เที่ยว เชียงใหม่ กันค่ะ ช่วงต้นปี 65 เรามีโครงการแอ๋วเมือง เชียงใหม่ การตั้งใจครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ไหว้พระ นอนโดม เดินชมธรรมชาติ ทามกลางลมหนาว 5555 หวังว่าจะเจอความหนาวกะเขานะตัวเธอ คราวนี้เราเดินทางกัน 3 คน เราเริ่มด้วยการหาที่พักก่อนเลย 1 อาทิตย์ผ่านไปเราตกลงว่าเราจะพักที ไร่ภูพญา @ เชียงใหม่ เพราะมีที่พักที่เราอยากจะพักก็คือ Dome tent 5555 หวังว่าคงสมหวังนะจ้ะ และสิ่งที่ได้คือ ลักษณะที่พักก็บรรยากาศแบบนี้เลย แหมตรงปกไม่ผิดกหวังจ้า งานนี้ สิ่งต่อไปคือว่าจะไปอย่างไร เราเริ่มมองหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกที่ตามสายการบินหรืออาจจะเป็นตัวแทนได้โพสไว้ลองเข้าไปดู ลองจองดูทั้งไปและกลับสรุปว่างบเกินจ้าเราต้องเปลี่ยนความคิด ว่าเราน่าจะลองไปรถทัวร์กันบ้างดีกว่ามั้ย เออก็ดีนะ 5555 สรุปกัน ได้ตั๋วเครื่องขากลับจาก เชียงใหม่ ออกเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ถึงดอนเมืองก็ประมาณ 5 ทุ่มกว่า ของสายการบิน แอร์เอเชีย ในราคาทั้งสิ้น 3,104 บาท หลังจากนั้นในช่วงก่อนและหลังเทศกาลปีใหม่ เราเจอเพื่อนสายพันธ์ใหม่ คือ เจ้า โอไมครอน ตายละหว้าจะได้ไปปะ ต้องเลื่อนแพลนหรือเปล่า เรารอประกาศจากเบื้องบนว่าจะยังไงดี สรุปไม่มีอะไรแต่คิดนะว่าถ้าไปต้องดูแลตัวเองให้ดีกันเลยทีเดียวละ หลังจากนั้นทางสายการบินส่งมาของเลื่อนเที่ยวบินเราเป็นให้กลับในวันถัดไป ปัญหาเกิดสิจ้ะ มีคนลางานเกิน 3 วัน ไม่ได้ต้องเดือนร้อนของเปลี่ยนเที่ยวบิน เราไม่แน่ใจว่าเขาเลื่อนทำไม เพราะเพื่อนสายพันธ์ใหม่ หรือเปล่า จากนั้นเราเข้าไปขอเปลี่ยนเที่ยวบินเราต้องคุยกะ Ms. AVA ซึ่งเธอเป็น AI ประจำ แอร์เอเชีย ตายละคุยกะคนยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย 55555 สรุปเป็นไปได้ด้วยดีทั้งสองฝ่าย ได้เที่ยวบินกลับ วันเดิมแต่เลื่อนมาเป็น 2 ทุ่มของวันเดียวกัน จากนั้นเราโทรหาบริษัททัวร์ที่จะพาเราไปให้ถึง เชียงใหม่ อย่างปลอดภัยคือ สมบัติทัวร์ ด้วยรถ VIP 20 ทีนั่งเรียบร้อยด้วยราคาคนละ 823 บาท แล้วคนหลงอย่างเราหรือจะเที่ยวเองได้ หารถพาเที่ยวสิคะจะช้าอยู่ใย สอบถาม ประเมินราคาเรียบร้อย พาเที่ยว รับส่งจัดไป 5,000 ถ้วนจ้า เป็น รถแดงเชียงใหม่ ในเพจเขามีคนขับหลายคน เราได้น้องหนุ่มเป็นพลขับในทริปนี้ เห็นเขาถ่ายรูปให้ด้วยสวยๆทั้งนั้นเลยดูจาก รีวิว เพจเขาละ คราวนี้ทุกอย่างพร้อม ถึงวันเดินทาง เจอกันสถานีวิภาสดีตอน 2 ทุ่มกว่า รถ VIP 20 ที่นั่งมันก็จะดูดีแบบนี้ละค่ะ ช่วงที่ไปคนไม่เต็มมีประมาณ 12 คนเพราะในช่วงโควิดระหว่างการเดินทาง ไม่มีการแจกอาหารให้รับประทานบนรถมีแค่น้ำคนละขวด จะแจกขนมและผ้าเย็นตอนก่อนถึงที่หมายค่ะ เราออกเดินทางตอนประมาณ 21:30 ถึง สถานีขนส่งเชียงใหม่ อาเขต 3 ประมาณ 06:00 ถึงเร็วกว่าที่เราคิดไว้ เพราะนัดรถเหมาไว้ 8:00 เราเดินหาที่นั่งรอเวลา ระหว่างการรอก็ทำบุญเช้ากันสักหน่อยค่ะ หาอะไรร้อนๆ ดื่มเพราะอากาศค่อนข้างเย็น และไม่ลืมนะจ้ะ ล้างหน้าแปรงฟัน 55555พอถึงเวลารถมารับ สีหวานพาสเทลมาเชียว รวมกับผู้โดยสารสาวสวยทั้งสามก็สลิ่มละคร้าบ 55555 ถึงเวลา ลัลล้าแล้วจ้าจุดหมายแรกคือ พระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ใครมา เชียงใหม่ ต้องมาที่นี่แน่นอน อากาศวันนี้ค่อนข้างหนาวประมาณ 17 องศา ไหว้พระเรียบร้อยก็หาจุดถ่ายรูปสวยๆข้างบนนี้เขามีช่างถ่ายรูปบริการรูปละ 100 บาทก็สวยนะค่ะแต่เราไม่ได้ใช้บริการต้องขอบอกว่าเรามีมุมของเรา สวยหรือเปล่าไม่รู้แต่เราสวย 55555นี่คือมุมที่คนอื่นเขาถ่ายกัน คิดว่านะและนี่คือมุมของเรา พอหอมปากหอมคอที่จริงถ่ายเป็นสิบเลือกได้ดีรูปเดียว 555555 จากนั้นเดินทางต่อไปที่ บ้านม้งดอยปุย เดินขึ้นไปเรื่อยจะมีของขายสองฝั่งข้างทางแต่ไม่ค่อยมีคนเดินร้านก็เปิดไม่เยอะคงเพราะ โควิดเป็นเหตุสังเกตได้ ในช่วงที่เราไปมันก็จะเหงาๆ แต่ก็ปลอดภัยดีว่าปะ มีเด็กน้อยมาให้ถ่ายรูปด้วยคิดค่าถ่ายรูปแล้วแต่จะให้เลยค่ะ เป็นค่าบำรุงการศึกษาหนูน้อยๆ แวะซื้อ สตรอเบอรี 2 กล่อง กับอีก 1 แก้วพร้อมทาน หวานใช้ได้นะ จากนั้นเราไปต่อที่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เงียบมากเหมือนทุกที่ ที่ไปผู้คนไม่หนาแน่นเลย ชิว มากแม่เก็บภาพ บรรยากาศกันตามอัธยาศัยเลย ขอบคุณ ซุปเปอร์โมเดลแสนสวย อยากลงรูปตังเองเยอะๆก็เกรงใจ 5555แจ่มกว่าดอกไม้ก็ชุดเธอแหละจ้า ต่อด้วย วัดอุโมงค์ ซึ่ง สวย สงบ สยบความเคลื่นไหวจริงๆ นักท่องเที่ยวถือว่าบางตามาก ร่มเย็นครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม เงียบ เย็น น่านั่งทำสมาธิมากๆ ภายในตามช่องทางระหว่างห้องพระแต่ละองค์จะเป็นอุโมงค์ทะลุหากันตลอด เชื่อว่านักถ่ายรูปต้องถ่ายออกมาสวยกว่าผู้เขียนแน่นอน ก็ได้เวลาพอสมควรแล้วก็เข้าที่พักกัน Check in เรียบร้อยบริการตัวเองจ้ะ ได้กุญแจแล้ว หิ้วเอง ไปที่พักเอง นักเลงพอ อากาศเริ่มเย็นละ พวกเราพักผ่อนกันสักพักก็ถึงเวลารับประทานหมูกระทะกัน ตอน 6 โมงเย็นเราสั่งมา 1 ชุดพร้อมเพิ่มพัก น้ำจิ้มสรุป บรรยากาศอะไรไม่เอาทั้งนั้นรีบกินรีบเข้าห้อง เพราะพวกไม่เคยเจออากาศหนาวทนนั่งรับประทานชิวๆ กันไม่ไหวสิค่ะ หนาวสั่นหมดอารมณ์กิน รีบกินรีเข้าห้อง สรุปอีกทีในห้องก็หนาวพอกันผ้าห่มคนละผืนม้วนยาวไปดูสภาพการนอนหนาวคนเดียวมันเป็นอย่างนี้เอง กว่าจะเช้าได้ ในที่สุดก็เช้าสักที เวลาอาหารเช้าเริ่ม 7 - 9 โมงเช้า อย่ารอช้ากันเลย ข้าวต้มหมูอุ่นๆในภาวะหมูแพง กับน้ำร้อนๆสักแก้วกับอากาศหนาวๆ ขนมปังแยมส้มกับสตรอเบอรี สุขยิ่งนักนั่งชมบรรยากาศวิวสูงเริ่มต้นภารกิจวันที่ 2 กันเลยดีกว่า หนาวนี้ที่ ม่อนแจ่ม เรื่องวิวเราไม่สน คนต้องมาแล้วนะต่อด้วย ม่อนจ๊อด สุดยอดไปเลยที่นี้กว้างมาก มีสวนดอกไม้ มีสถานที่จัดไว้เพื่อสาว สาว สาว ให้ถ่ายรูปโดยเฉพาะ มีร้านอาหารที่เป็นรถขายของตั้งอยู่ริมทะเลสาบ มีทั้ง ซอฟครีม น้ำผึ้ง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ พิซซ่า ร้านเครื่องดื่มก็มี ร้านกาแฟน่านั่ง แต่ข้างนอกร้านบรรยากาศดีมากๆ ตอนไปแดดร่ม ลมตก ลมพัดเอื้อยๆ เย็นสบายน่านอนเลยจบทริปวันที่ 2 กันที่นี่ละค่ะอยู่ได้นานที่สุด กลับที่พักได้ พักผ่อนกันตามอัธยาศัยเริ่มวันสุดท้ายของทริปนี้กันส่งท้ายที่ เดินทางต่อไปที่ แม่กำปอง ที่แน่ๆ ประตูท่าแพ จะลืมไม่ได้เลยนะค่ะ แต่ที่ของเราย่อมไม่ใช่ที่ที่คนอื่นเขาถ่ายกัน อิอิอิ คนแถวนี้น่ารักมากรู้ว่าเราจะถ่ายรูปคงรู้หละว่าทำไงถึงสวย ช่วยกันทำให้นกบินและภาพที่ออกมา 5555555 ถึงเวลากลับมาสู่โลกความจริงแล้ว เวลาของความสุขช่างเร็วนัก กลับแล้วค่ะภาพประกอบของผู้เขียนเองค่ะ ขอบคุณนางแบบแสนสวยทีม #ผู้หญิงวัยเกษียณ ทุกคนจ้ะ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !