วันนี้ขอแหวกแนวมาเป็นไกด์นำเที่ยวกันสักวันครับ ช่วงนี้เพื่อนๆท่านใดชีวิตไม่ราบรื่นความรักไม่สมหวัง ตามผมมาครับ ผมจะพาไปไหว้พระทำบุญเอาเคล็ดกัน ทำบุญกันเสร็จเดินออกจากวัดร้องเพลง "สมหวังนะคร้าฟฟ" ของพี่ก็อต จักรพันธ์กันได้เลย ^_^ ข้อมูลภาพ : watsomwang.org วัดสมหวังวนาราม หรือชื่อที่คนสุราษฏร์เรียกกันสั้นๆว่า "วัดสมหวัง" เป็นไงครับแค่ชื่อวัดชีวิตที่อับเฉาก็เริ่มมีหวังกันขึ้นมาบ้างหรือยังครับ ^_^ เพื่อนๆสามารถเข้าอ่านประวัติการสร้างของวัดได้ตามที่อยู่เว็บที่ผมลงไว้ได้เลยครับ วัดนี้เดิมทีเป็นเพียงแค่สำนักสงฆ์เท่านั้นครับ สำนักสงฆ์แห่งนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจจากชาวบ้านช่วยกันสร้างขึ้นมา ถ้านับๆอายุการสร้างก็ประมาณ 50-60 ปี ถือว่าเป็นวัดใหม่ที่สร้างในรุ่นปู่รุ่นย่าเรานี่แหล่ะครับ หลังจากนั้นก็พัฒนามาเป็นวัดที่สวยงามและใหญ่โตเรื่อยมา ปัจจุบันนี้มีเจ้าอาวาสชื่อ พระมหาสมศักดิ์ สิริธัมโม เป็นผู้ดูแลวัดแห่งนี้ ท่านเป็นพระนักพัฒนาครับ ผมเองผู้เขียนเคยเป็นลูกศิษย์ท่านสมัยที่บวชเข้าพรรษา เอาล่ะครับ เดี๋ยวผมจะพาทัวร์ชมกันให้ทั่ววัดว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง แต่ขอเรียนให้ทราบก่อนนะครับว่า ช่วงนี้วัดกำลังปรับปรุงสถานที่และสิ่งก่อสร้างใหม่หลายแห่ง ข้อมูลรูปภาพที่ผมลงอัพเดตล่าสุดแล้วนะครับ (26/11/62) สถานที่แรกที่ผมจะพาเข้าไปชมคือ ศาลาทำบุญหลังใหญ่ที่สร้างใกล้จะแล้วเสร็จ ในศาลาแห่งนี้จะมีจุดที่เราสามารถเดินเวียนทำบุญได้เลยครับ ทำบุญกับพระประจำวันส่งเสริมดวงวันเกิด พระสังกัจจายน์ บูชาเรื่องโชคลาภ หน้าที่การเงิน เสดาะห์เคราะห์โชคชะตาด้วยการบริจาคโรงศพ ร่วมสร้างโบส กุฏิพระ ศาลาการเปรียญของวัด บูชาพระพิฆเนศองค์ใหญ่ให้สมหวังดั่งใจ อย่าลืมลูบหลังหนูหน้าองค์พระพิฆเนศด้วยนะครับ ผู้ชายลูบตัวด้านขวา ผู้หญิงลูบตัวด้านซ้าย เชื่อกันว่าจะช่วยให้คำอธิฐานของเราสำริดผลเร็วขึ้น และจุดสุดท้ายคือ บาตรสมหวังยักษ์ และข้องยักษ์ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่กลางศาลา เป็นไงบ้างครับแค่สถานที่แรกของวัดก็ได้บุญกลับบ้านไปเต็มคันรถกันแล้ว ยังครับยังไม่หมด ไปต่อกันอีกที่ครับ ที่ต่อไปเราจะไปให้อาหารปลากันครับ จุดนี้เป็นสถานที่ยอดฮิตกันเลยทีเดียว สถานที่แห่งที่ 2 ของวัดที่ห้ามพลาดถ้ามาวัดต้องมาจุดนี้ให้ได้ ที่นี่จะมีโป๊ะแพขนาดใหญ่ที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ญาติโยมมาให้อาหารปลาและทำบุญปล่อยปลากันครับ โดยทางวัดจะมีทั้งขนมปังและอาหารเม็ดแบบหยอดเหรียญได้ ทันสมัยดีไหมครับ ^_^ จุดนี้ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดเทศกาลต่างๆคนจะเยอะมากครับ โดยเฉพาะลูกเด็กเล็กแดงจะเยอะเป็นพิเศษ ถือว่าจุดนี้เป็นจุดเช็คอินของวัดเลยก็ว่าได้ครับ ให้อาหารปลากันเสร็จแล้วก็ไปขอพรกันต่อดีกว่าครับ ซึ่งจุดที่ 3 ก็จะอยู่บริเวณเดียวกันครับ จุดที่ 3 จะอยู่ติดกับริมคลองและบริเวณให้อาหารปลาครับ เป็นวิหารหลวงพ่ออ้วน อดีตเจ้าอาวาสวัด และมีศาลพ่อตาขุนทะเล (จระเข้) ตั้งอยู่ติดกันเลยครับ สำหรับศาลพ่อตาขุนทะเลนั้น ขึ้นเชื่อเรื่องการบนบานศาลกล่าวมากครับ ใครติดขัดเรื่องการงานหรือเรื่องค้าขายมักจะมาบนให้ท่านช่วย ซึ่งก็สมหวังสมปราถนาไปทุกราย สำหรับประวัติพ่อตาขุนทะเลนั้น เป็นเรื่องเล่าที่เล่าสืบๆต่อกันมายาวนานว่า ท่านเป็นคนที่ชอบศึกษาเรื่องเวทย์มนต์คาถาอาคมต่างๆ ท่านได้เดินทางไปพร้อมพ่อพญาท่าข้าม พ่อตาหมอนทอง และพ่อตาหินช้าง เพื่อเล่าเรียนวิชาสายเวทย์ด้วยกัน พ่อตาขุนทะเลนั้นท่านศึกษาเรื่องการแปลงกายเป็นจระเข้ได้ วันนึงท่านได้แสดงวิชาแปลงกายเป็นจระเข้ให้ลูกศิษย์ชมกัน แต่เกิดเหตุผิดพลาดจากลูกศิษย์ของท่านเอง ทำให้ท่านไม่สามารถแปลงกายกลับมาเป็นคนได้อีก แต่ถึงท่านจะแปลงกายกลับมาเป็นคนไม่ได้ ท่านก็ยังอยู่ช่วยชาวบ้านระแวกนั้นยามตกทุกข์ได้ร้อน จนเกิดเป็นเรื่องราวตำนานศักดิ์สิทธิ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ครับ เป็นไงกันบ้างครับ เที่ยววัดเดียวอิ่มทั้งบุญขอพรก็สมหวังสมปราถนาเหมือนดั่งชื่อวัด อย่าลืมนะครับผ่านมาสุราษฏร์ธานีเมื่อไหร่แวะมาทำบุญขอพรกันได้ที่วัดสมหวังวนารามกันด้วยนะครับ ขอให้ทุกท่าน "สมหวังนะคร้าฟฟฟ" ^_^ ที่ตั้ง ตำบลวัดประดู่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี เบอร์โทร 089-7898075 เวลาทำการ 09.00 - 18.00 น. ข้อมูลการเดินทาง จากศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ขับรถมุ่งหน้าไปทางถนนตลาดใหม่ผ่ายสี่แยกวัดโพธิ์ ขับตรงไปผ่านโรงแรมสยามธานี เมื่อถึงแยกท่ากูบให้เลี้ยวขวาขับต่อไปยังถนนหมายเลข 401 ประมาณ 650 เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยโกเตง ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ปลายทางจะอยู่ทางซ้ายมือหากเพื่อนๆไม่ได้ใช้รถส่วนตัวมาก็เหมารถตุ๊กๆในเมืองวิ่งเข้าไปที่วัดได้เลยครับ ค่ารถ 200-350 บาท ต่อเยอะๆครับ ^_^