ถ้าชาวใต้คนไหนอยากไปต่างประเทศ แต่มีงบแค่ต่างจังหวัด เราแนะนำที่นี่เลย นั่งรถไฟไปไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เที่ยวแล้ว แถมยังเที่ยวง่าย สบายกระเป๋าอีกต่างหากกับ ทริป 'ปีนัง มาเลเซีย' 🇲🇾 เริ่มต้นนั่งรถไฟจากชุมทางหาดใหญ่รอบเช้าสุด สามารถอ่านวิธีการนั่งรถไฟไปปีนังได้จากนี่เลย 👉 How to นั่งรถไฟไปปีนัง อ่านจบเที่ยวได้เลย DAY-1 Street Art George Town เมื่อมาถึงปีนังกันแล้ว เราจะเข้าไปที่โรงแรมกันก่อนโดยใช้ รถบัสฟรี ที่วิ่งรอบเมืองจอร์จทาวน์บวกกับเดินนิดหน่อย เพราะเราพักในย่านจอร์จทาวน์อยู่แล้ว ใครไม่รู้ต้องขึ้นลงรถบัสยังไง แนะนำอ่านจากบทความที่แล้วก่อนได้เลย รอบนี้เราพักกันที่ Spices Hotel เป็นโรงแรมวินเทจ ราคาสบายกระเป๋า พนักงานน่ารัก และอยู่ในตัวเมืองจอร์จทาวน์เลย จะไปไหนมาไหนก็สะดวก พอเข้าโรงแรมเก็บของเรียบร้อย เราก็จะตะลุยเที่ยวกันเลย! เราเดินจากโรงแรมเพื่อไปกินบะหมี่ไม้ไผ่ต็อกๆ เจ้าดังอย่าง Tok Tok Mee Bamboo Noodle เป็นข้าวเที่ยง คำว่า ต็อกๆ ในชื่อร้าน เป็นการเลียนเสียงขณะที่กำลังนวดเส้นด้วยไม้ไผ่ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมของทางร้านจากนั้นก็เดินเล่นในย่านเมืองเก่า ส่วนตัวเราชอบย่านนี้มาก เพราะมีร้านของกุ๊กกิ๊ก โปสการ์ด สร้อยข้อมือ ฯลฯ ตลอดทางให้ได้เดินเข้าไปช้อป ไปแอบตากแอร์ ใครจะมาต้องเตรียมใจไว้หน่อย เพราะอากาศที่นี่ร้อนเหมือนบ้านเราเลย 🥵ตึกรามบ้านช่องของปีนังก็สวยงามไม่แพ้กัน สายถ่ายรูปคงอยู่ที่นี่ได้ทั้งวัน 📷 พอเดินเล่นจนพอใจ เวลาก็เริ่มเย็นแล้ว เราเลยตัดสินใจไปนั่งรับลม ดูพระอาทิตย์ตกที่ Chew Jettty หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่กว่า 100 ปี หมู่บ้านจะอยู่ใกล้ๆกับท่าเรือที่เรานั่งเรือข้ามฟากมา 🛳 ก่อนเข้าไปในหมู่บ้าน จะมี Chew Jetty Food Court เป็นฟู้ดคอร์ทที่มีอาหารให้เลือกหลายอย่างเลย ทั้งอาหารไทย (ที่คนไทยขาย) อาหารตามสั่ง น้ำ ขนม ใครเหนื่อยใครหิวก็สามารถแวะกินแวะพักก่อนเที่ยวต่อ เดินข้ามถนนมาจากฟู้ดคอร์ทก็จะเจอ หมู่บ้านชาวประมง Chew Jetty ของเราแล้ว ด้านในก็จะแบ่งเป็นร้านๆไป ให้ฟีลคล้ายๆกับเกาะเกร็ด หรืออัมพวาบ้านเรา แต่เล็กกว่า ด้านในมีร้านอาร์ทเล็กๆ รับเพ้นท์กระเป๋าอยู่ด้วย และที่พลาดไม่ได้เลย คือการนั่งตากลมทะเลเย็นๆ ที่พัดมาเตะหน้าตรงชานไม้ มู้ดดีมาก จะนั่งปล่อยใจจอยๆ หรือแชะแชร์ถ่ายรูป ก็จัดเลย! พอนั่งรับลมชิลล์จนพอใจแล้ว เราก็จะกลับเข้าไปที่เมืองจอร์จทาวน์อีกครั้ง เพื่อกิน Street Food อร่อยๆเป็นมื้อเย็น Street Food ที่แรกที่เราจะไป คือ Kimberley Street Food ปักหมุดชื่อนี้ใน Google Map ได้เลย แถวนี้ก็จะมีร้านอร่อยมากมาย เดินไปก็จะเจอร้านที่คนต่อแถวยาวๆ Sin Guat Keong มีทั้งผัดหมี่ ที่คล้ายๆผัดไทยบ้านเรา รสชาติใช้ได้เลย ลีลาคนผัดก็เด็ด คนต่อแถวยาวมาก นอกจากนี้ยังมีพวก Street Food บริเวณอื่นที่ไม่ไกลกันมากอีก เช่น Chulia Street Hawker Food ที่จะมี Lok Lok (คล้ายๆชาบูเสียบไม้บ้านเรา ตอนจะกินจะเอาไปจุ่มในหม้อน้ำเดือดๆหน้าร้าน) 😴 หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน หลังจากกินเสร็จ เราก็จะเข้าโรงแรมพักผ่อน แล้วค่อยตื่นมาลุยต่อพรุ่งนี้! DAY 2 - Before Heading Home เช้าวันที่ 2 วันนี้เราจะมีเวลาอยู่ที่ปีนังถึงเที่ยง เพราะต้องอิงเวลาจากตารางเวลาของรถไฟ ไม่ให้เราตกรถไฟ "ถ้าอยากรู้วิถีชีวิตคนที่ไหน ให้ไปตลาดของบ้านเขา" ใช่แล้ว เราจะไปกินข้าวเช้ากันที่ Walk@Chowrasta จะเป็นคล้ายๆตลาดเช้าของบ้านเค้า มีของกินเยอะ คนก็เยอะเช่นกัน มาถึงแล้วให้เดินเข้าไป จะมีหย่อมอาหารที่มีหลายๆร้านอยู่ เข้าไปได้เลย! พอเสร็จจากตรงนั้น เราจะไปกินลอดช่องเจ้าดังอย่าง Penang Road Famous Teochew Chendul คนขายน่ารัก ลีลาตักก็เด็ด แถมพูดไทยได้ด้วย รสชาติก็สมกับคำล่ำลือ ไม่หวานเกิน อร่อย! กินอิ่มแล้ว จะกลับแล้ว ขาดอะไรไปอย่างนะ "ของฝาก" เราจะไปซื้อของฝากกันที่ Gurney Plaza ก่อนกลับ ที่นี่จะเป็นห้าง ห่างออกจากย่านเมืองเก่าจอร์จทาวน์ไปเล็กน้อย แนะนำว่าให้นั่งแกรบไป เพื่อประหยัดเวลา แกรบที่นี่เหมือนบ้านเราเลย ราคาไม่แพง เรียกง่าย เรียกปุ๊ปมาปั๊ป มีทั้งของฝากอย่างช็อกโกแลต Beryl's ขอแนะนำขวดสีแดง Almond Milk Chocolate ไม่หวานเกินไป มีอัลมอนด์กรุบๆด้านใน หรือจะซื้อหมูแผ่น บะกุ๊ดเต๋ กลับไทย ก็ซื้อได้จากที่นี่หมด อุ้ย🫢 ลืมบอกไป โยเกิร์ตเจ้าดังอย่าง llao llao ก็อยู่ที่ห้างนี้นี่แหละ ก็จบกันไปแล้วน้าาา สำหรับ ทริปปีนัง 2 วัน 1 คืน ทริปสั้นๆ เน้นตัวเมืองจอร์จทาวน์ เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย ถ้าใครมีเวลาเพิ่ม แนะนำให้ขึ้นไป Penang Hill ไฮไลท์เพียบ และอย่าลืมปั่นไปจักรยานชิลๆ ริมทะเลที่ Gurney Bay เช่าผ่านแอปได้ง่ายสุดๆ และนี่แหละคือ 'ปีนัง' ทริปสั้นๆ แบบไม่ต้องลางานเดินทางง่าย ของกินอร่อย ครบจบในทริปเดียว! เครดิตภาพปกและภาพประกอบ : TriOxygen (ผู้เขียน) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !