สายเที่ยวห้ามพลาด! ตลาดพลูเดินทางง่ายสุด ๆ แค่นั่ง MRT ลงสถานีท่าพระ ใช้ทางออก 1 แล้วเดินไปตลาด หรือถ้ารีบหน่อยก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์แค่ 5 นาที ถ้าใครชอบเดิน ใช้ทางออก 2 เดินประมาณ 25 นาที แต่เส้นทางค่อนข้างเปลี่ยว ไม่แนะนำมาตอนกลางคืน สภาพอากาศขึ้นอยู่กับวันนั้น ๆ เดินย้อนตามถนนจนเกือบสุด จะเจอสำนักงานเขตบางกอกใหญ่ จากนั้นเดินตรงไปจะเจอบันไดข้ามคลอง ขึ้นลงบันได 2 ครั้ง พอลงบันไดครั้งที่ 2 ก็ถึงท้ายตลาดพลูใหม่แล้ว ภาพที่ 1 สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ (ภาพโดยผู้เขียน) ขอเล่าความเป็นมาของ ตลาดพลู เป็นย่านที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี แล้วมีชาวจีนอาศัยอยู่เยอะมาก เพราะว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ริมคลอง ที่มีชื่อคลองว่า คลองบางกอกใหญ่ เหมาะกับการค้าขาย มีคนเคยเปรียบว่า ถ้าฝั่งพระนครมีสำเพ็ง ฝั่งธนเองก็มีตลาดพลู แต่เมื่อราชธานีหรือเมืองหลวงถูกย้ายไปที่ฝั่งพระนคร ชาวจีนบางส่วนก็เลยย้ายไปปลูกบ้านแถวสำเพ็ง ส่วนที่ตลาดพลูเองก็ถูกแทนที่ด้วยชาวมุสลิม ชื่อดั้งเดิมของย่านนี้คือ บางยี่เรือ แต่ด้วยความที่ชาวมุสลิมมีการเพาะปลูกและค้าขายพลูเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดเป็นคำว่า ตลาดพลู ขึ้นมาในท้ายที่สุดนั่นเอง ภาพที่ 2 ตลาดพลู (ภาพโดยผู้เขียน) ใครที่อยากสัมผัสบรรยายกาศโดยนั่งรถไฟรางมาตลาด ก็สามารถนั่งรถไฟรางมาลงที่สถานีรถไฟตลาดพลู ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟสายแม่กลองที่ยังคงความคลาสสิกแบบดั้งเดิม อยู่ห่างจากสถานีวงเวียนใหญ่แค่ไม่กี่นาที ทำให้การเดินทางสะดวกสุด ๆ บรรยากาศรอบสถานียังคงคึกคักด้วยผู้คนที่สัญจรไปมา ทั้งขบวนรถไฟขนส่งสินค้าและผู้โดยสารที่วิ่งผ่านตลอดทั้งวัน ถือเป็นจุดถ่ายรูปสุดชิคที่สายรถไฟต้องมาเช็คอิน! นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเดินเที่ยวชมย่านเก่าแก่ของตลาดพลูอีกด้วย ใครอยากได้รูปเก๋ ๆ กับฉากหลังเป็นขบวนรถไฟ แนะนำให้มาช่วงเช้าหรือเย็น แสงสวยแถมอากาศก็ไม่ร้อนเกินไป ภาพที่ 3 สถานีรถไฟตลาดพลู (ภาพโดยผู้เขียน) ไม่หมดแค่นั้น! บริเวณนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีเสน่ห์สุด ๆ เพราะบรรยากาศดั้งเดิมผสมกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ที่นี่มีอาคารเก่าและบ้านไม้แบบดั้งเดิม พร้อมกับคาเฟ่เก๋ ๆ ให้เยี่ยมชมเพลิน ๆ ทำให้เป็นสวรรค์ของคนชอบถ่ายภาพจริง ๆ ตลาดพลูจึงเป็นที่ที่ถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตผ่านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่ชัดเจน ใครมาเยือนก็จะได้ประสบการณ์หลากหลาย ทั้งถ่ายภาพและลิ้มลองอาหารแน่นอน ภาพที่ 4 จุดถ่ายรูปป้ายสถานีตลาดพลู (ภาพโดยผู้เขียน) ตลาดพลูโฉมใหม่สไตล์ตรุษจีนสุดปัง! พื้นที่กว้างขวางเพื่อความเซฟของทุกคน ไม่ต้องกลัวอุบัติเหตุจากการข้ามถนนอีกต่อไป! รวบรวมร้านเด็ดทั้งคาวหวานให้ครบจบในที่เดียว มีที่นั่งเพียบให้แก๊งเพื่อนได้แฮงก์เอาท์ตามสบาย ฟินกับเมนูสุดอร่อยได้แบบชิลล์ ๆ ส่วนถ้าใครอยากไปฝั่งตรงข้าม อย่าลืมเช็คซ้ายขวาให้ดีก่อนข้ามทุกครั้งนะ ความปลอดภัยมาก่อนเสมอ ภาพที่ 5 ตลาดพลูโฉมใหม่ (ภาพโดยผู้เขียน) เริ่มต้นทริปด้วยการแวะชิมอาหารเด็ดประจำย่านร้านสุณี ข้าวหมูแดง เป็นหนึ่งในร้านอาหารระดับตำนานที่อยู่คู่ตลาดพลูมานานกว่าครึ่งศตวรรษและยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย จุดเด่นของที่นี่คือหมูแดงเนื้อนุ่มหมักด้วยสูตรลับเฉพาะตัวจนได้รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นเครื่องเทศแบบจีนโบราณ น้ำราดรสหวานกำลังดีไม่เค็มจนเกินไปราดบนข้าวสวยร้อนๆ ทำให้อร่อยจนต้องสั่งเพิ่ม นอกจากข้าวหมูแดงแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูเด็ดอย่างหมูกรอบทอดกรุบกรอบนอกนุ่ม และที่สำคัญร้านนี้รับเงินสดเท่านั้น อย่าลืมพกเงินสดไปด้วยนะ 🗓 เปิดทุกวัน ⏰ เวลาเปิด-ปิด : 06:00 - 20:30 น. 💸 ราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท ภาพที่ 6 ร้าน สุณี ข้าวหมูแดง (ภาพโดยผู้เขียน) ร้านต่อไปที่ห้ามพลาดในตลาดพลูคือร้านกระเพาะปลาน้ำข้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ "กระเพาะปลาขันโค้ก" ริมทางรถไฟตลาดพลู เปิดมานานกว่า 40 ปี ที่นี่ไม่ใช้กระเพาะปลา แต่ใช้หนังหมูเคี่ยวจนเหนียวหนืด รสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องเทศ มีเส้นให้เลือกหลากหลาย ทั้งเส้นหมี่ เส้นใหญ่ และเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอด เอกลักษณ์อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือน้ำดื่มเสิร์ฟด้วยขันโค้ก สะท้อนวิถีชีวิตดั้งเดิมที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน 🗓 เปิด วันจันทร์ - วันเสาร์ หยุดวันอาทิตย์ ⏰ เวลาเปิด-ปิด : 10:00 - 14:00 น. 💸 ราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท ภาพที่ 7 ร้านกระเพาปลาขันโค้ก (ภาพโดยผู้เขียน) ในตรอกซอยเล็ก ๆ ของตลาดพลู มีร้านขนมหวานในตำนาน ที่มีชื่อ ร้านขนมหวานตลาดพลู ซึ่งเป็นขนมไทยโบราณที่ปัจจุบันหายากอย่างยิ่ง ได้แก่ ขนมชั้น ตะโก้ หม้อแกง และอีกมากมาย แถมราคาน่ารัก เพียงชิ้นละ 9 บาท ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านเล็ก ๆ แต่ก็ทำสดใหม่ต่อวัน ร้านนี้ที่ไม่ได้โปรโมทผ่านโซเชียลมีเดียมากนัก รสชาติของขนมก็ทำให้ลูกค้าบอกต่อกันอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งมีทั้งคนในท้องถิ่น ตลอดจนนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอุดหนุนอย่างสม่ำเสมอ ร้านนี้เปิดเฉพาะช่วงเช้าถึงบ่ายเท่านั้น ทำให้ขนมมักจะหมดเร็วมาก ดังนั้นจึงขอแนะนำให้มาแต่เช้าตรู่ หากต้องการลิ้มลองรสชาติขนมไทยแท้ ๆ อย่างเต็มที่ 🗓 เปิดทุกวัน ⏰ เวลาเปิด-ปิด : 09:30 - 20:00 น. 💸 ราคาเริ่มต้นที่ 9 บาท ภาพที่ 8 ร้านขนมหวานตลาดพลู (ภาพโดยผู้เขียน) ถ้าพูดถึงกุยช่าย อย่าพลาดโอกาสที่จะแวะไปที่ร้านกุยช่ายสะพานหัน ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างยิ่งในเรื่องของกุยช่ายที่ทอดกรอบ ๆ พร้อมตอกไข่ และทอดอย่างประณีต ที่ร้านนี้มีกุยช่ายให้เลือกทั้งแบบนึ่งและแบบทอด ไม่อมน้ำมัน กุยช่ายเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทุกวัยอย่างแท้จริง ซึ่งเหมาะสำหรับการทานเล่นระหว่างเดินเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในย่านเก่าแก่นี้ ถึงแม้ว่าร้านจะไม่ได้หรูหรา ความอร่อยที่โดดเด่นนั้น ทำให้ต้องต่อคิวยาวเหยียดในวันหยุดอย่างแน่นอน จึงเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่วัยรุ่นยุคใหม่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ 🗓 เปิดทุกวัน ⏰ เวลาเปิด-ปิด : 10:00 - 20:30 น. 💸 ราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท ภาพที่ 9 ร้านกุยช่ายสะพานหัน (ภาพโดยผู้เขียน) สุดท้ายนี้ปิดทริปตลาดพลูด้วยตำนานกาแฟเก่าแก่! สุริยากาแฟ ร้านเด็ดอายุเกิน 100 ปีที่ได้ย้ายมาอยู่ตลาดใหม่แล้ว! และยังคงเสน่ห์การชงด้วยถุงกาแฟสไตล์โอลด์สคูลแท้ๆ เสิร์ฟในแก้วพลาสติกคลาสสิค กาแฟรสเข้มข้น หอมกรุ่น หวานมันจากนมข้นสูตรเฉพาะที่ผสมมาเป๊ะมาก! ไม่อินกับกาแฟก็มีชาและโอวัลตินให้เลือกจิบ ฟีลวินเทจสุดๆ แถมราคาถูกมาก 🗓 เปิดทุกวัน ⏰ เวลาเปิด-ปิด : 06:00 - 20:00 น. 💸 ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท ภาพที่ 10 ร้านสุริยากาแฟ 100 ปี (ภาพโดยผู้เขียน) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !