เปิดชื่อเรื่องมาอย่างนี้ นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติคงจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นที่ไหน แต่สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปอาจจะยังไม่คุ้นเคย จะมีที่ไหนในเมืองไทยเหมือนกับป่าอเมซอนในทวีปอเมริกาใต้กันน้า บอกชื่อไปอาจจะยังงงๆ ว่า เอ๊ะ ที่ไหนกัน มันอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย ไหนใครรู้จัก "คลองสังเน่ห์" ยกมือขึ้นหน่อยครับ คลองสังเน่ห์ หรือ อเมซอนเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนายสี อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ใครขับรถมาเองดูป้ายบอกทางดีๆ ด้วยนะครับ เพราะตรงปากทางเข้ามีแค่ป้ายแผ่นเล็กๆ ชี้บอกเท่านั้น ผมขับเลยมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ หรือจะโทรสอบถามเส้นทางและบริการได้ที่เบอร์ 087-2807009 คลองสังเน่ห์เป็นคลองน้ำสายสั้นๆ ที่ไหลมาจากเขาบางเต่า แล้วไหลไปลงแม่น้ำตะกั่วป่า จุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวที่นี่คือธรรมชาติ ที่มีต้นไทรอายุนับร้อยปีที่อยู่สองข้างของลำคลอง ห้อยระโยงระยางพลาดไปมา เกิดเป็นม่านไม้ที่สวยและเขียวชอุ่ม ยังมีต้นไม้น้ำน้อยใหญ่ที่ขึ้นแน่นขนัดในคลอง และที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอเมซอนน้อยๆ เพราะนอกจากต้นไม้ที่มีมากมายจนเรียกได้ว่าเป็นป่าขนาดย่อมแล้ว ในคลองสังเน่ห์แห่งนี้ยังมีสัตว์หลากหลายชนิด ทั้งงูเหลือม งูจงอาง งูปล้องทอง และยังมีนกที่เข้ามาพักปีกและหาอาหารในป่านี้อีกด้วย การเข้าเที่ยวชมคลองสังเน่ห์ต้องใช้บริการพายเรือยางของกลุ่มชุมชน ค่าบริการอยู่ที่ 500 บาทต่อเรือหนึ่งลำ สามารถนั่งได้ 2-3 คน แถมคนพายและไกด์ ทูอินวันเลยแหละครับ ใช้เวลาไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถโทรจองหรือจะเข้าไปแล้วค่อยไปหาเอาดาบหน้าอย่างผมก็ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปเที่ยวชมได้ตลอดนะครับ ต้องดูระดับน้ำ และสภาพอากาศว่าจะมีฝนตกไหม ถ้ามีพายุเข้าหรือฝนตกหนักก็หมดสิทธิ์ครับ เพราะอันตรายมากๆ หากจะเข้าไปช่วงนั้นดังนั้นผมแนะนำให้เช็คสภาพอากาศในช่วงที่ไปเที่ยวกันดีๆ ด้วยนะครับ ที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00-17.00 แต่ช่วงเวลาที่ชาวบ้านแนะนำเป็นตอนช่วงเช้า และช่วงเย็น เพราะแดดไม่แรง และได้บรรยากาศกว่าตอนกลางวันนะครับ ตอนผมไปผมไปหาเรือที่คลอง เขาก็รีบจัดหาให้ทันที รอไม่นานเลยครับ อุปกรณ์พร้อม ใครที่ว่ายน้ำไม่เป็น ผมแนะนำให้ใส่เสื้อชูชีพ เพราะน้ำที่นี่ลึกเอาการเลย ถามคุณลุงบอกว่าประมาณ 2-3 เมตร แค่พายไปแปปเดียว ผมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังเรื่องอนาคอนดาเลยครับ บรรยากาศ สภาพแวดล้อมมันใช่เลย รู้สึกระแวงกลัวจะมีอะไรโผล่เข้ามาให้ตกใจเล่น และใช่ครับ มันมีอะไรโผล่มาให้ตกใจจริงๆ ผมเจองูจงอางที่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้เรือของนักท่องเที่ยวที่นำหน้าผมอยู่ แต่ไกด์ที่พายเรือลำนั้นก็บอกให้คนบนเรืออยู่นิ่งๆ หยุดพายเรือ (ในตอนขาไปเราต้องว่ายทวนกระแสน้ำ พอเราหยุดพาย เรือจึงลอยห่างออกมาจากงู) ในตอนนั้นผมตื่นเต้นมากเลย ถึงแม้เรือผมจะอยู่ห่างมาพอสมควร แต่กลัวงูมันเลี้ยวมาทางผม ตอนนั้นผมคิดทันทีเลยว่าทำยังไงดีถ้างูมันเลี้ยวมา จะกระโดดลงน้ำแล้วว่ายหนีหรือควรอยู่นิ่งๆบนเรือแล้วค่อยสู้กับมันดีนะ แต่โชคดีที่ผมไม่มีโอกาสได้แสดงทักษะว่ายน้ำหรือทักษะจับงู เพราะมันเลี้ยวไปทางอื่นและหายลับไปแทน หลังจากตื่นตาตื่นใจกับงูจงอางตัวนั้นแล้ว ก็มีงูปล้องทองนอนอยู่บนกิ่งไม้สูงลิบๆให้ได้พายเรือเข้าไปดู และมีนกกระสาที่เกาะขอนไม้ให้เข้าไปชมดูระยะประชิด จะบอกว่าไปแล้วใช่ว่าจะได้เห็นงู เห็นนกกันทุกคนนะครับ เรื่องอย่างนี้แล้วแต่โชคของแต่ละคนเลย แต่ไม่ต้องเสียใจไปนอกจากสัตว์แล้ว เราสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติรอบข้างตลอดการพายเรือได้ เรียกว่าคุ้มค่าเหมือนกันแน่นอน ถ้าใครสนใจพืชพรรณไหน สามารถสอบถามคนพายได้เลยครับ ตอนนั่งเรือเขาก็เล่าไป ชี้ให้ดูบอกชื่อพรรณไม้ไป แต่ถามว่าผมจำได้มั้ย แหะแหะ ออกมาก็ลืมแล้วครับ บางจุดคุณลุงที่พายเรือก็จะจอดแล้วเอาหัวเรือมุดไปใกล้ๆ ขอนไม้ให้คนใจกล้าปีนขึ้นไปถ่ายรูปด้วยแหละครับ บางคนไม่กล้าก็ได้แค่นั่งหัวเรือแล้วโพสต์ท่าสวยๆ ไป การที่ออกมาจากเมืองใหญ่ แวะเที่ยวในสถานที่ธรรมชาติบ้าง นอกจากเป็นการพักผ่อนสายตาแล้ว ยังเป็นการอุดหนุน สร้างรายได้ให้กับชุมชน จะได้ช่วยกันอนุรักษ์สถานที่ สิ่งแวดล้อมโบราณ และเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวของชุมชน เพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกันนะครับ ใครยังไม่มีสถานที่เที่ยวในใจ ผมแนะนำให้จดลิสต์นี้ไว้ แล้วมีโอกาสเมื่อไหร่ก็ลองไปดูสักครั้ง แล้วคุณจะชอบที่นี่ ที่ "คลองสังเน่ห์"