ทริปนี้ผู้เขียนจะพาไปเที่ยววัด ไหว้พระธาตุ ไหว้เจดีย์ ตามเส้นทางร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม สกลนคร เริ่มต้นกันที่ วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม อันเป็นที่ตั้งของพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ตั้งอยู่ที่ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ดำริและดำเนินการสร้างโดย “พระอาจารย์ศรี มหาวิโร” ซึ่งเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนยอดเขา อันเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน เป็นองค์พระเจดีย์ขนาดใหญ่ สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างแบบขององค์พระปฐมเจดีย์และพระธาตุพนม สูง 5 ชั้น รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบ ๆ เขาอันสวยงาม ความประทับใจเมื่อมาเยือนสถานที่แห่งนี้ คือ การได้นั่งรถรางจากจุดจอดรถขึ้นไปยังตัวเจดีย์ หากเราไม่อยากนั่งรถรางเราสามารถเดินชมวิวขึ้นบันไดกำแพงที่อยู่ฝั่งขวามือจนไปถึงตัวเจดีย์ได้ เมื่อเข้าไปยังบริเวณเจดีย์สิ่งแรกที่เราจะพบ คือความวิจิตรงดงามของบริเวณโดยรอบที่ประดับตกแต่งด้วยพรรณไม้ดอกไม้ประดับอย่างงดงาม ศาลาที่สร้างรอบ ๆ ตัวเจดีย์ทั้งแปดทิศประดิษฐานพระอรหันตสาวก 500 องค์ ภายในตัวเจดีย์ชั้นที่หนึ่งประดิษฐานรูปหล่อของหลวงปู่ศรี มหาวีโร ผู้ริเริ่มการสร้างเจดีย์ ชั้นที่สองประดิษฐานพระพุทธรูปปรางตรัสรู้ บริเวณโดยรอบแสดงประวัติและเรื่องราวของหลวงปู่ศรี มหาวีโร ชั้นที่สามประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลอง บริเวณโดยรอบประดิษฐานรูปหล่อจำลองของเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน มีจุดชมวิวที่เราสามารถรับลมเย็น ๆ และชมวิวบริเวณโดยรอบพระเจดีย์ได้ ต่อไปเป็นชั้นลอย บริเวณชั้นลอยจะมีจุดชมวิวเช่นเดียวกับชั้นสาม ขั้นที่สี่บรรจุอัฐิธาตุของเกจิอาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และชั้นที่ห้าที่เราต้องเดินขึ้นบันไดเวียนไปอีก 119 ขั้น ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สำหรับใครที่ชอบการช้อปปิ้งบริเวณที่จอดรถมีตลาดขนาดย่อม ๆ ขายน้ำ อาหารพื้นบ้านตามฤดูกาล และของที่ระลึกต่าง ๆ ให้เราซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วย วัดบรรพตคีรีหรือภูจ้อก้อ ถัดจากพระมหาเจดีย์ชัยมงคลไปประมาณ 20.6 กิโลเมตร วัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดภูจ้อก้อ (คนอีสานเรียกภูเขาว่า ภู) หมู่ที่ 3 ต.หนองสูงใต้ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร วัดแห่งนี้เคยเป็นที่จำพรรษาของหลวงปู่หล้า เขมปัตตโต พระป่าสายวิปัสสนากรรมฐาน ชาวบ้านทั่วไปเรียกสั้น ๆ ว่า หลวงปู่หล้า พระเถราจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บนยอดภูจะมีเขมปัตตเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ มีสองชั้น ชั้นบนประดิษฐานอัฐิและหุ่นขี้ผึ้งของท่าน ชั้นล่างจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติ ผลงานและอัฐบริขารของหลวงปู่หล้า เนื่องจากวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขา เราต้องขับรถขึ้นไปครึ่งทาง ทางขึ้นไปไม่ชันมาก รถเก๋งขนาดเล็กก็สามารถขึ้นไปได้ เมื่อขึ้นไปถึงต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ แล้วเดินขึ้นเขาต่อไปอีก ประมาณ 400 เมตร ทางขึ้นไปยังเจดีย์จะต้องผ่านโรงฉันที่สร้างติดกับเชิงเขา เป็นศาลาครึ่งไม้ครึ่งปูน สะอาด ร่มรื่น สามารถเดินเข้าไปกราบพระได้ บริเวณศาลามีร่มไว้บริการเราสามารถหยิบไปใช้และนำกลับลงมาไว้ที่เดิม จากจุดนี้เราต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกประมาณ 200 เมตร เมื่อขึ้นไปถึง บริเวณด้านบนของวัด มีกุฏิพระสงฆ์ 3 - 4 หลัง หนึ่งในนั้นคือกุฏิของของหลวงปู่หล้า เขมปัตตโต เราสามารถเข้าไปกราบไหว้รูปหล่อเหมือนของค์ท่านเพื่อความเป็นสิริมงคล กุฏิหลังนี้ติดกับทางขึ้นไปเขมปัตตเจดีย์ ความประทับใจที่ท่านจะได้รับจากการมาเยือนสถานที่แห่งนี้ คือ การที่ท่านจะได้เดินขึ้นเขาท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ความสงบ เรียบง่าย ของวัดแห่งนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหลบหลีกจากความวุ่นวาย วัดป่าวิเวกวัฒนาราม เจดีย์บู่ทองกิตติ ตั้งอยู่บ้านห้วยทราย หมู่ที่ 9 ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ห่างจากวัดบรรพตคีรีหรือภูจ้อก้อ 25.4 กิโลเมตร หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกวัฒนาราม ลูกศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นแกนนำในการก่อสร้าง สำหรับเป็นที่เก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระธาตุของพระอรหันต์สาวกของพระองค์ อาทิ พระสีวลี พระอุปคุต พระองคุลีมาล เป็นต้น วัดแห่งนี้ติดกับถนนสายหลักที่จะไปจังหวัดมุกดาหาร เพราะฉะนั้นการเดินทางจึงถือว่าสะดวกสบายมาก ภายในวัดมีศาลาใหญ่ 1 หลัง เป็นศาลาที่ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เมื่อมาถึงเราควรเข้าไปกราบพระประธานเพื่อความเป็นสิริมงคล ติดกับศาลาเป็นเจดีย์บู่ทองกิตติ เราสามารถขึ้นไปกราบพระบรมสารีริกธาตุบนชั้นสองได้ ด้านหลังเจดีย์บู่ทองกิตติจะเป็นศาลาเรือนไทยหลังใหญ่ที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จไม่นาน เด่นตระหง่าน สวยงามมาก ภายในตัวเรือนไทยเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงประวัติ ข้าวของเครื่องใช้ของหลวงปู่จาม มหาปุญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัด พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เราจะได้เห็นประวัติ เรื่องราว จริยวัตรอันงดงามของท่าน ผ่านศาลาเรือนไทยหลังนี้ เจดีย์ไตรรัตนานุสรณ์ (แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ) แม่ชีผู้บรรลุพระอรหันต์แห่งบ้านคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ณ บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ห่างจากวัดป่าวิเวกวัฒนาราม 2.6 กิโลเมตร เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม มีสองชั้น ชั้นแรก จัดแสดงรูปเหมือนของคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ พร้อมเครื่องใช้ส่วนตัว และภาพอัตชีวะประวัติของท่าน ส่วนชั้นที่สอง เป็นชั้นที่มีรูปเหมือนของแม่ชีแก้วนั่งสมาธิ และเป็นที่บรรจุ อัฐิธาตุ ของท่าน บริเวณรอบ ๆ เจดีย์ มีต้นไผ่ ต้นไม้น้อยใหญ่ ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ มองแล้วได้ความสงบร่มรื่นดีทีเดียว สิ่งที่ประทับใจเมื่อมาเยือนเจดีย์ไตรรัตนานุสรณ์แห่งนี้ คือ การที่ได้รับรู้ประวัติและเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ ที่ถึงแม้ท่านจะเป็นสตรีเพศ แต่ท่านก็ได้แสดงให้เห็นว่าสตรีเพศหากมีความเพียรในทางธรรมแล้วก็สามารถบรรลุอรหันต์เช่นเดียวกับบุรุษเพศได้ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ถนนชยางกูร ตำบล ธาตุพนม อำเภอ ธาตุพนม นครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตั้งเด่นตระหง่านใจกลางเมือง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีวอกและผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ พระธาตุพนมถือเป็น ศาสนสถานที่เป็นที่เคารพของทั้งชาวไทย และชาวลาว ความประทับใจกับสถานที่แห่งนี้ คือ นอกจากเราจะได้ไหว้พระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตแล้ว ใครที่ชอบศึกษาแนวโบราณคดี ยังสามารถเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมรัตนโมลีศรีโคตบูร ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของพระธาตุ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูปและวัตถุโบราณที่มีอยู่ในองค์พระธาตุพนมหลังเก่า เปิดบริการให้เข้าชมทุกวัน บริเวณรอบ ๆ ตัวพระธาตุมีร้านขายของที่ระลึกทั้งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และอาหารขึ้นเชื่อของท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวซื้อเป็นที่ระลึก และเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้าน และหากเป็นช่วงเสาร์อาทิตย์ ยังมีถนนคนเดินไว้ให้สายช้อปปิ้ง เดินช้อปชิว ๆ ละลายทรัพย์กันไป วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ตั้งอยู่ถนนเจริญเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เป็นเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยม องค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อครอบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ เป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ ภายในวิหารใกล้พระธาตุเชิงชุม เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อองค์แสนอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดสกลนคร สิ่งที่ประทับใจ บริเวณภายในวัดพระธาตุเชิงชุม มีสถานที่จอดรถไว้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเพียงพอ รอบ ๆ พระธาตุ มีร้านค้าขายของที่ระลึกหลายร้าน สินค้าที่ขึ้นชื่อของสกลนคร คือ ผ้าย้อมคราม ที่นำมาทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เอาใจนักช้อป หากเป็นช่วงเสาร์ อาทิตย์ แนะนำให้ไปในช่วงบ่าย ๆ ถึงเย็น ๆ เพราะนอกจากจะได้ไหว้สักการะรอยพระพุทธบาทและหลวงพ่องค์แสนในพระธาตุเชิงชุมแล้ว เรายังจะได้เดินช้อปชิว ๆ ชมวิถีชีวิตของชาวสกลนครที่บอกเลยว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวชาวผู้ไทที่ไม่เหมือนใคร ชิมขนมและอาหารท้องถิ่นรสชาติอร่อย ๆ ช้อปสินค้าและผลิตภัณฑ์ฝีมือชาวบ้านในราคาย่อมเยา รับรองเลยว่ารอยยิ้มและมิตรภาพของชาวชาวสกลนคร จะทำให้เราประทับใจไม่รู้ลืมเลย วัดป่าสุทธาวาส เป็นวัดที่พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ละสังขาร ตั้งอยู่ที่ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ภายในวัดมีเจดีย์จันทสารเจติยานุสรณ์ พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จันทสาโร เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมสองชั้นภายในจัดแสดงประวัติขององค์ท่าน เมื่อเราเข้าไปภายในบริเวณวัด แทบไม่น่าเชื่อว่าวัดแห่งนี้ จะตั้งอยู่ใจกลางเมืองสกลนคร เพราะความวุ่นวายภายนอก ไม่สามารถทำลายความสงบร่มรื่นภายในวัดได้ ภายในบริเวณวัดมีพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม ในพิพิธภัณฑ์ได้รวบรวมประวัติ ข้าวของเครื่องใช้ขององค์หลวงปู่ไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้ศึกษาจริยวัตรอันงดงามขององค์ท่าน ถัดจากพิพิธภัณฑ์จะเป็นกุฏิขององค์หลวงปู่ที่บูรณปฏิสังขรณ์ให้มีสภาพคงเดิมไว้ รอบ ๆ มีกุฏิพระที่สร้างแบบเรียบง่ายอีก 2 – 3 หลัง และเมื่อเดินเข้าไปด้านในสุด เราจะพบกับเจดีย์จันทสารเจติยานุสรณ์ พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จันทสาโร ตั้งเด่นเป็นสง่า รูปทรงสวยงามแปลกตา อยู่ภายใน ซึ่งเจดีย์แห่งนี้ ได้รวบรวมประวัติของหลวงปู่หลุย จันทสาโร ลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ไว้อย่างสมบูรณ์ การที่ได้มาวัดนี้ ทำให้ได้ศึกษาประวัติของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถึง 2 องค์ในวัดเดียว หากท่านเป็นหนึ่งคนที่นับถือองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงปู้หลุย จันทสาโร ท่านควรหาเวลามาเที่ยววัดป่าสุทธาวาสให้ได้สักครั้ง เส้นทางสายร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม สกลนคร ถือเป็นเส้นทางสายบุญโดยแท้ เพราะนอกจาก วัด พระธาตุ และเจดีย์ ที่ผู้เขียนกล่าวถึงในบทความนี้ ยังมีวัด พระธาตุ และเจดีย์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ อีกมากมายให้พุทธศาสนิกชนได้ไปกราบไหว้บูชาสักการะ ภาพประกอบทั้งหมด โดยผู้เขียน