รีเซต

พิชิตยอดเขาสันหนอกวัว ไหวไหม? เดิน 9 กม.ปะทะไอหมอก โอบกอดลมหนาว

พิชิตยอดเขาสันหนอกวัว ไหวไหม? เดิน 9 กม.ปะทะไอหมอก โอบกอดลมหนาว
อีดีที ไกด์
2 มกราคม 2565 ( 08:00 )
3.3K

     หนาวนี้ร่างกายต้องการปะทะ... ปะทะลมหนาว ปะทะหมอกขาว ปะทะยอดเขา
ตั้งตารอ กดโทรศัพท์ สวดมนต์ โทรจอง สันหนอกวัว ให้ได้ !

     แล้วแต้มบุญของเราก็ยังเหลือ เพราะจองทัน ! แต่ทริปนี้ไอ้เราดั๊นน เป็นสาวน้อยผู้เดียวในหมู่ชายมาดโฉด แต่อยู่ในโหมดน่ารัก รวมตัวกันได้ครบ 7 คน 1 กรุ้ปพอดี

     อ่ะ เอาวะ จองได้แล้วก็ต้องลุย ร่างกายก็ไม่ได้วอร์มอัพมาก่อน เป็นไงเป็นกัน 555 ทริปนี้จะทุลักทุเล คลานขึ้นเขาหรือไม่ ! ไปดูกันเลยดีกว่าา

 

 

     หลังจากจองได้แล้ว ก็จัดเตรียมส่งเอกสารตั่งต่างให้เรียบร้อยครบถ้วน ฉีดวีคซีนกันหมดแล้วทุกคน (อย่างน้อย แขนต้องปะทะมาแล้ว 1 เข็ม AstraZeneca หรือ 2 เข็ม)

    จุดแรกเราต้องไปจ่ายค่าเข้าอุทยานที่จุดเดินขึ้น ที่เขาเรียกกันป้อมปี่ ๆ น่ะ ลงทะเบียนเขียนชื่อให้เสร็จสรรพ

  • จ่ายเงินค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1,500฿/1 กลุ่ม (7 คน)
  • ค่ารถไปส่งปากทางเดินขึ้น 1,500฿/1 กลุ่ม (7 คน)

     แล้วก็ค่าลูกหาบ ราคาค่าลูกหาบสุทธิอยู่ที่ 1,500฿/30 โล (ถ้าใครเป็นสายแบกเองก็ไม่ต้องจ้างลูกหาบจ้า) ชั่งน้ำหนักของกันไป ถ้าเกิน 30 โล คิดกิโลละ 50 บาทจ้า

 

 

      ระยะทางที่เราจะทะยานขึ้นไป รวมแล้วประมาณ 9 ก.ม. แบบลาดชัน เดินแบบตัวเอนกันไปข้าง เดินสับไม่ไหวนะแม่ มีจุดชันแบบไต่เชือกด๊วยย เอาสิ๊ แต่มีข้อดีคือตลอดทางจะมีต้นไม้เป็นทางร่มแทบจะตลอดทาง มีโดนแดดปะทะบ้างนิดหน่อย แต่ถ้าจะให้ดีนะ บอกเลยออกกำลังกาย วอร์มเครื่องร่างกายล่วงหน้ากันสักหน่อย กันตะคริวขึ้นขาด้วยจ้า 555 เพราะมีหนุ่มในแก๊งค์เป็นตะคริวอยู่ราย 2 ราย

 

 

     เรื่องสำคัญระหว่างทางอีกอย่างนึงคือ น้ำ !! น้ำคือผู้ให้ชีวิต คำนี้คือใช่ คือได้ 5555 กระหายสุดไรสุด ไว้จิบระหว่างทาง แล้วคุณจะรู้สึกว่า “ทำไมน้ำเปล่ามันอร่อยขนาดนี้วะเนี่ยยยย” อารมณ์นี้เลยจ่ะ 5555

    แล้วความสนุกของทริปนี้ก็คือการเดินไปกับแก๊งค์เพื่อน แม้จะเป็นชายล้วน คือระหว่างทางหมดแรงแค่ไหนแต่ก็ยังคุยตบมุกกันโบ๊ะบ๊ะ ตัดกำลังเพิ่มไปอีก 555 แต่ว่ามันโคตรสนุกก

 

 

     แต่ว่าชาวแก๊งค์เราแบ่งเป็น 2 ทีม เราเป็น 1 สาวน้อยในทีมที่เดินถึงยอดเขาสันหนอกวัวก่อน ใช้เวลาไปประมาณ 5 ชั่วโมงได้ เดินตั้งแต่ 10 โมง ถึงประมาณบ่าย 3 โมงฮะ ตอนถึงคือสัมผัสได้ถึงลมหนาวเลย แต่แดดก็แรงมากเช่นกัน วางข้าวของ เดินสำรวจถ่ายรูปต่อทันที

 

 

      เดินขึ้นสันหนอกเล็กไปถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตซะหน่อย แม่จะต้องภูมิใจในตัวช้านนน พอตกเย็น หมอกมาเต็ม !! ไหลมาอย่างพรั่งพรู ขาวโพลนไปหมด รอจังหวะฟ้าเปิด ถ่ายคู่กับสันหนอกใหญ่อีก 1 ช้อต อากาศเริ่มเย็นมากแล้วว ลงไปจุดกางเต๊นท์กินข้าวกันดีกว่า ละบอกเลยว่าไม่มีการอาบน้ำนะจ๊ะ ข้างบนไม่มีห้องน้ำใดใด มีแต่ส้วมหลุมไว้อุจจาระ ปัสสาวะเต้าอั้น การอาบน้ำ=เช็ดทิชชู่เปียก ก็พอจะทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้างไม่มากก็น้อย เพื่อน ๆ อย่าลืมพกกันไปด้วยเน้อออ หมดวันนี้ไปด้วยความหมดแรง บอกเลยตอนกลางคืนหนาวค่อดดดด

 

 

เช้าวันที่ 2 ตื่นมาตี 4 โคตรรหนาวว

      เตรียมตัวให้พร้อม ขึ้นไปบนสันหนอกอีกครั้ง อยากได้บรรยากาศตอนเช้า พระอาทิตย์ขึ้น ตื่นเช้าจั๊ด ยืนตากลมหนาวรอพระอาทิตย์นานมาก 5555 และแล้วพระอาทิตย์แรกของวันก็เริ่มแง้มแสงสีทองส้มออกมาให้เราได้สัมผัส ท้องฟ้าไล่เฉดสีสวยมาก หมอกลอยเอื่อย ๆ มองแล้วไม่เบื่อเลย

 

 

     อยู่สันหนอกเล็กมา 2 วันแล้ว วันนี้เราข้ามฟากไปเดินขึ้นสันหนอกใหญ่บ้าง อยากถ่ายรูปยิงย้อนไปที่สันหนอกเล็ก ด้านบนของสันหนอกใหญ่ มองเห็นวิวแบบจุก ๆ เต็มตา หมอกแน่น ๆ เป็นทะเลหมอกสีขาวสวยงาม ระดับความเย็นอยู่ที่ 19 องศา ฟินโคตรร

 

 

      เสพความสวยงามของธรรมชาติเต็มอกเต็มใจแล้ว ได้เวลาเก็บข้าวของ เดินลงเขา

     ออกเดินทาง 9 โมงเช้า ขากลับเดินลงซะส่วนใหญ่ แต่บางจุดที่ชันมาก ๆ ก็หวาดเสียวเอาเรื่องเหมือนกัน เดินยากกว่าตอนขึ้นอีก ต้องถอยหลังลง ไม่งั้นหน้าแหกแน่นวนน

     และแล้วก็มองเห็นปลายทาง เวลาตอนนั้นประมาณเที่ยงกว่า ๆ ขากลับเราใช้เวลา 3 ชั่วโมงนิด ๆ

     ถึงแล้วมีร้านขายน้ำวางแผงอยู่ ซัดน้ำอัดลมเย็น ๆ สดชื่นไปคนละขวด สะใจ !!

 

 

     นั่งรถกลับไปป้อมปี่ ชำระล้างร่างกาย สบายตัวสุด ๆ พร้อมขึ้นรถหลับกลับบ้านได้

     การออกเดินทางในแต่ละครั้ง ภาพที่บันทึกด้วยตานั้นสวยงามจับใจกว่าจะบันทึกลงสิ่งใด สำหรับเราการได้ออกไปเห็น สัมผัสด้วยตัวเอง มันคือที่สุดแล้ว และที่มาเล่าบอกต่อทริปนี้ให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้เห็นและสัมผัสผ่านรูปภาพ เป็นการชักชวน กระตุ้น สร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ ได้ออกไปสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน :) เอาล่ะ ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะ !!