ทริปนี้ก็เป็นทริปแรกที่ผมออกเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยไม่ได้พักโรงแรมนะครับ โดยเป็นการนำเอาเต้นท์ไปกางนอน เพื่อรับบรรยากาศของภูชี้ฟ้า รวมทั้งทำอาหารรับประทานเองเป็นหลัก แต่ต้องบอกก่อนว่าผมโชคดีนิดนึงที่มีเพื่อนที่มีประสบการณ์การท่องเที่ยวประเภทนี้ไปด้วยก็เลยไม่ทุลักทุเลมาก งั้นผมเริ่มแชร์ประสบการณ์ในการเดินทางและท่องเที่ยวตั้งแต่เริ่มให้ เพื่อน ๆ รับรู้ไปด้วยกัน ทริปนี้ผมเริ่มจากออกเดินทางจากบ้านที่อยู่ที่ หนองจอก กรุงเทพมหานคร เวลา 00.00 น. ถือเป็นวันแรกของการเดินทาง ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ตาก ลำปาง พะเยา และอีกหลายจังหวัด จนมาถึงจังหวัดเชียงรายที่เป็นเป้าหมาย ต้องบอกว่าเชียงรายคือต้นทางของการเดินทางครั้งนี้เท่านั้น เนื่องจากเป้าหมายของผมคือภูชี้ฟ้า เมื่อเข้ามาถึงเชียงรายสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ อุณหภูมิที่เย็นสบายกว่ากรุงเทพ ตอนที่ผมมาถึงเชียงรายก็เป็นเวลา 12.30 น. ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ตอนเราเดินทางถนนค่อนข้างจะโล่ง ก็งงอยู่เนื่องจากผมเดินทางวันที่ 29 ธันวาคม 2562 ซึ่งโดยปกติการจราจรจะติดขัดอยู่พอสมควร เมื่อเริ่มเข้าเชียงรายเป้าหมาย ต่อไปก็คือภูชี้ฟ้า ซึ่งคือเป้าหมายที่เรามาเชียงรายครั้งนี้ ก็จะใช้เวลาในการขึ้นภูชี้ฟ้าอยู่ที่ ประมาณ 3 ชม. ระหว่างที่เราขึ้นไปที่ภูชี้ฟ้าก็จะรู้สึกถึงอากาศที่เย็นลง ผมไปถึงภูชี้ฟ้าเวลา ประมาณ 15.30 น. เมื่อถึงสิ่งแรกที่ต้องทำ ก็คือติดต่อหาที่กางเต็นท์ เราได้จุดกางเต็นท์ของ เจ้าหน้าที่อุทยาน ค่าเช่าจะอยู่ที่หลังละ 100 บาท หลังจากหาที่ กางเต็นท์ได้เราก็เริ่มเอาสัมภาระที่ขนมาด้วยลงจากรถ จากนั้นก็เริ่มกางเต็นท์นอนก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อกางเต็นท์เสร็จเราเริ่มทำอาหาร เรื่องปากท้องมันสำคัญครับ อิอิ เมื่อทำอะไรเรียบร้อยก็เป็นเวลาเกือบ 19.00 น. ที่นี่อากาศจะเริ่มหนาวครับ เราก็นั่งคุยเรื่องต่าง ๆ ไปเรื่อยครับ เพราะเป้าหมายของผมคือพรุ่งนี้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกต่างหาก เวลา 04.30 น. ผมก็เริ่มตื่นทำธุระส่วนตัวกินกาแฟ และรอคนอื่นเสร็จก็ไปขึ้นรถบริการที่เป็นของชาวบ้านแถวนั้น ค่าบริการคนละ 30 บาท เด็กฟรี ตอนที่เราขึ้นไปที่ภูชี้ฟ้าระยะทางเดินขึ้นยอดภูชี้ฟ้าประมาณ 700 เมตร ทางค่อนข้างเดินลำบากหน่อยครับ ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุหลังจากนั้นไม่นานเราก็ได้เห็นทะเลหมอกตามที่ตั้งใจซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นด้วยตาตัวเอง ขอบอกว่าคุ้มกับความเหนื่อยจริง ๆ หลังจากชมทะเลหมอกรับอากาศบริสุทธิ์จนพอใจ ผมก็ลงจากภูชี้ฟ้ามาทำอาการรับประทานต้องบอกเลยว่าผมโชคดีอีกแล้วที่มีพ่อครัวไปด้วยหน้าตาอาหาร และรสชาติก็เลยออกมาอารมณ์เหมือนอยู่บ้าน นี้คือทั้งหมดที่ผมได้สัมผัสถึงบรรยากาศของการได้ท่องเที่ยว ที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติหากมีเพื่อนท่านใดคิดจะไปเชียงรายผมขอแนะนำเลยครับ ภูชี้ฟ้าคุ้มกับความเหนื่อยแน่นอนแล้วไปกันเยอะ ๆ นะครับ