หลังจากพุกามไม่ได้ทำให้เราผิดหวัง … มาต่อกันที่ทะเลสาบอินเล ทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในพม่า เราอยากจะมาอินเลนานมากแล้วค่ะ จำได้ว่าห้าหกปีที่แล้วเคยดูรายการโทรทัศน์ หนังพาไป ของพี่บอลและยอด พามาเที่ยวทะเลสาบอินเล หมู่บ้านลอยน้ำ เราก็อยากจะมาเห็น สัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง ครั้งนี้เลยปักหมุดว่าต้องมาให้ได้ค่ะ การเดินทางของเรามาจากพุกามโดยรถบัส VIP JJ express มาถึงตอนเช้า สามารถจองได้บนเว็บไซต์เลยค่ะ จ่ายเงินผ่านบัตร สะดวกมาก ๆ มีรถมารับที่โรงแรม ใครอยากให้แน่ใจก็ให้รีเซปชั่นโรงแรมโทรไปคุยให้เลยค่ะ แต่แนะนำเว็บนี้ค่ะ https://www.starticket.com.mm/ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) รถบัสสะดวกสบายดี มีแวะทานข้าวกลางทางค่ะ สามารถดูหนังฟังเพลงได้ มาถึงเมือง Nyuangshwe ในตอนเช้า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะพักกันที่เมืองนี้ค่ะ สามารถเช่าเรือเป็นส่วนตัวให้ไปยังทะเลสาบ โดยขึ้นในเมืองแล้วมีเส้นทางลัดเลาะออกไปยักทะเลสาบใหญ่ค่ะ ค่าเช่าเรือตกอยู่ที่ 200 บาทต่อสองคน ถูกมาก ๆ จนคิดว่าเค้าจะได้อะไรบ้างเนี้ย ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) บ้านเมืองเหมือนย้อนกลับไปประมาณ 30 ปีของไทย ถนนยังเป็นลูกรังอยู่เลยค่ะ ไม่มีร้านอะไรใหญ่ ๆ แต่มีร้านอาหารอร่อย ๆ อยู่ทั่วเมืองค่ะ ค่าครองชีพไม่แพง เที่ยวง่ายมาก ๆ เป็นอีกเมืองโปรดของเราเพราะเราอยากจะมีฟีลลิ่งของการพักผ่อนจริง ๆ เราพักอยู่โรงแรม Royal Nyaung Shwe Hotel คืนละ ห้าหกร้อยบาท วิวดี มีอาหารเช้า อยู่ใจกลางเมือง สะอาด และที่สำคัญสามารถเช่าทัวร์เรือในราคา 200 บาทค่ะ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) ในการล่องเรือนั้น จะมีคนมารับตอนเช้าพาเราไปขึ้นเรือ ซึ่งสามารถนั่งได้สองคนค่ะ เค้าจะพาเราไปยังสถานที่ต่าง ๆ เป็น Workshop งานศิลปหัตถกรรมเด่น ๆ ของหมู่บ้าน ทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิต เค้าไม่บังคับให้ซื้อนะคะ แต่ถ้าอยากอุดหนุนก็ไม่ว่ากัน หลัก ๆ จะมีงานเครื่องเงิน ทำบุหรี่พม่า ทำร่ม ทอผ้าจากใยบัว ทอเสื้อค่ะ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) แล้วเราจะได้แวะทานเข้าร้านอาหารลอยน้ำในทะเลสาบ ราคาไม่ได้แพงมากนะคะ แต่ละกันก็ 60-100 บาท เราคิดว่าการท่องเที่ยวมีส่วนที่อาจจะทำให้วิถีชีวิตของคนในชุมชนลอยน้ำเปลี่ยนไปบ้าง แต่ก็เป็นการหารายได้ เพราะหากไม่ได้เงินจากส่วนท่องเที่ยว ชีวิตคนในชุมชนค่อนข้างจะยากจน และลำบากเชียวค่ะ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) รสชาติอาหารค่อนข้างจัดเชียว เน้นเครื่องแกงและพริก เราสั่งเป็นแกงปลาซอสมะเขือเทศ รสชาติคล้าย ๆ ผัดพริกปลา อร่อยดีค่ะ แล้วก็ปลาย่างที่ได้จากทะเลสาบ มื้อนี้ผ่านมาก ราคาไม่แพงด้วยค่ะ ทั้งหมดประมาณ 300 บาทต่อสองคน ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) แล้วไกด์ของเราก็พาไปยังวัดประจำหมู่บ้าน มีทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และชาวพม่าไปเยี่ยมชม วิถีชีวิตของชาวพม่าจะมีความเกี่ยวข้องกับศาสนามาก คนมีความเลื่อมใส และศรัทธาในพุทธศาสนา เราชอบการแต่งตัวของคนพม่ามากคะ แต่งตัวเรียบร้อยมิดชิด ดูน่ารักมาก ๆ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) ตลอดเส้นทางจะเจอเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน ว่ายน้ำ พายเรือกันเก่งเชียวค่ะ คงเพราะเกิดที่นี้ และวิถีชีวิตเกี่ยวข้องกับทะเลสาบตั้งแต่เล็กจนโต ทั้งยังโบกมือบ๊ายบายให้กับพวกเราด้วยค่ะ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) นึกว่าอยู่สวิสเซอแลนด์ แต่นี้คือ พม่าค่ะ นักเครื่องบินชั่วโมงครึ่งก็มาถึง บรรยากาศเงียบสงบ เสียงสายน้ำ นกบินผ่านไปมา หลงรักธรรมชาติที่นี้เลยค่ะ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) และสุดท้ายที่เราได้เห็นในทริปทะเลสาบนี้คือ วัฒนธรรมจับปลาโดยการพายเรือมือเดียวค่ะ เป็นสิ่งที่ชาวอินเลสืบทอดกันมา ใครไปใครมาจะได้ได้เห็นการจับปลาแบบแปลก ๆ นี้ ทะเลสาบอินเลไม่ได้ทำให้เราผิดหวังอยากที่ตั้งใจมาจริง ๆ ค่ะ แนะนำเลยสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่นที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก มาล่องเรือ เดินเล่นในเมือง ผู้คนน่ารัก ค่าครองชีพถูก นี้จะเป็นเมืองในฝันของคุณเลยค่ะ ( ภาพถ่ายโดยนักเขียน) ไว้เจอกันบทความหน้าที่ย่างกุ้ง เมืองหลวงอันแสนวุ่นวายค่ะ ... To be continued... สรุปค่าใช้จ่าย : ค่าโรงแรม 16 USD = 488 บาท ค่าอาหาร 20 USD = 610 บาท ค่ารถบัส 17 USD = 519 บาท ค่าตั๋วเมืองอินเล 10 USD = 305 บาท จิปาถะ ( ทัวร์เรือ ) = 200 บาท รวม ( โดยประมาณ ) = 2,122 บาท หมายเหตุ: เรท 1000 kyat = 20.82 บาท และ 1 USD (ดอลล่าห์สหรัฐ) = 30.54 บาท ฝากบทความก่อนหน้านี้ พม่าไม่มาได้ไง EP.1 มันส์ไหน...มัณฑะเลย์