สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านบทความนี้ผมจะพามาท่องเที่ยวกันที่ ภูเขาไฟในประเทศไทย หลายคนอาจจะคิดว่าประเทศไทยมีภูเขาไฟด้วยหรอ จริงๆ มีครับ ตั้งอยู่ที่ วนอุทยานเขากระโดง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ภูเขาไฟแห่งนี้จะเป็นยังไงบ้างติดตามได้จากบทความนี้เลยครับ การจะมาที่ วนอุทยานเขากระโดง สามารถทำได้ 2 แบบคือขับรถขึ้นไปยังบริเวณด้านบนกับเดินขึ้นบันไดพญานาค 297 ขั้น สำหรับคนที่อยากออกกำลังกายไปในตัว เมื่อเดินขึ้นมาด้านบน ผมอยากให้ทุกท่านไปสักการะ “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปด้านบนเขากระโดง พร้อมชมวิวเมืองบุรีรัมย์ไปในตัว ไหว้พระขอพรองค์พระพุทธรูปเสร็จแล้วก็จะมาถึงไฮไลท์ในการมาที่นี่คือการมาชมภูเขาไฟครับ โดยภูเขาไฟจะอยู่ด้านหลังองค์พระพุทธรูปมีป้ายบอกทางตลอดไม่มีหลงแน่นอน โดยระหว่างทางก็จะมีต้นไม้ให้ชมดูร่มรื่นมากเลยทีเดียว ที่ชอบก็คือมีป้ายผู้พิชิตภูเขาไฟ การมีป้ายแบบนี้ถือว่าเป็นการเพิ่มมุมถ่ายรูปไปในตัว ก่อนถึงปากปล่องภูเขาไฟจะพบกับ สีไหลเด้อ ของเล่นจากธรรมชาติ โดยที่เราจะสามารถสไลด์ตัวเองลงไปด้านล่างได้เลยจะประหยัดเรี่ยวแรงในการเดินได้อย่างมาก แต่ระวังเสื้อจะเลอะนะครับ พอเดินผ่านจุดนี้ก็จะถึงบริเวณปากปล่องภูเขาไฟแล้ว โดยเราสามารถเลือกชมจากด้านบนหรือเลือกชมจากบนสะพานแขวนก็จะเสียวหน่อย แต่สนุกดีแถมยังได้มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ไปอวดเพื่อนได้อีกด้วย และแล้วก็มาถึงจนได้ ปากปล่องภูเขาไฟ เป็นจุดที่เคยเป็นภูเขาไฟเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อน มองผ่านๆ อาจจะเหมือนหลุมธรรมดา แต่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าบริเวณนี้คือปากปล่องภูเขาไฟจริงๆ บริเวณใกล้เคียงยังมีซุ้มหัวใจแห่งความรักเสมือนอยู่บุรีรัมย์แต่ฟีลเกาหลีเก๋มากๆ ใครเป็นแฟนกันก็มาคล้องกุญแจแห่งรักกันได้ครับ ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้คือภูเขาไฟแห่งสุดท้ายของประเทศไทย และเป็นสถานที่ออกกำลังกายพักผ่อนหย่อนใจของชาวบุรีรัมย์ ใครมีโอกาสมาเยือนบุรีรัมย์ นอกจากสนามบอลและสนามแข่งรถ อีกสิ่งหนึ่งที่บุรีรัมย์เด่นก็คือ ภูเขาไฟแห่งสุดท้ายของประเทศไทยต้องห้ามพลาดในการมาเยือนครับวนอุทยานเขากระโดง เวลาเปิด-ปิด 08.00-18.00 น.วิธีการเดินทาง https://maps.app.goo.gl/GWMDncHVgtKK1qre6?g_st=icภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน🗺 แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”