รีเซต

เที่ยวเกาหลี ดูใบไม้เปลี่ยนสี กลางกรุงโซล ถ่ายรูปสวย 5 วัน 4 คืน ก็ฟินได้ (มีคลิป)

เที่ยวเกาหลี ดูใบไม้เปลี่ยนสี กลางกรุงโซล ถ่ายรูปสวย 5 วัน 4 คืน ก็ฟินได้ (มีคลิป)
Filmthii
16 พฤศจิกายน 2561 ( 08:50 )
13.5K
6

         เกาหลี ไม่ได้มีดีแค่อปป้านะเธอ เวลาบอกใครว่าจะไปเกาหลี ทุกคนมักจะถามว่า ไปดูคอนเสิร์ตเหรอ? ไปกรี๊ดอปป้าเหรอ? เอาจริงๆ ถ้าเราตัดคำว่า K-POP ออกไป เกาหลีก็เป็นประเทศนึงที่มีที่ท่องเที่ยวมากมายเต็มไปหมดเหมือนประเทศอื่นๆ และมีเสน่ห์แบบความเกาหลี  โดยเฉพาะช่วง ใบไม้เปลี่ยนสี ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง เก็บกระเป๋า แล้วบินตามเราไปดูกันเลยดีกว่า

 

 

        ที่เที่ยวที่เราไปทั้งหมดสามารถเดินทางด้วยรถบัส หรือ รถไฟได้ เพราะฉะนั้นถ้าคนที่ไปครั้งแรกแบบเราเดินทางเองได้ง่ายๆใครก็ไปได้ทั้งนั้นแหละ เชื่อเราดิ ส่วนจะมีที่ไหน และเดินทางยังไง เรามีภาพพร้อมรายละเอียดมาให้แล้ว เลือกที่ถูกจริตได้เลยจ้า

ดูคลิป

        วันนี้เราจะเที่ยวเป็น route คือเริ่มที่ Bukchon Hanok Village(북촌한옥마을) > Samcheongdong-gil (삼청동길) > Gyeongbokgung Palace (경복궁) > Cheonggyecheon Stream (청계천) ซึ่งเป็น route ยอดฮิต

 

 

        หรือใครจะเพิ่ม Insadong (인사동) เข้าไปด้วยก็ได้ เพราะอยู่ละแวกเดียวกัน แต่แม้ว่าทุกทีจะเดินถึงกันได้หมด แต่เดินแค่นี้ก็ขาลากแล้วนะเออ ถ้ามีเวลาก็แบ่งเป็นหลายวันดีกว่า เพื่อสุขภาพขาของเรา

        เริ่มที่ Bukchon Hanok Village หมู่บ้านนี้เป็นหมูบ้านโบราณที่ยังมีคนอาศัยอยู่จริงๆ เพราะฉะนั้นใครไปก็อย่าส่งเสียงดังกันนะจ๊ะ บางคนจะเริ่มจากคลองชองกเยซอนก่อนแล้วมาจบที่หมูบ้านบุกชอนฮันอก แต่เราอยากมาหมูบ้านบุกชอนฮันอกแต่เช้า กลัวว่าคนจะเยอะ ซึ่งก็คิดถูก เพราะว่าที่เรามาคนไม่เยอะ ในรูปคือจุดที่คนพลุกพล่านที่สุดแล้ว

 

 

        เมื่อเดินผ่านมุมมหาชน ก็เลี้ยวซ้ายแล้วตรงมาเรื่อยๆ จะเจอซอยที่มองลงไปเห็นถนนซัมซองดงข้างล่าง ซึ่งซัมซองดงจะมีคาเฟ่ ร้านขายของอาร์ตๆ เต็มไปหมด ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายๆ เราว่าคล้ายๆ กับนิมมานอะ มีซอยย่อยๆ เต็มไปหมด ซึ่งเราว่าร้านในซอยสวยกว่าตรงเส้นหลักอีก

 

 

        คาเฟ่ชื่ออะไรไม่รู้ น่ารักดี ตอนไปเห็นมีกลุ่มเหมือนถ่ายร้านเสื้อผ้าออนไลน์มาถ่ายกันเต็มเลย แถมมีร้านจิวเวอรี่ด้วย อยู่ในซอยย่อยของย่อยของย่อยไปอีก ถ้าจะได้ให้ครบทุกตรอกซอยซอยคงต้องเดินเป็นวัน ฮ่าๆ

 

เที่ยวโซล เกาหลี ใบไม้เปลี่ยนสี

 

        ต่อจากซัมชองดงเราก็เดินเลียบกำแพงวังเพื่อไปเข้าวัง คยองบกต่อ โดยวังคยองบกกุง Gyeongbokgung Palace (경복궁) หรือคนไทยเรียกว่าวังเคียงบกนั่นแหละ ในแพลนตั้งใจมาให้ทันการเปลี่ยนทหารเวรยาม แต่ก็นั่นแหละ โยนแพลนทิ้งไปซะ อยากทำอะไรก็ทำ ฮ่าๆ

 

 

        ไปแบบไม่คาดหวังเลย เพราะไม่ชอบเที่ยวแนวนี้ แต่มาถึงแล้วก็ต้องไป สรุปคือถ่ายรูปเพลินมาก เข้าใจแล้วเวลาคนต่างชาติมาวัดพระแก้วเค้ารู้สึกยังไง

 

 

        เดินออกมาเรื่อยๆ จะเจอพระตำหนักกลางสระน้ำ ซึ่งเค้าจะมีช่วงที่เปิดให้เข้ากลางคืน และเปิดไฟสะท้อนน้ำสวยมาก จากนั้นก็เดินผ่านสระน้ำไปก็จะเจอสวน มีใบไม้เปลี่ยนสีมากมาย และมีคนมาถ่าย pre-wedding มากมาย อยากรู้ว่าประชากรเกาหลีเค้าขึ้นคานกันบ้างมั้ย ฉันอิจฉาาาา

 

 

        พระเจ้าเซจง ผู้ประดิษฐ์อักษรเกาหลีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ความรู้มีแค่นี้แหละ 555 เดินชิลมาเรื่อยๆ ก็จะพบกับ Cheonggyecheon Stream (청계천) คลองซ็องกเยชอน ตอนเราไปมีจัดเทศกาลโคมไฟที่มีมาสคอทโอลิมปิคฤดูหนาวที่เกาหลีเป็นเจ้าภาพในปีหน้า แต่ว่าหนาวมากและเหนื่อยมาก เราเลยเดินผ่านๆ แล้วก็กลับเข้าโรงแรม

 

 

Day2

 

        ตื่นมาตอนเช้า แพลนของเราได้วันนี้ ก็คือจะเริ่มกันที่ Ihwa Mural Village [이화 벽화마을]. อยู่หลัง Korea National Open University เพราะฉะนั้นเราต้องเดินผ่านมหาลัยเพื่อไปหมู่บ้านนี้กัน

 

 

        พอเดินทะลุมหาลัยไป ก็จะเจอถนนที่เต็มไปด้วยต้นแปะก๊วย แอบบอกก่อนเลยว่า หมู่บ้านอยู่บนภูเขาสูงมาก ชันมาก เดินขึ้นบันไดกันหอบลิ้นห้อย ซึ่งข้างบนก็มีคนอาศัยอยู่จริงๆ และส่วนใหญ่เป็นคุณตาคุณยาย มาเที่ยวกันก็อย่ารบกวนเจ้าบ้านเค้าเลยนะจ๊ะ

 

 

        เดินไปเรื่อยๆ จะไปทะลุออกนักซานปาร์คได้ หรือจะขึ้นมาทางนักซานปาร์คแล้วค่อยเดินออกมาหมู่บ้านก็ได้ จากหลังมหาลัยจะมีป้ายบอกอยู่ ซอยทางเข้าอยู่ติดๆ กัน

 

 

        คุณลุงหิ้วกระเป๋า กับน้องหมาสัญลักษณ์ของ naksan park ที่ใครมาก็ต้องถ่าย จากนั้นลงจากหมู่บ้านเราก็นั่งรถไฟไปสถานีมยองดง เพื่อขึ้นรถบัสไป

 

 

        N SEOUL TOWER แลนมาร์คสุดฮิต ที่ไม่มาแสดงว่า...เค้าคงไม่อยากมานั่นแหละ แต่ไหนๆก็มาแล้ว ก็อยากขึ้นไปดูวิวมุมสูงเฉยๆ

 

 

        ชอบตรงนี้ที่สุด ไม่สนใจหอคอยอะไรทั้งสิ้น ตรงนี้สวยมาก หนาวมาก และเหงามาก เค้ายืนกอดกันชมวิวเป็นคู่ๆ ฮืออออ

 

 

        นังกุญแจคล้องต่างๆ ที่ตกกระป๋อง หวายยย สมน้ำหน้า วันที่เราไปมีแต่คุณลุงคุณป้าชาวจีนคล้องกัน ไม่ค่อยมีหนุ่มสาวมาคล้องแล้ว

 

 

Day3

 

         Jeongdong Observatory (정동전망대) จุดชมวิวพระราชวังถ็อกซูจากมุมสูง อยู่ในตึกเหมือนเป็นศูนย์ราชการอะไรซักอย่าง แต่ด้านบนมีคาเฟ่ และสามารถนั่งชมวิวได้ เห็นในรีวิวไม่ค่อยมี ก็นึกว่าจะไม่ค่อยมีคน พอขึ้นไปถึง โอ้โห!!! คนเยอะมาก

 

 

         ลงมาก็ไปเดินกำแพงหินเลียบวัง ถนนเส้นนี้บรรยากาศดีมาก คนไม่เยอะ บรรยากาศชิลๆ กับใบไม้เปลี่ยนสีสองข้างทาง ต้นไม้เยอะ อากาศดี ไม่มีคน ชอบมาก เหมือนถนนเส้นนั้นเป็นของเรา

 

 

         และแล้วนี่ก็คือเป้าหมายของเรา ภาพวาดริมกำแพงในเรื่อง Goblin หาอยู่นานมาก เพราะเป็นเหมือนกำแพงร้าน ไม่ใช่ที่ท่องเที่ยวอะไร

 

 

         มาถึงก็จะมีแค่นี้แหละ ไม่มีคน เป็นซอยเล็กๆ หลังโกดัง ถ้าใครคิดว่าเป็นสตรีทอาร์ทใหญ่โต ก็จะผิดหวังเล็กๆ แบบเราเนี่ยแหละ

        ไปต่อกันที่ย่าน Ikseon-dong ย่านนี้เป็นย่านที่เราชอบที่สุด คือเสิร์ชเจอวันก่อนไปไม่กี่วัน เลยยัดลงไปในแพลนแบบกระทันหัน แม้จะไม่ใหญ่มาก มีแค่ 2-3 ซอย เดินวนไปวนมาถึงกันหมด แต่ดีมาก เราใช้เวลาที่นี่ไปนานมาก ถือเป็นการปิดวันชิลๆ ได้เป็นอย่างดีครับ

 

 


Day4

 

        Ehwa Womans University แลนด์มาร์คอีกที่ที่ใครๆ ก็ต้องมา และต้องมาถ่ายตรงนี้ด้วย ที่เห็น 2 ข้างนั่นคืออาคารที่มีการใช้งานจริงๆ มองเข้าไปเห็นมีร้านหนังสือ ร้านกาแฟ แต่ไม่ได้เข้าไป

 

 

        มหาลัยนี้สวยมาก ใบไม้เปลี่ยนสีก็สวย คือนักศึกษาเกาหลีเค้าจะรำคาญมั้ย มาเที่ยวอะไรมหาลัยชั้นนักหนาฮะพวกเธอ แถมตรงนี้น่าจะเป็นโรงละคร ที่ไม่ค่อยมีนักศึกษา มีแต่นักท่องเที่ยวล้วนๆ เลยจ้า

 

 

       COMMON GROUND จริงๆ ไม่มีอะไรเลย เหมือนคอมมูนิตี้มอลเมืองไทย แต่มาเพราะว่ามี pop up store ของ JBJ วงผู้ชายที่ฉันแอบติ่ง ก็เลยมาซะหน่อย

 

 

       มุมถ่ายรูปยอดฮิต ซึ่งดูความฮิตสิ นี่ชะนีสองนางยืนกอดอกมองคนถ่ายรูปอยู่ซักพักจนถอดใจ ไม่ถ่ายละ ไปคีบตุ๊กตาซอยข้างหลัง common ground ดีกว่า เอ๊ะ!! 5555

 

 

       ห้องสมุด starfield coex mall ตอนแรกนึกว่าเค้าทำเป็นพร็อพเก๋ๆ พอไปถึง เค้าอ่านกันจริงๆนะ อ่านจริงจังมาก โต๊ะนั่งอ่านคือเต็มหมดทุกที่นั่ง

 

 

       DDP สถานที่จัด Seoul Fashion Week ซึ่งเรามาก็ไม่ได้ตรงกับที่เค้าจัดเลยยย แต่ก็ต้องมาอะ มาทำไมไม่รู้เหมือนกัน จริงๆ ก็อยากมาตอนเย็นๆ จะได้ถ่ายตึกตอนกลางวัน แล้วถ่ายกุหลาบ LED ตอนกลางคืน แต่ก็นั่นแหละ เวลาตามแพลนไม่มีอยู่จริง

 

 

       นี่คือกูหลาบ LED ที่อยากมาเห็น มันสวยแหละ แต่ว่าไม่รู้จะถ่ายยังไงดี

 

 

Day5

 

        เนื่องจากวันนี้เราตื่นเที่ยง ! (ชิลมั๊ยล่ะ ?) ระหว่าทางไปฮานึลปาร์ค มาถึงตอน 4 โมงเย็นพอดี ฮ่าๆ ฮานึลปาร์ค แสงเย็น กับหญ้าสีน้ำตาล และท้องฟ้า สวยมาก ถ่ายไปเหอะ ถ่ายกับโทรศัพท์ยังสวยเลย ถ้าใครใคร่เดิน ก็เดินขึ้นบันไดเกือบ 300 ขั้นมานะ ส่วนเราขอนั่งรถไฟ ขึ้นมาดีกว่า ไป-กลับ คนละ 3,000 วอน เพื่อสุขภาพขา จ่ายไปเหอะ

 

 

        เวลาที่แนะนำ บางคนชอบก่อนพระอาทิตย์ตกดิน แต่เราชอบเวลาก่อนนั้นอีกหน่อย ประมาณ 4 โมงเย็น คือแสงมันสวยทั้งสำหรับคนและวิว

 

 

        แสงมันสวยจริงๆ ถ่ายย้อนแสงยังพอเห็นรายละเอียด กดชัตเตอร์เพลินมาก ถ่ายยังไงก็สวยจริงๆ ยกเว้นถ่ายแล้วมีคู่รักเดินผ่านอะ หมั่นไส้!! หึหึ

 

 

        ตรงนี้เรียกว่าอะไรดีล่ะ รังนกหลอ เดินขึ้นไปแล้วมองลงมาจะเห็นวิวเมืองกับแม่น้ำสวยมาก แต่ข้างบนลมแรงมาก เสื้อผ้าชะนีสองนางนี่ก็ไม่ได้พร้อมอะไรกับอากาศ -1 องศา และลมแรงเลยยย

 

 

        ไปอีกฝั่งก็จะเห็นวิวแม่น้ำแบบนี้ หนาวมาก แต่ก็กลั้นใจยืนถ่าย เพราะวิวสวยจริงๆ

 

 

        ลงมาด้านล่างก็ไปกันที่ Line Friends Store เข้ามันทุกที่ทุกสาขา อันนี้สาขาอิแทวอน เราชอบสาขานี้ที่สุด

 

 

        ปิดท้ายของทริปด้วยน้องๆ ที่เปิดหมวกที่ฮงแด ส่วนตัวแม้จะชอบบอยแบนด์ แต่แบบนี้เราชอบวงเป็นแบนด์มากกว่า คือมีเพลงให้ฟัง มีดนตรีเล่นให้ดู แบบเต้น cover นี่ยืนดูแล้วก็ไม่รู้จะดูอะไร แต่วงนี้เรา 2 คนยืนดูอยู่นานมาก นานจนร้านรวงปิดหมด ไปซื้อของฝากไม่ทัน

 

 

        เป็นไงกันบ้างล่ะ ! และนี่ก็คือโซล แบบกระชับของเรา บอกเลยว่า ถ้าหากมีเวลาเดินทางในช่วง ใบไม้เปลี่ยนสี จะต้องฟินแบบเราแน่นอน เพราะนอกจากจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี สีแดง ส้ม เหลืองแล้ว ยังจะได้ฟินกับอากาศหนาวๆ อีกด้วย หูยยย คือดีเนอะ

 

 

ขอขอบคุณแฟนเพจ นกออก มากๆ สำหรับข้อมูลทั้งหมด และรูปถ่ายสวยๆ ในทริปนี้ครับ สามารถเข้าไปอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ https://www.facebook.com/nokaokthetraveller

 

อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป

ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่