เอาความเสียใจมาทิ้งไว้ที่ระยอง เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนเราคนหนึ่งกำลังอกหัก คนอกหักก็ต้องการกำลังใจ นางตัดสินใจลงมาหาเราที่ระยอง ในคืนวันศุกร์ โจทย์ของเราที่ได้รับคือพานางไปนั่งริมทะเล ไปปลดปล่อยความรู้สึกที่ค้างคาอยู่ในใจ คืนวันศุกร์ เมื่อมาถึงที่สถานีขนส่งประมาณ ห้าทุ่ม เราก็ไปรับเพื่อน แล้วพาไปนั่งที่ริมทะเล ชายหาด PMY เวลาห้าทุ่มกว่าที่ริมทะเล ผู้หญิงสองคน น่ากลัวเหมือนกันนะ แต่ความรู้สึกตอนนั้นไม่มีความกลัวเลย นั่งสักพักลมหนาวก็เริ่มพัดเข้ามา เรามองดูเพื่อนเราที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกแหละว่าเศร้า แต่ติดที่เราปลอบคนไม่เป็น เราก็เป็นผู้รับฟังที่ดีเสมอ เรานั่งที่ริมทะเลตั้งแต่ ห้าทุ่มครึ่งเกือบถึงตีหนึ่ง ที่เรานั่งจะเป็นเหมือนที่ทำประมงของชาวบ้าน กลางดึก ๆ เราก็จะพบคนที่มาตกปลาอยู่แถวนั้น แอบกลัวอยู่เหมือนกันนะ เราอยู่ที่นี้สักพักหนึ่งจนในที่สุดก็ทนความหนาวของสายลมไม่ได้ก็พากันกลับไปพัก เช้าวันรุ่งขึ้น เราขับรถไปกันที่ทะเล แหลมแม่พิมพ์ ไปนั่งกินข้าว แล้วก็นั่งดูวิวทะเล เราเลือกนั่งที่เป็นผ้าใบแล้วก็สั่งอาหาร อยากบอกว่าอาหารที่นี้ค่อนข้างแพง เรามองเมนูอาหาร แล้วก็มองหน้ากัน ความรู้สึกก็ตลกดีนะ เกี่ยงกันสั่งเพราะว่าแพงทุกอย่าง 555 สถานการณ์ตอนนั้นก็ปกติดี เพื่อนเราก็ยังร่าเริงแจ่มใสไม่มีอะไรที่ผิดปกติ พอกินเสร็จเราก็งีบหลับไปสักพักหนึ่ง พอตื่นขึ้นมาก็เลยพากันหาที่เที่ยวที่ใกล้ ๆ กัน จนไปเจอ ทุ่งโปร่งทอง เราตกลงกันว่าจะไปที่นั่น ระหว่างทางก่อนที่จะมาถึงทุ่งโปร่งทอง เราเจอสะพานหนึ่ง ที่ทอดยาวผ่านน้ำละสีฟ้า มันสวยมาก เราเลยหยุดรถแล้วลงไปถ่ายรูปกัน ทุ่งโปร่งทอง มาถึงที่นี้ ฝากรถไว้เสีย 20 บาท แล้วค่ารถที่พาไปส่งด้านในอีก 5 บาท อากาศค่อนข้างร้อนแต่เราก็เดินกันไปลึกเลยทีเดียว ความจริงเพื่อนเราอยากเดินไปจนถึงเรือรบหลวงประแสร์ แต่เราไม่ไหวแล้ว เราเหนื่อย เลยขอให้เดินกลับออกไปด้านนอกดีกว่า แต่เหมือนนางยังติดใจ ยังไม่อยากกลับ จากที่ไม่ได้เดินก็เลยขอเป็นนั่งเรือแทน ความรู้สึกตอนนั่งเรือชอบนะ ลมเย็นสบาย อีกทั้งยังได้ออกไปวนที่ทะเลอีกด้วย เรือลำนี้มาด้วยกันหลายคน จึงอดที่จะขึ้นไปถ่ายรูปบนหัวเรือ ระหว่างทางที่กลับ เราแวะซื้อกาแฟแล้วทิ้งเพื่อนให้รอไว้บนรถ ก่อนไปเราเปิดเพลงที่รถไว้ความดังปกติ พอกลับมาทำไมเพลงเราถึงเงียบ พอหันหน้าไปเท่านั้นแหละ น้ำตานองหน้าเพื่อนเรา ดิฉันก็ทำไรไม่ถูกเลย ณ ตอนนั้น ก็ต้องคอยรับฟังต่อไป แต่สิ่งที่พีคกว่า คือเพื่อนเราตัดสินใจที่จะโทรไปเคลียร์ปัญหา เราได้ยินทุกคำพูดที่เพื่อนเราพูกออกมา ทุกความรู้สึกมันรับรู้ได้ว่ามันมาจากใจจริง ๆ เราก็เซ็นซิทิฟด้วยสิ สุดท้ายตอนจบเราร้องไห้หนักกว่าเพื่อนอีก ชนิดที่น้ำตานองหน้า ตาบวมไปเลยทีเดียว แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้นางยิ้มได้นะ ถือว่าประสบความสำเร็จแบบไม่ได้ตั้งใจ พระอาทิตย์ตกดิน ภารกิจสุดท้าย ปูเสื่อ กินข้าว พร้อมดูพระอาทิตย์ตกดิน ปล่อยใจให้เป็นไปตามธรรมชาติ เชื่อเสมอว่าเวลาจะช่วยเยียวทุกสิ่ง เมื่อให้ใจไปแล้วมันไม่มีค่า ก็ต้องใช้สมองมากกว่าความรู้สึก เมื่อผ่านช่วงเวลาที่ทุกข์ใจมาแล้ว ข้างหน้าต่อไปจะมีความสุขรอเราอยู่ แค่ทำตัวเองให้มีค่ามากพอ จากวันนั้นถึงวันนี้ เพื่อนเราคนนี้แข็งแกร่งขึ้นมาก และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักไปแล้ว อีกทั้งในอนาคตอันใกล้นี้ ความสมบูรณ์ก็จะกลับมาอีกครั้ง ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่พยายามก้าวข้ามผ่านความรู้สึกที่เลวร้ายแบบนี้ไปให้ได้ แลปล่อยอดีตให้เป็นเพียงอดีต และทำปัจจุบันให้ดี พร้อมที่จะเดินหน้าไปเจออนาคตที่สดใส CR. ภาพถ่ายโดยผู้เขียน