หากไปเที่ยวดอยที่เชียงใหม่ คงไม่พลาดที่จะต้องไป “ ม่อนแจ่ม “ ดอยยอดฮิตในเชียงใหม่ การเดินทางแสนสะดวกสบาย อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ สามารถขับรถส่วนตัวมาเองได้ มาเส้นแม่ริม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยการเดินทางของเรา เราเดินทางด้วยรถมอเตอร์ไซค์ เป็นเด็กแว๊นหน่อย หอบของไปเที่ยวดอยกัน! เราเริ่มเดินทางจากหลัง มช. ไปช่วงเย็นวันศุกร์ ประมาณ 5 โมง ช่วงนั้นเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวเลย ระหว่างทางขับไปไม่ได้ลำบากเลย อาจมีบางช่วงที่ต้องบิดคันเร่งหน่อย ก่อนไปควรเช็คสภาพรถดีๆก่อนนะ เราเคยไปม่อนแจ่มแล้ว 2 ครั้งแต่ไปกลับตลอด ครั้งนี้เราจะไปนอนที่นั่น 1 คืน เราเลือกพักที่ ม่อนอิงดาว เราไปช่วงที่ม่อนอิงดาวยังไม่ได้ปรับปรุง ตอนนั้นจะมีให้เลือกพักเป็นบ้านกับเต็นท์ เราเลือกเป็นเต็นท์มันจะได้ฟีลกว่า ราคาเต็นท์อยู่ 500 บาท/เต็นท์ เราไป 2 คน ตกคนละ 250 บาท! คุ้มมากก เราถึงที่พักประมาณ 6 โมงนิดๆ เพราะเราค่อยๆขับมา ทางอาจลื่นนิดนึงช่วงนี้มีฝนตก สภาพม่อนอิงดาวตอนกลางคืน ก็จะเป็นประมาณในรูปเลย จะแยกโซนเต็นท์กับบ้าน โซนเต็นท์จะเป็นห้องน้ำรวม ห้องน้ำสะอาด ไม่น่ากลัว ( สำหรับเรานะ) ก็ถือว่าโอเคกว่าที่คิดไว้ มีน้ำอุ่นให้อาบ อาหารเราจะสั่งเป็นหมูกระทะ หรือห่อข้าวมากินก็ได้ แต่ถ้าขี้เกียจและอย่างประหยัดงบ สามารถเดินออกไปซื้อมาม่า เบียร์ต่างๆที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆได้ แต่ราคาจะอัพขึ้นนิดหน่อย มาม่าก็ประมาณ 25 บาทประมาณนี้ ทริปนี้มีเรื่องเล่าเด้อ เรื่องมีอยู่ว่าเราไปช่วงปลายฝนต้นหนาวไง พอตอนเช้าเราก็กะตื่นตีสี่อาบน้ำแต่งตัวมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ๆ ฝนก็เหมือนไม่เป็นใจ ตกมาหนักมาก เคยดูคลิปที่มีพายุมาไหม แบบเต็นท์ปลิวอ่ะ ในใจคือคิดว่าเฮ้ย เต็นท์จะปลิวไหม สรุปว่าไม่ แต่เต็นท์โยกหนักมาก นึกว่าเต็นท์เต้น EDM อ่ะ บวกกับฝนที่ตก เต็นท์คือชื้นมากก หนาวมากก เป็นประสบการณ์ที่สุดยอด แต่ฟ้าก็มีตา ประมาณหกโมงครึ่งฝนก็หยุด แล้วความฝนพึ่งหยุด อากาศคือดีมาก วิวก็คือล้าน แม้ก้อนเมฆเป็นผืนก็ตาม เราก็รีบแต่งตัวแล้วไปม่อนแจ่ม ซึ่งม่อนแจ่มกับม่อนอิงดาวจะอยู่ใกล้ๆกันเลย ม่อนแจ่มจะแยกออกจากที่พัก คือเราสามารถพักม่อนอื่นๆได้ละตอนเช้าก็ไปเที่ยวม่อนแจ่มได้ ไม่มีค่าเข้า สามารถเข้าได้ตั้งแต่ 7.00 โมงเช้าเลย ช่วงที่เราไปคนเยอะมาก เราแอบถ่ายมาให้ดูด้วยว่าคนเยอะแค่ไหน ส่วนใหญ่ช่วงหน้าหนาวคนจะประมาณนี้เลย ยิ่งช่วงที่มีดอกไม้ คนจะทวีคูณไปอีก แต่มันคุ้มมาก ดูวิวสิ ทะเลหมอกเอย ดีสุด ม่อนแจ่มจะมีเด็กน้อยแต่งชุดชนเผ่ามาคอยให้ถ่ายรูปด้วย แต่อย่าลืมให้ค่าขนมน้องด้วยนะ อะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาการท่องเที่ยวของเรา ทางเราก็ไปเที่ยวที่สวนพฤกษศาสตร์ต่อ จะเสียค่าเข้าประมาณ 30 บาท มีค่าเข้าของรถด้วย แต่จำราคาไ ม่ได้เหมือนกัน ขออภัยจริงๆค่ะ ในสวนพฤกษศาสตร์จะแบ่งโซนชมสวน เดิน sky walk และโซนพิพิธภัณฑ์แมลง ซึ่งโซนนี้หลายคนอาจไม่เคยไป แต่มันดีมาก สามารถมาเยี่ยมชมได้ฟรี โซนแรกที่เราไปก็คือโซนชมสวน เราไปกันที่โรงดอกบัวก่อน กะจะไปถ่ายรูปดอกบัวไว้ทำมีมสวัสดีแต่ละวันให้คุณย่า 5555 เลยเอาภาพมาฝากนิดนึง ต่อไปเราไปโซนน้ำตก จะมีสะพานข้าม มีปลาด้วย และอย่าพลาดที่จะถ่ายรูปกับมุมยอดฮิตล่ะ ส่วนนี่เป็นโรงที่ขึ้นชื่อของที่นี่เลย นั่นก็คือโรงกระจกกระบองเพชร อ่ะ ถ่ายรูปกันหน่อย มีหลายมุมนะคะ ต้องไปจริงๆ มุมถ่ายรูปเยอะมากๆๆๆ ไปต่อกันที่โซนพิพิธภัณฑ์แมลงค่ะ นี่เป็นครั้งแรกในการมาพิพิธภัณฑ์แมลง ก็จะมีบอร์ดความรู้เกี่ยวกับแมลงมากมาย และมีมุมถ่ายรูปด้วยนะคะ มีเพ้นท์ผนัง 3 มิติไว้ให้ถ่ายรูปด้วย จริงๆมีเยอะกว่านี้นะคะ อันนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น งานเพ้นท์ดีมาก สีชัดเผื่อแต่งสีสุดๆ และโซนสุดท้าย Sky walk สุดนิยม แต่วันที่เราไปบางจุดก็ไม่ให้เข้าเพราะว่าฝนตก พื้นลื่น เขาเลยให้เดินได้ไม่เยอะ แต่ก็มีภาพมาให้ได้ชมกันนะะ จบทริปแล้ววว เป็น 2 วัน 1 คืนที่มากด้วยเรื่องราวจริงๆค่ะ เป็นการเที่ยวที่คุ้มมากๆ หวังว่าทริปนี้จะถูกใจใครหลายๆคนนะคะ แค่ลองทิ้งชุมชนเมือง ออกไปสูดอากาศบนดอยกันนะคะ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังเลยย