ที่สุดแห่งปี 2021 โดย Lonely Planet Best in Travel

     จากที่ปี 2020 แวดวงการท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่ในสภาพหยุดนิ่งกันชั่วคราว วิถีการเดินทางภายในประเทศเริ่มกลับมาบูมอีกครั้ง รวมถึงกระแสการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมก็เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจมากขึ้น แม้กระทั่งทางเว็บไซต์ท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง Lonely Planet เอง ที่ปกติจะมีการจัดอันดับ Best in Travel เป็นประจำทุกๆ ปี ในปี 2021 ยังมาในหัวข้อ Sustainability หรือการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ปลุกกระแสการเดินทางอย่างรักษ์โลก และสิ่งแวดล้อมมาอีกครั้ง

     Lonely Planet แบ่งรางวัลผู้ชนะเลิศออกเป็นหลายสาขาเช่นเดิม โดยในแต่ละด้าน มีดังต่อไปนี้

Lonely Planet Best in Travel 2021 Sustainability Winners

1. แอนติกา และบาร์บูดา Antigua and Barbuda
สาขาที่เที่ยวใหม่ Emerging Destination

     แอนติกา และบาร์บูดา เป็นประเทศในแถบทะเลแคริบเบียนที่เป็นหน้าด่านแรกๆ หากโลกนี้ต้องเผชิญกับภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นในทุกปี ทำให้ทั้งประเทศร่วมใจกันรณรงค์ให้ทั้งประเทศมุ่งสู่การเป็นประเทศสีเขียวเป็นอันดับแรก เช่น การไม่ใช่ถุงพลาสติก หรือวัสดุที่ทำจากพลาสติก และการร่วมกันของทุกโรงแรม รีสอร์ทให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้านอุทยานฯ ก็จัดการโดยคนในชุมชนเอง เพื่อให้รายได้หมุนเวียนกลับสู่คนในพื้นที่ และกลับมาพัฒนาเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกที เป็นต้น

====================

2. Le Vie di Dante (Roads of Dante)
สาขาเส้นทางเดินเท้าที่ยั่งยืนที่สุด Sustainable Walks

Jan Cattaneo / Shutterstock.com

     ใครที่เคยอ่านวรรณกรรมของกวีเอกชาวอิตาเลียนเมื่อ 700 กว่าปีที่แล้ว Dante Alighieri น่าจะคุ้นเคยกับที่นี่ เพราะเป็นเส้นทางตามรอยสำหรับสายสโลว์ไลฟ์โดยเฉพาะ ระยะทางทั้งสิ้น 395 กิโลเมตร ที่จะเริ่มตั้งแต่บ้านเกิดที่เมืองฟลอเรนซ์ ไปจนจบที่เมืองราเวนนา ซึ่งเป็นที่ตั้งหลุมฝังศพของเขานั่นเอง ระหว่างทางจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายรูปแบบ ตั้งแต่ปราสาทยุคกลาง โบสถ์โรมาเนสก์ ภูเขา น้ำตก ฯลฯ

====================

3. รวันดา Rwanda
สาขาการท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตสัตว์ป่าอย่างยั่งยืน Sustainable Wildlife Program

     ป่าไม้ในประเทศรวันดานั้น เป็นที่อาศัยของหนึ่งในสัตว์ป่าที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุดในโลก นั่นคือกอริลลาภูเขา จากการที่พื้นที่ป่าบนโลกค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จำนวนของพวกมันก็ร่อยหรอตาม จึงทำให้ที่นี่ตั้งโครงการอนุรักษ์กอริลลาภูเขาขึ้น ทำให้ปัจจุบันจำนวนของพวกมันค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

====================

4. เทือกเขาร็อกกี้ Rocky Mountaineer
สาขาการท่องเที่ยวโดยรถไฟอย่างยั่งยืน Sustainable Train Journey

     เทือกเขาร็อกกี้นั้นเป็นหนึ้งในที่เที่ยวสำคัญของแคนาดา และยังมีการท่องเที่ยวทางรถไฟที่ว่ากันว่าสวยมากๆ แถมทางรถไฟสายนี้ยังมีมาตรการการรีไซเคิลในขบวนโดยสารที่ดี ลดการปล่อยคาร์บอน และยังร่วมมือกับองค์กรพิทักษ์สัตว์ป่าในท้องถิ่นด้วย

====================

5. กรีซ Greece
สาขาจุดหมายด้านอาหารการกินอย่างยั่งยืน Sustainable Food Destination

     ประเทศกรีซเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญสำหรับคนที่รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ อาหารในรูปแบบของชาวเมดิเตอเรเนียนนั้นเน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นสำคัญ และยังออร์แกนิคด้วย ทุกอย่างเน้นปรุงสดใหม่ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนที่นี่ถึงอายุยืนกันมาก

====================

6. เส้นทางปั่นจักรยานเทือกเขาเวอร์จิเนีย Virginia Mountain Bike Trail
สาขาเส้นทางปั่นจักรยานที่ยั่งยืน Sustainable Cycling Route

     หนึ่งในเส้นทางปั่นจักรยานยอดนิยมในสหรัฐอเมริกา ที่มีระยะทางถึง 500 ไมล์ (ประมาณ 804 กิโลเมตร) ทอดตัวยาวไปตามแนวเทือกเขาเวอร์จิเนีย แม้จะมีความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สูงมาก แต่ก็ไม่ใช่เส้นทางสำหรับนักปั่นมือสมัครเล่นเลย ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์สักหน่อยเพราะเส้นทางค่อนข้างทรหด และกันดารไม่น้อย

====================

7. รีสอร์ท Grootberg Lodge นามิเบีย
สาขาที่พักยั่งยืน Sustainable Accommodation

Photostravellers / Shutterstock.com

     รีสอร์ทหรูในประเทศนามิเบียที่เอาใจใส่ในเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นรีสอร์ทแห่งแรกในภูมิภาค Damaraland ที่ทำให้ให้คนในท้องถิ่นหันมาตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ป่า พนักงานในรีสอร์ทเองก็มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สัตว์ป่า และรีสอร์ทยังช่วยเสริมการสร้างงานในชุมชนด้วย

====================

8. ปาเลา Palau
สาขาเกาะที่มีความยั่งยืน Sustainable Islands

     ปาเลา เป็นเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกที่อยู่ห่างจากประเทศอื่นนับร้อยไมล์ ประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยนับ 500 เกาะ เป็นหนึ่งในจุดดำน้ำยอดนิยมแห่งหนึ่งของโลก ที่ไม่อนุญาตให้ใช้ครีมกันแดดเนื่องจากสารเคมีส่งผลกระทบต่อปะการัง รวมไปถึงมีการสร้างสถานพักพิงเพื่อการอนุรักษ์ฉลามเป็นแห่งแรกในโลกด้วย

====================

9. เมืองกอเทนเบิร์ก สวีเดน Gothenburg, Sweden
สาขาเมืองที่มีความยั่งยืน Sustainable City Stay

     กอเทนเบิร์ก เมืองใหญ่อันดับ 2 ของสวีเดน ที่มีคะแนนดัชนีความยั่งยืนของโลกสูงถึง 95% ระบบขนส่งสาธารณะในเมืองยังใช้พลังงานหมุนเวียนถึง 97% และทางเมืองยังตั้งเป้าหมายว่าจะงดใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิลทั้งหมดภายในปี 2030 ด้วย

====================

10. Soraya Abdel-Hadi
สาขาบุคคลผู้สร้างแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Sustainable Storyteller

     นอกเหนือจากสถานที่แล้ว ปีนี้ทาง Lonely Planet ยังแจกรางวัลให้กับบุคคลด้วย นั่นคือคุณ Soraya Abdel-Hadi นักเดินทาง และนักเขียนที่สร้างแนวคิดด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และชุมชน เข้าไปติดตามเธอได้ทาง www.facebook.com/sorayaearth/

อ้างอิง : https://www.lonelyplanet.com/best-in-travel

====================

รวมที่เที่ยว ที่พัก อัพเดทเทรนด์ ฟินทั่วไทยและต่างประเทศ

อ่านง่าย สบายกว่าที่เคย! บนแอปพลิเคชัน ทรูไอดี

ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!