ผมตื่นขึ้นมาในวันหยุดพร้อมกับความน่าเบื่อหน่ายของเสียงเหล่ายานพาหนะที่เเล่นไปมาบนท้องถนนในกรุงเทพมหานคร เมืองที่ (น่าจะ) มีการจราจรทางบกที่วุ่นวายที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ดังนั้นเป้าหมายของผมในวันนี้จึงเป็นการลองนั่ง 'เรือ' ดูบ้าง เพราะมันคงไม่ติดเเหงกบนถนนเหมือนรถยนต์เเน่ ๆ การเดินทางของผมในวันนี้ ผมขอเริ่มต้นออกเดินที่ 'โรงพยาบาลศิริราช' ก่อนเลยครับ โดยให้เรามุ่งหน้าไปยังทางออกประตูที่ 2 หรือทางออกของตึกคณะพยาบาลศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล เดินออกมาจะพบกับตลาดวังหลังครับ ท่าเรือวังหลัง หรือ พรานนก หรือ ศิริราช ในอดีตบริเวณนี้ถือได้ว่าเป็นกำลังสำคัญที่จะป้องกันพระนครทางทิศตะวันตกฝ่ายเหนือจากการรุกรานของข้าศึก ปัจจุบันกลายมาเป็นตลาดที่เป็นเเหล่งรวมของกินราคาย่อมเยาจากทุกสารทิศ แต่เนื่องจากในตอนนั้นยังเป็นเวลาเช้าอยู่ ผมก็เลยตัดสินใจขึ้นเรือข้ามฟากไปที่ 'ท่ามหาราช' ก่อน หลังจากนั้นตอนสาย ๆ จึงค่อยกลับมาหาอะไรทานที่วังหลัง โดยราคาของเรือข้ามฟากนั้น ตีเป็นเลขกลม ๆ จะตกอยู่ที่คนละ 3 บาท 50 สตางค์ เท่านั้นเอง ! หลังจากผู้โดยสารทั้งหมดกุลีกุจอขึ้นเรือ เสียงเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่มขึ้น ใบพัดด้านหลังกระทบน้ำกระเซ็นไปทั่ว จากฝั่งของวังหลังจะใช้เวลาเเค่ประมาณ 5-10 นาที เรือก็จะเข้าเทียบท่ามหาราช ตรงจุดนี้จะมีวิวของโรงพยาบาลศิริราชเป็นฉากหลังครับ ท่ามหาราช ในตอนนี้กลายมาเป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ขนาดย่อมที่รวบรวมร้านอาหารเเละเครื่องดื่มรสชาติอร่อยไว้ด้วยกัน เป็นหนึ่งในเเหล่งพบปะสังสรรค์ของเหล่าวัยรุ่นสุดชิค อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติอีกด้วย อีกทางเลือกของการเดินทางมายังท่ามหาราชเเห่งนี้ สามารถทำได้โดยการนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา (ธงเเดง) ราคา 15 บาท มาจากท่าเรือด้านล่างสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสิน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ตรงทางเข้าด้านหน้าของท่ามหาราช มีจุดถ่ายรูปอยู่จุดหนึ่งที่ดึงดูดสายตาของนักท่องเที่ยว นั่นก็คือจุดที่มีจักรยานหลายคันถูกเเขวนเรียงไว้ เหมือนคล้ายกำลังล่องลอยไปในอากาศ รถตุ๊ก ๆ คันนี้โดดเด่นตรงป้ายทะเบียน เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวใช้เป็นพร็อพถ่ายรูปกันครับ และที่ขาดไม่ได้เลยคือป้าย 'ท่ามหาราช' แห่งนี้ครับ ถ้าได้ถ่ายคู่กับท้องฟ้าสีครามไร้เมฆแบบนี้ บอกเลยว่าออกมาสวยงามเเน่นอน (แต่อาจจะต้องอดทนกับอุณหภูมินิดนึงนะครับ ฮ่า ๆ ) ด้านบนก็มีมุมให้ถ่ายรูปพอสมควรครับ สามารถเดินขึ้นมาได้เลย บันไดจะอยู่ใกล้ ๆ ป้ายชื่อ 'ท่ามหาราช' เมื่อขึ้นมาจะพบกับเก้าอี้รูปทรงเเปลกตาให้นักพักผ่อนคลายร้อน เเละยังมีห้องน้ำให้บริการอีกด้วยครับ เข็มนาฬิกาบอกเวลาใกล้เที่ยง ท้องก็เริ่มส่งเสียงร้องอย่างเสียไม่ได้ หลังจากที่ถ่ายรูปท่ามหาราชจนหนำใจ ผมเลือกที่จะนั่งเรือข้ามฟากกลับไปยังท่าวังหลัง ราคาก็ 3 บาท 50 เช่นเคยครับ ณ ที่นี่ ผมเลือกฝากท้องไว้กับร้าน 'อรทัย ซูชิวังหลัง' ร้านซูชิของมวลประชาราคาย่อมเยา ราคาเริ่มต้นที่ 5 บาทต่อคำเท่านั้น เเต่ถึงเเม้ราคาจะเป็นมิตรต่อกระเป๋าสตางค์เเค่ไหน เเต่รสชาติของเหล่าซูชิก็อร่อยเกินคุ้มครับ ถือว่าเป็นการปิดทริป 'วังหลัง - ท่ามหาราช' ในวันนี้อย่างงดงามเลยทีเดียว ไว้พบกันใหม่ในบทความต่อไป สำหรับวันนี้ผมคงต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ :)