จะว่าไปแล้วสถานที่ ที่น่าไปในเมืองหลวงของเรามีมากมายหลายที่ ที่ควรไปเชคอิน ไปฟิน ไปชิมไปช้อป ไปเที่ยว วันนี้ผู้เขียนและ เพื่อน ๆ สามสาววัยละอ่อน ฮ่าฮ่า จะพาไปกิน ไปชิม ที่วังหลัง การเดินทางของเรานั้นเริ่มจากนั่งรถลงเรือ วันนี้เราล่องเรือหารักกันนะคะ เริ่มที่ท่ามหาราชเรามารอเรือข้ามฝากที่จะข้ามไปฝั่งวังหลัง ทั้งสองฝั่งมีแม่น้ำเจ้าพระยากั้นกลาง เมื่อถึงเวลาวันหยุดสิ่งที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดคือการมาเดินเที่ยวแถว ๆ วังหลังนี้แหละค่ะทุกคน มีความรู้สึกว่าที่นี้มีเสน่ห์ มีความเป็นกลิ่นอายความชิค ความคูล แบบสไตล์วัยรุ่น ๆ ที่ชอบมากับแฟน มาเดินเสื้อผ้า และของกิน อีกอย่างมีร้านขนมน่ารัก ๆ อาหารก็เยอะอาหารมีหลายแบบ หลายสไตล์ เราเดินลัดเลาะไปเรื่อย ๆ เดินซื้อของกิน และชิมทุกร้านแม่ค้าก็ใจดี ยังมีกลิ่นอายความเป็นสมัยเก่าร้านค้าบางร้านก็ยังใช้ของยุคเก่าในยุค 60 ก็ว่าได้ และวันนั้นเองสิ่งที่ผู้เขียนจำไม่ลืมคือตอนจะขึ้นเรือเพื่อจะข้ามไปฝั่งวังหลังความกลัวก็วิ่งเข้ามาในหัวปรี้ด ตายหละจะลงเรือจะเมาไหม ถ้าเกิดเรือเป็นอะไรจะทำไงว่ายน้ำไม่เป็น คือตอนนั้นจิตตก ฟุ้งซ่านมาก ๆ แต่จังหวะนั้นหันไปเห็น น่าจะเป็นคุณยายน่าจะได้อายุราว ๆ 70 ปีเห็นจะได้ คุณยายดูแข็งแรงมาก ลงเรือเองก้าวเท้าลงเรืออย่างกระฉับกระเฉง ทันใดนั้นก็บอกตัวเองว่า เอาวะ! คุณยายยังทำได้เราก็ต้องทำ คุณยายคือไอดอลขึ้นมาเลย สุดท้ายก็ลงเรือข้ามไปได้และรู้สึกสนุกสิค่ะทีนี้ ถ้าเราชนะใจตัวเองแล้วเราก็จะชนะทุกอย่าง เหมือนผู้เขียนชนะความกลัวที่เราสร้างขึ้นมาเอง สุดท้ายเราก็ทำได้ ขอบคุณยาย แหม่! ลืมถามชื่อคุณยายคนนั้น แต่ยังไงก็ขอขอบคุณที่ทำให้หนูกล้านั่งเรือนะคะ ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน เดินชิม เดินกินจนเหนื่อยแล้ว พอพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน อากาศตอนห้าโมงเย็นช่างเป็นเวลาที่ฟินจริง ๆ พวกเราเลยนั่งเรือกลับมาฝั่งท่ามหาราชตรงท่ามหาราชก็เป็นแลนด์มาร์คให้คนเมืองได้สูดบรรยากาศ ได้มาถ่ายรูปนั่งชิว ๆ มีร้านอาหารให้นั่งทานหลายร้านกันเลยทีเดียวค่ะ ทั้งร้านคาเฟ่ และร้านเค้กที่โด่งดัง ที่ต้องเข้าคิวยาวเป็นชั่วโมงกว่าจะได้รับประทาน ไม่ใช่มีเงินอย่างเดียวนะคะถ้าความอดทนไม่มีคือไม่ได้รับประทาน สุดท้ายผู้เขียนทนไม่ไหวยืนเข้าคิวนานเหลือเกินเลยอดกินเลย อิอิ เห็นเขาเล่าว่าเค้กร้านนี้มีความนุ่มละมุนลิ้นมาก ๆ ค่ะ คือ อร่อยจนฟินอย่างที่ไม่เคยรับประทานที่ไหนมาก่อน ส่วนชื่อร้านต้องขออภัยนะคะผู้เขียนจำไม่ได้แล้วค่ะ ความจำปลาทองมาก ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน เลยเดินมาเพื่อจะเรียกรถแท๊กซี่กลับบ้าน ก็เดินถ่ายรูปมาเรื่อย ๆ หลายแอคหลายท่าจนเมื่อย แต่วันนั้นสนุกมาก และก็เหนื่อยมาก เพราะเดินเยอะ แต่ตอนที่เดินไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เพราะว่ามันตื่นเต้นเห็นอะไรก็อยากกินไปหมดเลย และในวันนั้นเอง พวกเราได้รอรับเสด็จสมเด็จพระเทพ ท่าเสด็จมาที่โรงพยาบาลศิริราชเมื่อครั้ง ในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ปลาบปลื้มมาก ๆ ค่ะ พอเห็นรถพระที่นั่งแล่นมาท่านโบกพระหัตถ์และแย้มสรวลให้กับประชาชน ผู้เขียนและเพื่อน ๆ อยู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาด้วยความปลื้มปิติยินดี คุ้มค่าที่สุดในชีวิตเลยค่ะที่ได้เห็นพระองค์ท่าน เป็นบุญเหลือเกิน จนกระทั่งรถพระที่นั่งแล่นผ่านไปจนลับตาไปพวกเรา ก็เดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุข กับข้าวของพะรุงพะรังพร้อมกับเสียงหัวเราะหน้าตาแต่ละคนบ่งบอกถึงความสุข และที่ประทับใจอีกอย่างคืองบน้อย แต่ได้บันเทิงต้องขอขอบคุณพี่สาวคนสวย พี่ต้อยของเราที่เป็นไกด์นำเที่ยว เธอคือผู้เชียวชาญในย่านนั้น จะกลับไปอีกครั้งนะคะวังหลัง คิดถึงเสมอ เอาไว้เจอกันใหม่นะคะเพื่อน ๆ ครั้งหน้าจะพาไปไหนไว้คอยติดตามตอนต่อไปนะคะ ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน เรื่องโดยสาวภูธร