วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยา และดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจอย่างสูงสุดในระยะหลังเมื่อกระแสละครย้อนยุคอย่างบุพเพสันนิวาสดังแบบฉุดไม่อยู่ พลอยให้คนไทยอยากตามรอยละคร ไปแต่งชุดไทยและเที่ยวที่นี่กันมาก อีกทั้งภาพที่เห็นตามสื่อต่างๆ ยามค่ำที่มีแสงไฟฉายให้เห็นพระปรางค์และเจดีย์ของวัดแห่งนี้สวยงามจับตา ถ้านับเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา นับว่าวัดแห่งนี้ยังคงรักษาความสมบูรณ์ของโบราณสถานเอาไว้ได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับอีกหลายๆ วัดในอยุธยา ที่สำคัญวัดนี้ไม่ได้ถูกเผาในคราวสงครามฯ ไปชมโบราณสถานในอยุธยามาก็หลายแห่ง ยอมรับเลยว่า ที่นี่มีระบบการจัดการที่ดีในการใช้เส้นทางเข้า-ออก เพื่อชมโบราณสถาน เข้าทางหนึ่ง ออกทางหนึ่ง ทำให้ไม่สับสน ดูแลง่าย รวมถึงนักท่องเที่ยวก็มีความชัดเจนในการชมด้วย ก่อนเข้าไป จะมีโมเดลสิ่งปลูกสร้างแสดงเอาไว้ ทำให้เป็นโครงสร้างสถาปัตยกรรมดั้งเดิม รู้สึกชื่นชมในการวางแปลนก่อสร้างของที่นี่ มีรูปแบบ ไม่ระเกะระกะ การได้เห็นโมเดลและเปรียบเทียบจากของจริงตรงหน้า ทำให้เห็นชัดเจนขึ้นว่าที่นี่ยังคงเหลือโครงสร้างหลักๆ เอาไว้ นับว่ามากทีเดียว จุดไหนเป็นจุดไหน กาลเวลา ทำลายไปเฉพาะปูนที่ฉาบอยู่ภายนอก เผยให้เห็นโครงสร้างภายใน เบื้องหลังความแข็งแรงผ่านร้อยๆ ปีว่า เป็นเพียงความประณีตและเอาใจใส่ในการทำงานของคนโบราณ เพราะอิฐมอญก้อนเล็กๆ ที่วางซ้อนสับหว่างกันอย่างมีระบบนั้น ก็ทำให้งานก่อสร้างแข็งแรงไม่โค่นล้มไปกับธรรมชาติได้ หากน่าเศร้ามากที่ความเสียหายของโบราณสถานแห่งนี้ เกิดจากน้ำมือมนุษย์ เพราะโครงสร้างหลักๆ ยังอยู่ครบก็จริง องค์พระพุทธรูปที่มีอยู่ทั่ววัดแห่งนี้ก็ยังคงอยู่ แต่พระเศียรกลับหายไป ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปทั้งองค์ หรือพระพุทธรูปที่อยู่ตามซุ้ม ก็มีลักษณะเดียวกันคือเศียรหาย! วิวทิวทัศน์ห่างไกลออกไปพอมองเห็น สดชื่น สบายตา มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังหมุนเวียนมาเที่ยวกันอยู่เนืองๆ นับเป็นวัดที่สวยและเป็นที่สนใจ ออกมาบริเวณจอดรถ ฝั่งตรงข้ามยังมีร้านค้าที่เปิดให้เช่าชุดไทย คนไทยอาจนิยมน้อยลง แต่เห็นชาวต่างชาติยังเช่าชุดใส่อยู่ ซึ่งนั่นก็คงไม่ต่างจากเวลาที่เราไปเที่ยวประเทศอื่น และสวมชุดประจำชาติของเขานั่นเอง ทั้งความงาม การจัดระบบระเบียบ โครงสร้างที่ยังค่อนข้างสมบูรณ์ที่ได้เห็น จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมวัดแห่งนี้จึงถูกหยิบยกขึ้นมาให้สูงเด่นในละครชื่อดัง