ความเจริญทางด้านเทคโนโลยีก้าวหน้า ก้าวไกลจนหลงลืมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่สมถะเรียบง่ายและมีความสุข นาต้นจั่น เป็นชื่อของหมู่บ้าน ที่อยู่อำเภอศรีสัชนาลัยนาลัย จังหวัดสุโขทัย ที่นี่ถูกสร้างเป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ที่ย้อนการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย และที่นาต้นจั่นนี้ มีชื่อเสียงในเรื่องของการย้อมผ้าหมักโคลนที่ดังและมีคนมาเรียนรู้ นอกจากมีการสอนทำแล้ว ยังมีจำหน่ายสำหรับคนที่ต้องการอยากซื้อกลับไปเป็นของฝาก การเดินทางนั้นไม่ยาก เราสามรถพิมพ์ที่ Google Maps ได้เลยอาจจะต้องใช้รถส่วนตัว เพราะทางเข้าค่อนข้างที่จะไกลจากตัวเมือง ต้องขับรถผ่านทุ่งนา การปลูกพืชยืนต้น ลำไย ต้นมะม่วง และหมู่บ้านนี้เพาะต้นไม้ขายแทบจะทุกบ้าน คนที่รักในการปลูกไม้ยืนต้นสามารถไปเลือกซื้อได้ ต้นละสิบบาทยี่สิบบาท พิกัด: นาต้นจั่นทำไมถึงบอกว่าที่นี่เป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมสมัยก่อน ด้วยความที่นี่มีการย่อมผ้าแบบหมักโคลน มีการทอผ้า ด้วยกี่ทีละเส้น ใช้แรงงานคน ซึ่งหาดูได้ยาก เพราะคนปัจจุบันนี้ ทุกอย่างดูรวดเร็วไปหมด อยากได้อะไรก็เดินไปตลาดเลือกซื้อก็ได้มาแล้ว แต่การย้อมผ้าทำเองทุกขั้นตอนเราจะรักผ้าหรือชุดตัวนั้นมาก เพราะมันมีความหมายต่อจิตใจ นาต้นจั่นนั้นจะสร้างทุกอย่างด้วยไม้ แม้แต่ร้านกาแฟก็จะเป็นร้านแบบเดิมการบดกาแฟแบบใช้มือบด ต้มกาแฟจากกาน้ำ กาแฟก็ปลูกเอง ความละมุนของกาแฟจะไม่เหมือนกับกาแฟที่บดจากเครื่อง เอาจริงๆคือ ขมปี๋เลยทีเดียวการไปเที่ยวที่นี่ นอกจากเราจะได้รับอากาศที่บริสุทธิ์แล้ว เรายังได้ความรู้ในเรื่องของการย้อมผ้าหมักโคลน ที่มีวิทยากรคอยให้ความรู้และสอนให้เราลงมือทำจริง และหลังจากทำเสร็จเราก็สามารถนำผ้าหมักโคลนที่เราทำนั้นกลับบ้านได้เลยเมื่อเข้าไปที่นาต้นจั่น เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอีกในเรื่องของสิ่งปลูกสร้าง บ้านที่นาต้นจั่น ยังเป็นแบบเดิมที่ยังไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้องครัวที่มีเตาที่ทำขึ้นมาเองจากดินเหนียว น้ำที่ใช้คือน้ำที่เราต้องโยกขึ้นมาจากก๊อก กว่าจะได้เพียงพอสำหรับการอาบ ก็เหนื่อยเอาการ บ้านสร้างจากไม้ทั้งหลัง ห้องนอนที่ใช้เพียงเวลาต้องการพักผ่อน เพราะด้านในมีเพียงเตียงนอนเท่านั้น การใช้ชีวิตของคนในสมัยก่อน บ้านเป็นบ้านจากไม้ไผ่บ้าง ไม้ที่ตัดจากป่าปลูกเองบ้าง ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของผู้เป็นสามี และเพื่อนบ้านช่วยกันลงแรง ไฟฟ้าแต่ก่อนนั้นใช้ตะเกียง ทุกอย่างต้องเรียบร้อยและเสร็จสิ้นก่อนที่ตะวันจะตกดิน เพราะไม่อย่างนั้นจะลำบากในการไปไหนมาไหน วิถีชีวิตแบบเดิมที่มีความสุขในครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ห้องครัวของบ้านห้องอาหารใหญ่ของบ้าน ที่ใช้ในการทำอาหาร สามารถที่จะทิ้งเศษของผักลงไปด้านล่าง เพื่อย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยได้ แม้ตอนกลางคืนจะน่ากลัว แต่ทุกอย่างเสร็จสิ้นก่อนตะวันตกดินความเหนื่อยล้า ทั้งหมดทิ้งลงตรงนี้ ระเบียงเหนือชานบ้าน ที่มีเปลผูกนอนดูดาวในยามค่ำคืน ลมโชยหน้าบ้าน ทุกอย่างดูลงตัว อาจจะเป็นที่สำหรับการเล่นบรรเลงเพลง ด้วยเครื่องดนตรีด้ายย้อมสีธรรมชาติจากเปลือกไม้ การย้อมฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ หลังจากที่ปลูกฝ้ายก็จะนำฝ้ายมาตากแห้งดีด จากนั้นนำมาเข็ญให้เป็นเส้น เมื่อเป็นเส้นสีขาว ชาวบ้านก็จะนำมาย้อมเป็นสีต่างๆ ตามใจชอบ และสีที่ได้ก็จะมาจากสีของเปลือกไม้ ที่นำมาต้มเพื่อให้ได้สีตามต้องการ ใบไม้และเปลือกไม้เหล่านี้ถูกนำมาจากป่า ชาวบ้านต้องเดินเท้าเข้าไปหาในป่าสมุนไพรที่นำมาย้อมสีฝ้าย เพื่อนำไปถักทอ ใบไม้หรือเปลือกไม้เหล่านี้จะให้สีที่แตกต่างกัน นำมาต้มเมื่อได้ที่ก็จะนำฝ้ายที่เราเข็ญแล้วต้มไปด้วยกัน ก็จะได้สีสัน สมุนไพรเหล่านี้ หาได้ตามป่าและมีบางอย่างนั้นสามารถปลูกได้ไม่ต้องเดินทางเข้าไปหาในป่ากระทะต้มผ้า กระทะที่เห็นสองอันใช้สำหรับต้ม ย้อมเพื่อให้ได้ผ้าสีตามต้องการ อาจจะมีการมัดย้อมเพื่อที่จะได้ลายของผ้าออกมาสวยงาม ตามแบบ เป็นรูปดอกไม้บ้าง รูปหัวใจ หรือแม้แต่รูปขนมตุ๊กตา อยู่ที่การมัดของผู้ย้อมโอ่งโคลน หม้อน้ำปูนใส ใช้ในการแช่ผ้าหลังจากที่เราต้มหรือมัดย้อมเรียบร้อย เพื่อทำให้สีของผ้านั้นไม่หลุด โอ่งดินโคลน ในสมัยก่อนนั้นกว่าที่เราจะได้เสือสักตัวมานุ่งได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรานั้นต้องทำตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนขั้นสุดท้าย ซึ่งถ้าไม่ทำก็ไม่มีนุ่ง การซื้อขายยังไม่มีเท่าที่ควรเหมือนปัจจุบัน แล้วเงินในสมัยนั้นก็หายากยิ่ง คนขยันเท่านั้นที่จะมีผ้าสวยๆใส่ คนสมัยก่อนจึงรักในเสื้อผ้าที่ตนนุ่ง และจะใส่จนคุ้มสุดคุ้ม เที่ยวที่นี้คุ้มค่าทั้งด้านของบรรยากาศ และความรู้ นอกจากนั้นคนไม่แออัดด้วย ว่างวันหยุดเสาร์อาทิตย์นอนพักที่นาต้นจั่นได้เลยเที่ยวที่ไหนก็ไม่สุขเท่าเที่ยวที่บ้านเรา ภาพทั้งหมดเป็นของผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว)กำลังหาที่เที่ยวหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !