รีวิวสายการบิน ZIPAIRเราไปเที่ยวญี่ปุ่นคราวนี้ด้วยสายการบิน Zip Air เค้าเป็นสายการบิน Low Cost ราคาถูก ปกติก็จะมีให้เลือก 2 แบบ Full Flat Bed และแบบ Standard เราเลือก Standard เลยจ้า เรารีวิวให้แบบละเอียดๆเลยนะสายการบินน้องใหม่ในเครือ Japan Air Line เป็นสายการบิน Low Cost ที่น่าสนใจมากครับทุกคน เค้าบริการด้วยเครื่องโบอิ้ง 787-8 จากสนามบินสุวรรณภูมิบินตรงสู่โตเกียว (สนามบินนาริตะ) เวลาออกจากประเทศไทยประมาณ 23.xx น. ถึงโตเกียวก็เช้าพอดี ส่วนเที่ยวกลับออกจากสนามบินนาริตะประมาณ 17.xx น. ถึงสุวรรณภูมิ สามทุ่มกว่าๆ เราว่าขากลับดีเลิศ ขาไปเวลาก็ดี แต่เค้านับวันไปเป็น 1 วัน ซึ่งเหลือแค่ชั่วโมงเดียวก็หมดวันละ ขาดทุนจ้า เพราะนับเวลาเต็มคาราเบลเหลือเวลาเที่ยว 14 วันเอง 😂 ที่นั่งชั้นธรรมดาเราว่าเค้าจึ้ง มีที่ว่างระหว่างหัวเข่ากับพนักพิงด้านหน้า ไม่อึดอัด ยกขาไขว่ห้างสบายๆ มีโต็ะเล็กๆ พับได้สองจังหวะ เก๋อ่ะที่นั่งแบบ Full Flat Bed เทียบกับ Business Class เป็นส่วนตัว เบาะแบบปรับนอนได้ เหมาะกับนักเดินทางที่ต้องการพักผ่อนระหว่างบิน ตื่นขึ้นมาก็ลงเครื่องไปทำงานต่อได้เลย ที่นั่งแบบ 3 แถว (1-2-1) มีฉากกั้นเฉพาะตัวที่นั่งแบบธรรมดา เค้ากว้างกว่าสายการบิน Low Cost เราเคยนั่ง Low Cost อื่นๆ รู้สึกถึงความแตกต่าง มีช่องระหว่างหัวเข่ากับเบาะมากกว่านะ เราสูง 164 ซ.ม. เครื่องเค้าน่าจะใหญ่กว่าแหละ เพราะมีแถวกลางด้วยมีสามแถว แถวละ 3 ที่นั่ง (3-3-3) หลังเบาะหน้ากางได้สองระดับ ระดับบนเหมาะที่จะวางพวกแทปเล็ทดูหนัง ระดับล่างกางได้สองจังหวะ จังหวะแรกเป็นโต๊ะกาแฟ จังหวะสองเป็นโต๊ะอาหาร ตรงหน้าเค้าก็จะมีช่อง USB ไว้ให้ชาร์จโทรศัพท์ ช่องเสียบก็เป็นแบบยูนิเวอแซลเสียบได้หลายแบบ ไฟเค้าเป็น 110 V นะ แต่เราเอาโทรศัพท์เสียบชาร์จก็โออยู่นะที่สุดจริงคือ การให้บริการ Free Wifi จ้า เป็นไวรอลที่ฮือฮาเลยทุกคน ปกติสายการบิน Low Cost เค้าก็จะให้ปิดเครื่องหรือเปิดโหมดเครื่องบิน ไวไฟเค้าเล่นเฟสบุ๊ค เล่นไลน์ได้ชิวๆ แต่ดูคลิป ดูยูทูป ไม่ไหว เข้าใช้ไวไฟเค้าก็ง่ายๆ มีหนทางให้เข้าเป็นกราฟฟิค แผ่นพิมพ์ด้านหน้าเลยจ้าเราชอบตรงลูกเรือและกัปตันเค้าออกแบบเครื่องแบบมาให้ใส่รองเท้าผ้าใบเนี่ย น่ารักดี คล่องตัวเวลาทำงานอีกต่างหากZIPAIR ตอนนี้มีคนเริ่มนิยมเดินทางด้วยสายการบินนี้เพิ่มมากขึ้น ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ต่อคิวเชคอินกันยาวมาก ถ้าลงทะเบียนด้วยแอปปลิเคชั่นของเค้า จะได้เป็นคิวเฉพาะผู้ลงทะเบียนความยาวของแถวก็จะไม่ยาวมาก เรายังไม่ได้ลงทะเบียนทางแอป ไปถึงก็จะ งง งง แถวยาวจัด มีน้องของ ZIPAIR เข้ามาแนะนำ ให้ลงในโทรศัพท์ตรงนั้นเลย ไม่ยาก รื่นปรื๊ดๆ เชคอินได้เร็วขึ้น www.zipair.netอย่างไรก็ตาม เชคเวลาการจอง และระยะเวลาการเดินทางก่อนตัดสินใจนะครับ เพื่อความไม่ผิดหวัง และการวางแผนการท่องเที่ยวครับZIPAIR เป็นสายการบินที่ออกตั๋วราคาได้ใจจริงๆ แต่เค้าก็จริงจังเรื่องน้ำหนักด้วยนะ อ่านตรงนี้ไว้กันพลาด ชั้น Standard ที่ราคา 4,950 บาทนั้น (เชคราคาก่อนตัดสินใจซื้อนะ) เค้าให้น้ำหนักกระเป๋าขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโลกรัม และนำกระเป๋าขึ้นเครื่องได้คนละ 2 ใบไม่สามารถโหลดกระเป๋าได้ ถ้าต้องการโหลดน้ำหนักเพิ่มสามารถกดซื้อน้ำหนักเพิ่มได้เลยก่อนกำหนดเวลาเครื่องออก 24 ช.ม. ในราคา 1 ใบต่อน้ำหนักไม่เกิน 30 ก.ก. ซื้อน้ำหนักเพิ่มได้ 5 ใบ (5 x 30) (เชครายละเอียดได้ทางเวปไซท์เพื่อความมั่นใจนะครับ) ตรงนี้เค้ามีว้าว...ตรงที่ใครขึ้นเครื่องโดยไม่โหลดกระป๋า(ซื้อน้ำหนักเพิ่ม) เค้าให้ไปนั่งรอที่ Gate ได้เลยไม่ต้องเข้าคิวเชคอิน จึ้งมาก... แต่เรายังไม่เคยจ้า เพราะเราซื้อน้ำหนักเพิ่ม การเชคอินที่สุวรรณภูมิคร่าวๆ คือที่เคาท์เตอร์แถว K (ต้องเชคหน้างานอีกทีนะครับ) ส่วนขากลับตามนี้เลย Terminal 1 > ทางออก North Wing > ขึ้นไปชั้น 4F > เชคอินเคาท์เตอร์ C > ขึ้นเครื่อง Gate 14 เวลา 17.00 น.เครดิตภาพหน้าปก : ภาพหน้าปก-1. ภาพหน้าปก-2 โดย Facebook / Page / ZIPAIR Tokyo Thภาพประกอบบทความ ภาพที่-1, ภาพที่-5, ภาพที่-6, ภาพที่-7, ภาพที่-10, ภาพที่-11, ภาพที่-13 ขอบคุณและเครดิต : Facebook / Page / ZIPAIR Tokyo Thภาพประกอบบทความ ภาพที่-2, ภาพที่-3, ภาพที่-4, ภาพที่-8, ภาพที่-9, ภาพที่-12, ภาพที่-14 โดยครีเอเตอร์ชายสามโบสถ์ อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !