ในสัปดาห์นี้ ดิฉัน จะพาครอบครัว ไปเที่ยวยังสถานที่ ที่สำคัญทาง ประวัติศาสตร์ ซึ่งบางคน อาจจะยังไม่เคยรู้เรื่องราวมาก่อน ส่วนใครที่เคยมาแล้ว ก็จะได้ความรู้เพิ่มเติมกันน่ะคะ และในช่วงนี้ ก็เป็นช่วงปิดเทอมของเด็กๆ และยังเป็น เทศกาลสงกรานต์ด้วย ดิฉัน จึงพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนกันสักหน่อยดิฉันและครอบครัว ได้ออกเดินทาง โดยรถยนต์ส่วนบุคคล กันแต่เช้า จะใช้เวลาไม่นานนัก เพราะว่าเราได้มาพักที่บ้านญาติ ที่อยู่ต่างจังหวัด กันก่อนหน้านี้แล้ว สถานที่ จะไปก็ไม่ไกลจากบ้านญาติ จึงไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางค่ะ ขับรถประมาณ 30 นาที ก็มาถึงแล้วค่ะ ที่นี่คือ บ่อเหล็กน้ำพี้ ค่ะ ที่นี่เขาก็มี สงฆ์น้ำพระ ไว้คอยบริการเราด้วยคะ ไม่รอช้าพาครอบครัว ไปทำบุญกันก่อนเลยค่ะสถานที่นี้ มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ที่เล่ากันมาตั้งแต่สมัย ปู่ ย่า ตา ยาย ถึงความลี้ลับ ที่เรายังไม่เคยได้ยินกัน ในยุคปัจจุบัน เรียกง่ายๆ ก็คือเป็นตำนานเล่าขาน สืบต่อๆกันมานั่นเองค่ะ ดิฉัน จะขอเล่าย่อๆ ให้เพื่อนๆได้ฟังกันน่ะค่ะเรื่องบ่อเหล็กน้ำพี้ นี้มีมานานแล้ว ครั้งหนึ่ง เมื่อสมัยโบราณ มีชายคนหนึ่งได้มีอาชีพ เป็นช่างตีเหล็ก ตีดาบ ทำอาวุธ โดยใช้หิน จากบ่อเหล็กน้ำพี้ ทำเป็นดาบ แล้วได้นำไป ถวายกับกษัตริย์ผู้ครองเมืองในยุคนั้น แต่กษัตริย์เห็นว่า เป็นเพียงแค่ดาบธรรมดา ไม่มีค่าอะไร ไม่เหมาะสม ที่จะนำมาทำเป็นอาวุธ จึงไม่ยอมรับ และได้ขับไล่ช่างตีดาบคนนั้น ไปให้ไกลๆจากเมืองเมื่อช่างตีดาบ เห็นและได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกโกรธมาก และ ด้วยความโมโหอย่างสุดขีดจึง ได้ถือดาบวางกลางท้องพระโรง แล้วกรีดเป็นแนวยาวแบ่งครึ่ง ลากยาวจนสุดประตู ด้วยอานุภาพของดาบเหล็ก จึงทำให้ท้องพระโรง แยกออกแบ่งเป็น 2 ซีก เมื่อกษัตริย์ เห็นเช่นนั้น จึงนึกอยากได้ดาบเล่มนั้น จึงสั่งให้ทหารออกไปตามหา แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะช่างตีดาบ ได้ทิ้งดาบลงบ่อไปแล้ว และทหารที่ลงไปในบ่อ เพื่อจะหาดาบไปถวายกษัตริย์นั้น ได้สละชีพ ตายกันหมด ไม่มีใครสามารถนำดาบขึ้นมาได้จนได้มาเป็นตำนาน มาจนถึงปัจจุบันนี้ และนี่ก็เป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมา ที่คนเก่าแก่ ที่อาศัยอยู่กันมาช้านาน ได้เล่าให้ดิฉันฟังถึงความเป็นมาของ บ่อเหล็กน้ำพี้ เมื่อดิฉัน ได้รู้เรื่องราวความเป็นมา ของบ่อเหล็กน้ำพี้แล้ว ดิฉัน ก็เดินไปรอบๆ สังเกตเห็น หุ่นที่ปั้นไว้ให้เราได้ดู ซึ่งพอจะเดาเรื่องราวในยุคนั้นได้ และการแต่งกาย ของคนยุคนั้นด้วย และหินที่วางอยู่นั้น เราสามารถใช้มือจับดูได้ มันเป็นหินจริงๆคะ ดิฉันก็ลองยกดูหินมันหนักมาก แค่ก้อนเล็กๆ เองยังหนักเลยค่ะ บริเวณทางเดิน ที่เราเข้าเที่ยวชมนั้นกว้าง มีการตัดตกแต่งต้นไม้ และจัดสวนสวยงามค่ะ บริเวณทางเดิน ประดับไปด้วยโคมหลากสีต่างๆ แขวนทอดยาวไปจนสุดทางเดิน และเมื่อเราเดินมาจนถึงศาล เราก็ได้เข้าไปไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล เมื่อไหว้เสร็จจากนั้นเรา ก็เดินกันต่อเพื่อไปยัง บ่อเหล็กน้ำพี้ ข้างๆบ่อจะมีเบ็ด ไว้ให้เรานำมาตกหินกันค่ะ เคยเห็นแต่เขาตกปลากัน แต่ที่นี่ตกหินกันค่ะ มาดูกันนะคะว่าดิฉันจะตกหินได้ไหม มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะคะที่จะได้มา เพราะหินที่ติดขึ้นมานั้นจะเป็นหินเหล็กน้ำพี้ ของจริงๆเลยค่ะ อันนี้ก็อยู่บุญบารมีแล้วงานนี้ ดิฉันดีใจมากๆ เลยค่ะที่ตกหินได้ และประทับใจ ที่ได้เห็นสถานที่ ประวัติศาสตร์ ที่ยังคงความเก่าแก่ หลงเหลือให้เราได้ชมกัน แถมยังได้หินเอาไว้พกติดตัว คุ้มกันอันตราย ตามความเชื่อส่วนบุคคล น่ะคะ เมื่อได้หินและเที่ยวสนุกแล้ว ก็ถึงเวลากลับบ้านแล้วค่ะ ใครที่อยากลองตกหินเหมือนดิฉัน ก็ไปลองได้น่ะคะพิกัด บ่อเหล็กน้ำพี้https://maps.app.goo.gl/F9QRMhwC37QokRC6Aภาพปกและภาพประกอบโดย ภาสดาลาสเขียนโดย ภาสดาลาสอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !