หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินเส้นทางท่องเที่ยวที่เรียกว่า ถนนสายโรแมนติค หรือ Romantic Road ของประเทศเยอรมนีกันมาบ้างแล้ว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักถนนสายนี้กันค่ะ ถนนสายโรแมนติคนี้ไม่ใช่ชื่อถนนนะคะ แต่เกิดขึ้นจากการที่บริษัทนำเที่ยวของประเทศเยอรมนีได้นำเสนอเส้นทางเป็น Theme Road ขึ้นในปี 1950 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรัฐ Bavaria และ Baden-Württemberg ถนนสายโรแมนติคจะครอบรอบ 70 ปี ในปี 2020 นี้ เส้นทางสายโรแมนติคมีระยะทางรวมกันประมาณ 400 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นการเดินทางจากเมือง Würzburg และไปสิ้นสุดที่เมือง Füssen ตลอดเส้นทางเราจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ของประเทศเยอรมนี ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยยุโรปยุคกลางไม่ว่าจะเป็นเมืองยุคกลางที่มีกำแพงเมืองรอบล้อมอย่าง Nördlingen และ Rothenburg ob der Tauber, ปราสาทสวย ๆ หลายแห่ง เช่น Neuschwanstein ที่เรารู้จักกันดี, บ้าน half-timbered น่ารัก ๆ ในแบบกึ่งไม้กึ่งปูนที่ประดับด้วยดอกไม้สีสดใสในหน้าร้อน, รวมทั้งโบสถ์และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ที่มีความสำคัญทางศาสนาที่มีสถาปัตกรรมหลากสไตล์ เช่น โกทิค, เรอเนซองส์ และ บาร้อค บนเส้นทางนี้เรายังจะได้ชื่นชมความงามของธรรมชาติในบริเวณเทือกเขาแอลป์ เราเริ่มต้นการเดินทางการที่เมืองวูร์ซบวร์ก Würzburg เมืองที่เคยมีการจัดประลองฝีมือของอัศวินเป็นครั้งแรกของประเทศเยอรมนีในปี 1127 และสถานที่สำคัญ ๆ ของเมืองอย่างป้อมแมเรียนเบอร์ก Marienberg ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นทั้งปราสาทที่ประทับของพระสังฆราชผู้ปกครองเมือง (Prince Bishop) และป้อมปราการ และสถานที่สำคัญแห่งที่สองคือ พระราชวังวูร์ซบูวร์ก Würzburg Residenz ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ สร้างขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นที่ประทับของพระสังฆราช พระราชวังแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บริเวณตอนล่างของเมือง ซึ่งในขณะนั้นเมืองมีความสงบสุข ไม่มีการต่อต้านจากประชาชน เมืองโรแทนบวร์ก ออบ เดอร์ เทาเบอร์ Rotenburg ob der Tauber ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเทาเบอร์ซึ่งเป็นแหล่งปลูกไวน์แห่งหนึ่งของเยอรมนี เมืองในยุคกลางที่ยังคงรักษาบรรยากาศดั้งเดิมของยุคกลางไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมืองที่ล้อมรอบเมือง ประตูเมือง หรือบ้านเรือนสมัยยุคกลางสีลูกกวาด จัตุรัสกลางเมืองที่เป็นสถานที่ตั้งของตลาดคริสมาสต์ หรือหอนาฬิกาที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองนี้ต้องแวะมาเยี่ยมชม เมืองนี้เป็นเหมือนเมืองต้นแบบของเมืองในยุคกลางเมืองอื่น ๆ นอร์ดลิงเงิน Nördlingen เป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองออสบวร์ก เคยเป็นเมืองที่สำคัญด้านการค้าขายในยุคกลาง มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสต์ให้เยี่ยมชมหลายแห่ง เมืองนี้ก็จะคล้าย ๆ กับ Rothenburg คือมีกำแพงล้อมรอบเมือง ซึ่งกำแพงเมืองนี้ได้สร้างมาตั้งแต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมืองออกสบวร์ก Ausgburg เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในแคว้นบาวาเรีย เคยเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวโรมัน และเคยเป็นที่ประทับของพระสังฆราชแห่งแคว้นบาวาเรีย ที่เมืองนี้มีโบสถ์หลาย ๆ แห่งที่ต้องไปเยี่ยมชม อาคารหลายแห่งที่มีสถาปัตกรรมแบบเรอเนอซองค์ รวมถึงน้ำพุสวย ๆ ในเมือง หอนาฬิกาประจำเมืองซึ่งสร้างมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 เราข้ามไปยัง เมืองชวานเกา Schwangau เมืองที่ตั้งอยู่เชิงเขาของเทือกเขาแอลป์ รอบ ๆ จะมีทะเลสาบหลายแห่ง และปราสาทสไตล์นีโอ-โกธิคอย่างปราสาท Hohenschwangau ซึ่งสร้างในคริสตศตวรรษที่ 19 และปราสาท Neuschwanstein ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และไปจบที่เมืองฟึสเซิน Füssen เมืองที่มีโบสถ์ในสไตล์โกธิค และ บาร้อคสวย ๆ หลายแห่ง รวมถึงปราสาท High Castle ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของพระสังฆราชแห่งเมืองออกสบวร์ก รวมถึงโบสถ์ St. Mang ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ประเทศเยอรมนียังมีอีกหลายเส้นทางเช่น Wine Rouge, Alpine Road ที่สวย ๆ และน่าไปเยือนซึ่งเราจะมาแนะนำในโอกาสต่อไปค่ะ @ภาพประกอบทั้งหมดโดยผู้เขียน #เที่ยวต่างประเทศ #เที่ยวยุโรป