รีเซต

One Day Trip เที่ยวกรุงเทพ นั่งเรือด่วน เที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยงบ 500 บาท

One Day Trip เที่ยวกรุงเทพ นั่งเรือด่วน เที่ยวแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยงบ 500 บาท
เอิงเอย
26 พฤษภาคม 2563 ( 10:00 )
45K
10

      “ล่องเรือมาหารักสักคน รวยหรือจนให้ใจรักแน่” ฟังเพลงของพี่ก๊อท จักรพันธ์ แล้วอยากจะไปล่องเรือจริงๆ เลย แต่ทริปนี้ไม่ได้มาตามหารักนะคะ เราจะพาไปตะลุย เที่ยวกรุงเทพ นั่งเรือด่วน ตามริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใน 1 วันเต็มๆ สามารถเที่ยวได้เช้าจรดเย็นกับ งบเพียง 500 บาท เท่านั้น จะมีสถานที่ไหนน่าสนใจบ้าง ลงเรือแล้วตามมาเลยค่ะ

 

เที่ยวกรุงเทพ งบน้อย 500 เอาอยู่!

 

     เราเริ่มต้นทริปกันที่ ท่าเรือสาทร การเดินทางมาท่าเรือสาทรง่ายนิดเดียวค่ะ ลง BTS สถานีสะพานตากสิน ใช้ทางออกที่ 2 มายังท่าเรือ

 

 

     ตั๋วเรือมีด้วยกัน 2 แบบ แบบเหมาเป็นรายวัน ขึ้นได้แบบไม่จำกัดเที่ยว เรือด่วนเจ้าพระยาธงสีฟ้า ตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ราคา 200 บาท ก็สะดวกไปอีกแบบไม่ต้องซื้อตั๋วหลายรอบ หรือ ถ้าคิดว่าจะไม่ได้ลงบ่อย ซื้อแบบเที่ยวเดียว 15 บาท ก็ได้ค่ะ ธงสีส้ม

      ลงเรือแล้วหาที่นั่งได้เลยค่ะ ใครเมาเรืออย่าลืมพกยาดมยาอมยาหม่องไปด้วยน้า เรือโยกเยกไปมาอยู่ตลอดเดี๋ยวจะเที่ยวไม่สนุกเอา ระหว่างทางเห็นสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา วิถีชีวิตของชาวบ้าน และได้เห็นวิวสวยๆ ตลอดริมแม่น้ำเลยด้วยค่ะ ผ่านสถานที่ต่างๆ ที่สำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยาหลายแห่งเลยทีเดียว

 

 

      ท่าเรือแรกที่เราจะลงนะคะ คือ ท่าพระอาทิตย์ N13 มีสถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลจากท่าเรือเท่าไหร่ นั่นก็คือ สวนสาธารณะสันติชัยปราการ ค่ะ เป็นสวนสาธารณะ บรรยากาศร่มรื่น มีลมพัดเย็นสบาย เพราะอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาเลย มีนักท่องเที่ยวหลายคนมานอนรับลมกันด้วยค่ะ

 

 

      และมี ป้อมพระสุเมรุ ที่ตั้งอยู่อย่างสง่างาม โดดเด่นในย่านถนนพระอาทิตย์ ป้อมพระสุเมรุนี้ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 และถือเป็นป้อมที่ยังคงเหลืออยู่ หนึ่งในโบราณสถานสำคัญของชาติ

 

 

สวนสาธารณะสันติชัยปราการ

  • ที่อยู่ : ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/2yqCWvCvdfJGCNWV9
  • เปิดให้เข้าชม : 05.00-21.00 น.
  • โทร : -
  • เว็บไซต์ : -

 

      สถานที่ถัดมา พิพิธบางลำพู ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันนี่เองค่ะ เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงการศึกษา บอกเล่าถึงประวัติศาสตร์และวิถีชุมชนบางลำพู แบ่งเป็นอาคาร 2 หลังด้วยกัน อาคารปูนรูปตัว L เป็นห้องนิทรรศการ

 

 

  • ชั้น 1 แบ่งเป็นห้องต่างๆ จัดแสดงความเป็นมาของกรุงรัตนโกสินทร์ ประวัติความเป็นมาของประตูเมือง
  • ส่วนชั้น 2 นิทรรศการเกี่ยวกับความเป็นมาของกรมธนารักษ์ รวมไปถึงขั้นตอนที่เราจะได้เห็นกระบวนการในการผลิตเหรียญกษาปณ์ที่เราใช้ในปัจจุบันด้วยค่ะ

 

 

        เดินชมภายในอาคารกันเพลินๆ แล้ว มาต่อในโซนอาคารไม้ข้างนอกกันค่ะ แบ่งเป็นห้องจัดแสดงด้วยกัน 4 ส่วน ที่บอกเล่าความเป็นมาของชุมชนหลายเชื้อชาติ อาหารการกินในย่านบางลำพู จำลองวิถีชีวิตของชาวย่านบางลำพูในอดีต มีร้านค้าเก่าแก่ในย่านบางลำพูมาจัดแสดงให้ชม ประวัติของบุคคลมีชื่อเสียงและที่สร้างคุประโยชน์ให้แก่สังคม รวมไปถึงการจำลองต้นลำพู ได้นำส่วนหนึ่งมาจาก “ลำพูต้นสุดท้าย”

 

 

      บริเวณชั้นล่างสุดเป็นห้องสมุดชุมชนบางลำพู ที่รวบรวมหนังสือหายากและและข้อมูลเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์บางลำพูที่เยอะที่สุดในประเทศไทยด้วยค่ะ

ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ และชาวต่างชาติ 30 บาท

 

พิพิธบางลำพู

  • ที่อยู่ : ถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/s8QDifyBPrp7yAEAA
  • เปิดให้เข้าชม : วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น.
  • โทร : 0-2281-9828
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/pipitbanglamphu

 

       มาต่อกันที่ ท่าเรือถัดไปกันค่ะ ท่ามหาราช สามารถเดินมาได้จากท่าพระอาทิตย์ได้ค่ะ เดินลัดเลาะมาบริเวณสนามหลวง ประมาณ 10 นาที หรือถ้ามาทางเรือ เรือจะจอดเฉพาะเรือด่วนเจ้าพระยาธงสีฟ้าเท่านั้นนะคะ แต่ถ้ามาเรือสีส้มสามารถลงได้ที่ ท่าช้าง เดินต่อมานิดเดียวก็จะพบความชิคๆ อาร์ทๆ ของ ท่ามหาราช คอมมูนิตี้มอลล์

 

 

      ที่นี่มีทั้งหมด 4 ชั้น แบ่งเป็นร้านเสื้อผ้าต่างๆ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านไอศกรีม และร้านอาหารที่สามารถนั่งชมชมบรรยากาศของแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงเย็นแดดอ่อนๆ ขึ้นมารับลมเย็นๆ ได้ที่ ชั้น 3 และ 4 มีมุมให้นั่งพักผ่อนได้อย่างสบายๆ เลย

 

 

      บริเวณรอบๆ อาคารก็มีสตรีทอาร์ทให้ชมบนผนังกำแพง ที่ประดับประดาไปด้วยจักรยานนับสิบ ถือเป็นจุดเช็คอินของที่นี่เลยค่ะ เป็นพื้นที่ คอมมูนิตี้สำหรับคนทุกเพศทุกวัยจริงๆ

 

 

 

ท่ามหาราช คอมมูนิตี้มอลล์

  • ที่อยู่ : ตรอกมหาธาตุ ถนนมหาราช แขวงบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/WGjRpruuydPSTo9n7
  • เปิดให้บริการ : 10.00-22.00 น.
  • โทร : 0-2024-1393
  • เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/ThaMaharaj

 

      เที่ยงแล้วจ้า แวะหาอร่อยๆ ที่ วังหลัง กันดีกว่า เพราะที่วังหลังเต็มไปด้วยของกินมากมาย คึกคักไปด้วยผู้คนสัญจรไปมา แถมของกินที่นี่ราคาก็ไม่แรงด้วยน้า ของอร่อยขึ้นชื่อของวังหลังต้องไม่พลาดกับ วังหลังเบเกอรี่ ขนมปังที่อัดแน่นไปด้วยไส้เน้นๆ และ ซูชิวังหลัง กับเมนูโดดเด่นที่มีให้เลือกหลายอย่างด้วยกัน อย่างนี้ต้องซื้อกลับบ้านแล้ว

 

PERCULIAR BOY / Shutterstock.com

 

      วังหลัง เค้าไม่ได้มีแค่ของกินเท่านั้น แต่ยังมีเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ให้ช้อปกันเพียบ ทั้งมือ 1 มือ 2 หลายสไตล์ วินเทจ แฟชั่น เครื่องประดับ ของแฮนด์เมดมาหมด ตามตรอกซอยต่างๆ

 

amnat30 / Shutterstock.com

 

วังหลัง

 

    
       นั่งเรือข้ามฝากมากันต่อที่ ท่าเตียน ในย่านนี้ต้องไม่พลาดแวะไหว้พระที่ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์ ซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 นั่นเองค่ะ ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย ทุกๆ รายละเอียดของแผ่นกระเบื้องที่ประดับบนเจดีย์ส่องกระทบกับแสงแดดช่างมีความวิจิตรงดงามมากจริงๆ ค่ะ

 

 

      ภายในวิหารประดิษฐาน พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย และเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วยค่ะ เพราะเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนงไว้ด้วยกัน

คนไทยเข้าชมฟรี ต่างชาติ 50 บาท

 

 

วัดโพธิ์ ท่าเตียน

 

       จากบริเวณท่าเตียน ตรงนี้เรามองเห็นความสวยงามของ พระปรางค์วัดอรุณ ได้อีกด้วยค่ะ ว่าแล้วก็ซื้อตั๋วเรือข้ามฝาก ในราคา 4 บาท แล้วลงเรือข้ามฝากไปชมความงามของวัดอรุณฯ ต่อค่ะ

 

 

      วัดอรุณราชวราราม หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณที่สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่เชื่อกันว่า หากใครได้มากราบไหว้ ชีวิตจะรุ่งโรจน์ดุจรุ่งอรุณ

      พระปรางค์วัดอรุณ ถือเป็นพระปรางค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นที่นิยมมากราบไหว้ทั้งชาวไทยและต่างชาติ และมาเก็บภาพคู่กับพระปรางค์สีขาวอันโดดเด่นที่ประดับประดาด้วยเครื่องชามเบญจรงค์ที่มีลวดลายอันงดงามและหายาก

 

 

       เราสามารถเดินขึ้นไปชมรอบๆ บริเวณข้างบนพระปรางค์ได้ค่ะ มีมุมถ่ายรูปหลายมุม และเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย บันไดทางขึ้นพระปรางค์จะค่อนข้างชัน ระวังด้วยน้า

คนไทยเข้าฟรีค่ะ ต่างชาติ 50 บาท

 

วัดอรุณราชวราราม

  • ที่อยู่ : ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/48ZGR6fY4r6Yj2Kf7
  • เปิดให้เข้าชม : 08.00-17.30 น.
  • โทร : -
  • เว็บไซต์ : -

 

      หลังจากชมความงามของวัดอรุณกันไปแล้ว ไปเดินเล่นชิลๆ กันต่อที่ ย่านเจริญกรุง กันค่ะ สามารถนั่งเรือธงส้ม เหลือง เขียว เรือไม่มีธงมาลงที่ ท่าเรือสี่พระยา ได้เลยค่ะ เดินผ่าน ร้านเกี๊ยวซ่า เฟิง จู ไม่ได้ เป็นต้องแวะทานค่ะ

 

 

       เกี๊ยวซ่าหน้าเปิด มีด้วยกันอยู่ 5 รสชาติ ชิ้นละ12 บาท อร่อยพอดีคำเลย เดินลัดเลาะไปตามถนนกันต่อ แวะแชะภาพกับกำแพงแกะสลัก สตรีทอาร์ทสุดเก๋ ต่อด้วย warehouse 30 ที่ถูกแปลงโฉมมาจากโกดังเก่าให้เป็นคอมมูนิตี้ฮิปๆ แหล่งรวมของใช้ ของตกแต่งจนต้องตกหลุมกับความมินิมอล

 

 

warehouse 30

  • ที่อยู่ : ซอยเจริญกรุง 32 แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/JxrW4hUKdCArejjM6
  • เปิดให้เข้าชม : 12.00-21.30 น.
  • โทร : -
  • เว็บไซต์ : -

 

       ปิดท้ายของทริปนี้ด้วย เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ นั่งเรือมาลงได้ที่ ท่าเรือวัดราชสิงขร แล้วเดินลัดเลาะตามเส้นทางประมาณ 5 นาที หรือถ้ามาเรือด่วนเจ้าพระยาธงสีฟ้า สามารถลงที่ท่าเอเชียทีคได้เลยค่ะ

 


       ที่นี่แบ่งออกเป็น 4 โซนด้วยกันคือ ย่านเจริญกรุง ย่านกลางเมือง ย่านโรงงาน และย่านริมน้ำ บรรยากาศช่วงเย็นๆ กำลังดีเลยค่ะเพราะอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จะได้เห็นแสงอาทิตย์อ่อนๆ ค่อยๆ ลับไปจากขอบฟ้า เมื่อฟ้ามืดสนิทจะได้เห็นแสงสีจากตึกที่สะท้อนตกกระทบกับแม่น้ำ เป็นอะไรที่ฟีลกู้ดมากทีเดียว >.<

 

เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์

 

        ในวันหยุดนี้ อย่าลืมหาเวลาว่างมาออกทริปชิลๆ สักวันนึง มาชาร์จแบตเติมพลัง ที่จะทำให้วันหยุดของเพื่อนๆ มีสีสันไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แถมใช้งบแบบสบายกระเป๋าด้วย แค่นี้ก็ชิลได้เช้าจรดเย็นแล้วล่ะค่ะ