Hideout ที่พักเกาะกูด บรรยากาศริมทะเล ดีต่อใจ ในราคาที่เอื้อมถึง !
เอาใจคนรักทะเล ด้วยการพาไปเช็คอินที่พักเปิดใหม่ บรรยากาศดี ริมทะเล นั่นก็คือ Hideout Koh Kood ที่พักเกาะกูด ริมหาดลับของเกาะกูดนั่นเองค่ะ บอกเลยคำเดียวว่า ปังปุริเย่ ! เพราะถึงเค้าจะเพิ่งเปิดให้บริการ แต่บรรยากาศ การบริการต่างๆ ดีต่อใจเหลือเกิน แถมราคาก็น่ารักเป็นกันเอง ว่าแล้วก็ตามไปดูความชิลนี้กันเลยดีกว่าจ้า
ที่พักสวย เกาะกูด ริมทะเล
Hideout Koh Kood เป็นรีสอร์ทน้องใหม่ล่าสุดของเกาะกูด เพิ่งเปิดสดๆ ร้อนๆ เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยราคาเปิดตัวชวนช็อค! เริ่มต้นแค่ 1,499 บาท/คืน เท่านั้นเอง
บ้านพักของที่นี่มีทั้งหมด 4 ไทป์ คือ Twin / Superior / Sea View และ Beach Front ทุกห้องตกแต่งสไตล์มินิมอล ใครชอบโทนขาวคลีน ได้กลิ่นอายบาหลี ต้องร้องกรี๊ดแหละ 😍
โดยเฉพาะภายในห้องพัก ออกแบบได้เรียบง่ายแต่ถ่ายรูปออกมาชิคเวอร์วัง
Hideout Koh Kood ตั้งอยู่ที่หาดคลองหิน จะบอกว่าเป็นหาดลับ ก็ไม่ผิดมากนัก เพราะทั้งเวิ้งอ่าวนั้นมีแค่ Hideout Koh Kood ตั้งอยู่รีสอร์ทเดียว บรรยากาศก็เลยเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย เชื่อว่าถ้าไปตอนท้องฟ้าแจ่มใส คงได้รูปคู่กับน้ำทะเลใสๆ มาอัพขึ้นโซเชียลอย่างแน่นวล
เราพักห้อง Beach Front ค่ะ เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเลเลย
ดูการออกแบบภายในห้องของนาง มีความมินิมอล เรียง่าย แต่ได้ฟีลบาหลีมากมายยย
แอบชอบเจลอาบน้ำของที่นี่มาก มีให้เลือก 2 กลิ่นค่ะ เราชอบกลิ่น Hom-Nin Rice หอมนุ่มๆ ได้กลิ่นแล้วสดชื่น
ความปังปุริเย่ของที่นี่ไม่ได้อยู่แค่ภายในห้องพักอย่างเดียวนะ แต่สามารถออกมานั่งเล่นที่ Terrace หน้าบ้านได้ด้วย ถ้าใครอยากถ่ายรูปชิคๆ ก็ไม่ต้องขนพร็อพไปให้หนักนาจา เพราะเขามีให้พร้อมแล้วจ้าา
อีกโซนที่สวยมากๆ ก็คือ บาร์ริมสระว่ายน้ำค่ะ นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ รับลมทะเล มีใครให้ชิลกว่านี้อีกมั้ย ~
ตรงบริเวณหน้ารีสอร์ทจะมีหาดทรายค่อนข้างน้อยค่ะ แนะนำให้เดินมาทางด้านซ้ายของรีสอร์ท จะเจอหาดลับอยู่ ตรงนั้นมีแนวกั้นคลื่น น้ำทะเลบริเวณนี้ก็เลยเรียบใสไร้คลื่น เสียดายเราดันไปเจอพายุ ไม่งั้นคงได้มีรูปน้ำทะเลใสๆ มาฝากกันแน่นอน
เราไปถึงวันแรกที่พายุโนอึลกำลังเริ่มก่อตัวและกำลังจะพัดเข้าฝั่งเลยค่ะ วันแรกก็เลยยังชิลๆ ได้นอนเล่นริมชายหาดอยู่ ไม่ได้รับได้รู้เลยว่าคืนที่ 2 นั้นจะบันเทิงแค่ไหนนน 😂😂
ช่วงค่ำๆ บริเวณบาร์ก็ถ่ายรูปสวยค่า
การเดินทางที่เกาะกูดนั้นอาจจะยังไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะต้องเช่ามอเตอร์ไซค์ขับค่ะ ฉะนั้นเรื่องอาหาร เราก็เลยฝากท้องไว้ที่รีสอร์ททุกมื้อเลย อาหารที่นี่อร่อย รสชาติดี แล้วก็มีให้เลือกหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ซีฟู้ด ไทย ฝรั่ง มีครบหมดจ้า
จริงๆ แล้วตรงห้องอาหารก็เป็นอีกมุมที่สวยมากกกก แต่ช่วงที่เราไปพายุเข้า ลมพัดแรงทั้งวัน เขาก็เลยปิดผ้าใบกั้นเอาไว้ เลยไม่ได้มีรูปจากมุมด้านนอกมาฝากกันเลย
อาหารเช้าแบบง่ายๆ แต่อิ่มท้อง 🤤
วันที่สองแทบไม่ได้ออกไปไหนเลย เพราะพายุเข้า ฝนกระหน่ำทั้งวัน ลมแรงมากกกก นอนฟังเสียงฟ้าคำรามวนไปค่ะ 😭
ถึงทริปนี้จะไปเจอพายุใหญ่ที่เกาะกูด แต่เราไม่ได้รู้สึกรักเกาะกูดน้อยลงเลย กลับรู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาหายากที่ทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากธรรมชาติ ทุกๆ การเดินทางสอนอะไรให้เราเสมอ "ธรรมชาติ" เหมือนห้องเรียนห้องใหญ่ที่มีบทเรียนให้ได้เรียนรู้อย่างไม่รู้จบไปจนวันตายเลย
และนี่คือ 3 บทเรียนที่ได้เรียนรู้จาก “ธรรมชาติ” ภายในระยะเวลา 3 วันที่ต้องอยู่กับพายุ
- แม้ในวันที่มีพายุเข้า ก็จะมีช่วงเวลาที่ท้องฟ้าเปิดเผยให้เห็นแสงแดด ถึงจะแค่น้อยนิดและแปบเดียว แต่เชื่อเถอะ มันต้องมีสักวินาทีที่เป็นจังหวะของเรา
- เรือเล็กไม่ควรออกจากฝั่งตอนมีพายุ! ตอนนี้ขอไม่เชื่อฟังพี่ตูน เราว่าสุดท้ายแล้ว เราควรมีศิลปะในการสู้ชีวิต มีความฝันแต่ไม่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ไม่รู้จักการกะจังหวะไทม์มิ่ง มันไม่ต่างอะไรจากการวิ่งออกไปตาย ฟัดกับความฝันแบบโง่ๆ ทะเลเอาจริง และไม่ได้ต้องการจะวัดใจใคร
- สามวันที่นอนฟังเสียงคลื่นลม ทะเลไม่ได้บอกว่า “ซู่ซู่” ส่งแต่เสียงร้องคำรามทั้งวัน เหมือนชีวิตแหละ เวลาเจอเรื่องเลวร้าย ไม่มีใครมานั่งหยิบยื่นกำลังใจให้เราได้ตลอดเวลาหรอก ที่สุดแล้วถ้ามันมองไม่เห็นหนทางจริงๆ ก็แค่ “รอ” แล้วย้อนกลับไปอ่านข้อ 1 อีกครั้ง
🙏 ขอบคุณข้อมูลดีๆ และภาพประกอบจาก เพจ Movearound Journey
รวมที่เที่ยว ที่พัก อัพเดทเทรนด์ ฟินทั่วไทยและต่างประเทศ
อ่านง่าย สบายกว่าที่เคย! บนแอปพลิเคชัน ทรูไอดี