ คนยิ่งมีตัวหาร ถ้าไปช่วงหน้าแล้งน้ำแห้ง จะเห็นเมืองบาดาล หรือ วัดวังก์วิเวการามเก่า คือปี 2527 มีการสร้าง เขื่อนเขาแหลม หรือปัจจุบันคือ เขื่อนวชิราลงกรณ์ เหนือเขื่อนจะกักน้ำเป็นทะเลสาบ บ้านเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างบริเวณนั้นจะต้องย้ายขึ้นไปสร้างใหม่อยู่บนที่สูงที่น้ำท่วมไม่ถึง แต่หนนี้ไปตอนต้นปีที่ผ่านมา ระดับน้ำสูง เห็นแต่ส่วนที่เป็นหอระฆัง แต่ก็ไม่เป็นไร ช่วงนี้อากาศกำลังดี เรียกว่า สังขละบุรี มาเที่ยวได้ทั้งปีครับ พลบค่ำทีสังขละบุรี เดินตลาดหรือหาร้านอาหารทานกันก็พักผ่อนเข้านอน แต่ขณะที่ผมนอน ก็ได้ยินเสียงเพลง เคป้อป เพลง 3 ช่า ลอยมามีบริการคล้าย ๆ แพเธคเหมือนกัน มาไกลขนาดนี้ อย่างว่าก็ป๊อปปูลาร์ การท่องเที่ยวบูม แนวถนนเส้นที่พักก็มีบาร์ ผับ ตอบสนองนักท่องเทียวสายดื่มสายปาร์ตี้ ครับ นึกถึงสมัยที่ผมมาสังขละบุรีครั้งแรกยี่สิบกว่าปีก่อนที่ว่า ที่พักมีให้เลือกแค่ 2 ที่ จากข้อมูลแผ่นพับของ ททท. มือถือก็ไม่มีต้องวอล์คอินไปลุยหน้างาน แถมที่พักสมัยนั้น ดูน่ากลัว เงียบ มาก ชอบรำลึกความหลังให้ฟัง 5555 เช้าวันใหม่ ก็เดินไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นที่สะพานอีกครั้งนึง บรรยากาศยามเช้าก็จะคึกคัก จะเห็น สาว ๆ มอญ เทินของไว้บนหัว ทาหน้าด้วยทะนาคา ที่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ของแปลกในกรุงเทพฯเราก็เห็นพี่น้องแรงงานชาวพม่าทากันทั่วไป อ้อ ฝั่งที่เราพักจะเป็นฝั่งไทย เดินข้ามสะพานมอญไปจะเป็นหมู่บ้านชาวมอญครับ มาสังขละบุรี นอกจาก สะพานมอญ ที่เป็น THE MUST และเราก็จะต้องมาสักการะ หลวงพ่ออุตตมะ และ วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางของความศรัทธาของความแตกต่างของเชื้อชาติ ภาษา ให้หล่อหลอมรวมกันได้ หลวงพ่ออุตตมะได้ร่วมกับชาวมอญ กระเหรี่ยง สร้างวัดตั้งแต่ปี 2496 แล้วครับ คือวัดเก่าที่อยู่ในน้ำนั่นเอง หลวงพ่ออุตตมะสมัยที่ท่านยังไม่มรณะภาพถือเป็นพระที่มีคนนับถือศรัทธาอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ มาถึงที่นี่ก็ทำบุญตักบาตรตามประเพณีนีแบบมอญด้วยนะครับ ที่วัดวังก์วิเวการาม ก็จะมีเจดีย์ทรงพุทธคยา สีทองเด่นสง่างามเห็นได้แต่ไกล บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อาจจะเดินเล่นสะพาน หรือบริเวณใกล้เคียงอีกสักแป๊บนึง แล้วก็เตรียมตัวกลับได้เวลากำลังพอเหมาะ สำหรับคนที่ไป สังขละบุรี ในวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยรถโดยสาร ขอขอบคุณสำหรับการอ่านและติดตามครับ เรื่องและภาพ โดย Boo Planet