วันนี้ผมก็ได้มาเที่ยวที่บ้านคุณยาย แต่ก่อนตอนเป็นเด็กผมได้อาศัยอยู่กับคุณยาย เพราะแม่ผมไปทำงานที่ต่างจังหวัด คุณยายของผม จึงต้องเลี้ยงผมแทน ผมจำความได้ ตอนผมอายุ 8 ขวบผมก็เริ่มมาอาศัยอยู่กับคุณยายแล้ว เพราะคุณพ่อของผมท่านเสีย ก็เลยต้องมาอาศัยอยู่กับคุณยาย เพราะแม่ผมต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด ซึ่งรายได้เยอะกว่าที่บ้านอย่างแน่นอน ผมกลับมาบ้านหลังเก่า เหมือนผมได้ย้อนวัยอีกครั้ง ผมต้องบอกก่อนว่าผมมีบ้านสองหลัง บ้านหลังเก่าจะให้คุณยายอยู่ แต่บ้านหลังใหม่ ผมกับคุณแม่จะอาศัยอยู่ แต่ตอนนี้ คุณแม่ก็ได้ไปทำอาชีพที่บ้านหลังเก่าแล้ว ผมก็อยู่บ้านหลังใหม่กับน้องสองคน ผมได้มีโอกาสไปหาคุณแม่และคุณยายอยู่บ่อยครั้ง เพราะจากบ้านเก่าถึงบ้านใหม่นั้น ไม่ไกลกันมาก ระยะห่างประมาณ 16 กิโลเมตร ซึ่งปกติมาก ๆ ที่ผมจะขับรถไปกลับ จนผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยไกลเลย เพราะไปกลับบ่อยแหละ จึงรู้สึกเช่นนั้น วันนี้ผมจะนำสถานที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจในชุมชนเก่าของผมมาฝากครับ เป็นวัดอีกแล้วตามเคย วัดแห่งนี้เป็นวัดป่า อยู่ที่บ้านม่วงนาดี ตำบลสมสะอาด อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีชื่อว่า วัดป่าอรัญชัยธรรมวาส แต่คนในชุมชนจะรู้จักกันดีในนาม วัดป่า เป็นวัดที่มีความเก่าแก่ อยู่คู่บ้านม่วงนาดี มาช้านาน แต่ก่อนผมก็จะไปวิ่งเล่น เดินเล่น และไปทำบุญให้อาหารปลาที่วัดนั้นประจำ เพราะเป็นวัดประจำหมู่บ้านของผม และมีระยะทางไม่ไกลมาก ประมาณ 700 เมตร ห่างจากบ้านผม แต่ก่อนวัดนี้ยังไม่มีความเจริญมากเท่าไหร่ แต่ผมไปคราวนี้ วัดนี้มีความเจริญมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก จนผมต้องตกใจ และบันทึกภาพ เพื่อนำมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังในวันนี้ครับ ก่อนเข้ามาจากวัด จะผ่านซุ้มประตูโขงที่สวยงาม แต่ก่อนทางเข้าจะไม่ใช่ทางนี้ แต่ก่อนทางเข้าจะอยู่ทางด้านหน้าอีก ตอนนี้มีทางเข้าสองทาง ทางเก่าถูกปิดไปนานแล้ว เพราะแต่ก่อนวัดยังไม่มีความเจริญ ยังไม่มีการสร้างประตูโขงเข้าวัด ทางวัดเลยอยากมีประตูโขงเข้าวัด ประชาชนชาวบ้านที่มีความเลื่อมใส จึงร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อสร้างประตูโขงใหม่ และทางเจ้าอาวาสวัด ก็ถือโอกาสนี้เลย ที่จะเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ในการเข้าวัด เป็นทางที่พึ่งทำใหม่และมีประตูโขงใหม่ ได้ประมาณ 6-7 ปีแล้ว ตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก ยังไม่ได้สร้างประตูนี้ขึ้น ประตูทางวัดมีความสวยงาม ไม่หรูหรามาก มีความเรียบ ๆ เป็นประตูที่สูง ประมาณ 9 เมตร มีกำแพงด้านข้างยาวข้างละ 8 เมตร ทำให้รู้ว่าเป็นทางเข้าวัด ด้านบนของกำแพงด้านข้างจะสร้างเป็นพญานาคที่มีความยาว 2 เมตรกว่า ๆ มีความสวยงามของประติมากรรม แต่กำแพงมีความเก่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะคงสร้างมานานแล้ว แล้วยังไม่ได้ทานสีใหม่ แต่นำปัจจัยที่ชาวบ้านบริจาค มาบูรณะด้านในให้มีความสวยงาม วัดนี้เป็นวัดป่าที่มีความสงบมาก ด้านหน้าของวัด จะถูกมีคลองน้ำขนาดใหญ่ แล้วถึงจะเป็นถนน คลองน้ำแห่งนี้มีประวัติกับชุมชนชาวม่วงนาดีมาก เพราะสมัยก่อน เป็นคลองที่ชาวบ้านมาจับปลา หาหอย หาปู เพื่อนำไปประกอบอาหาร เป็นวิถีชีวิตบ้าน ๆ คลองแห่งนี้จะมีความยาวประมาณ 600 เมตร จนสุดเขตของวัด แต่ก่อนสามารถมาจับปลา หาหอยแต่ แต่ตอนนี้ คลองน้ำแห่งนี้แห้งขอดมาก เพราะเป็นฤดูแล้ง ปลาเล็กปลาน้อย ก็หายหมด เพราะไม่มีน้ำอยู่อาศัย จึงทำให้ชาวบ้านต้องหาอาชีพเสริมใหม่ ตามฤดูกาล ทางเข้าวัดจะเป็นทาง คอนกรีตซีเมนต์อย่างดี ผมว่าทางนี้พึ่งทำใหม่แน่ ๆ เพราะ ครั้งก่อนที่ผมมา ยังเป็นทางดินแดงอยู่เลย ทางวัดน่าจะทำทางใหม่ เพราะมีคนจำนวนไม่น้อย เข้ามาทำบุญ ฟังธรรม และรักษาศีล เจริญภาวนา ที่วัดแห่งนี้ จะมีทางเข้าไปประมาณ 500 เมตร ไม่ไกลมาก สองข้างทางจะเป็นป่ารกทึบ ทั้งสองข้าง มีความเงียบสงบมาก ๆ ป่านี้จะเป็นผีป่าช้าเก่า (ภาษาอีสาน หมายความว่า ป่าช้าเก่า) ที่อยู่ในวัด มีความร่มรื่นมาก ตอนผมขับรถไป ได้ยินเสียงกระรอกวิ่งไล่กันด้วย มีเสียงนก เสียงสัตว์เยอะมาก ๆ ได้ความเป็นธรรมชาติสุด ๆ พอมาถึงภายในวัดจะเห็นกุฏิพระหลายหลัง เดินเข้ามาอีกนิดจะเห็น พระพุทธรูปธุดงค์ และพระพุทธรูปปรางค์วันเกิดต่าง ๆ จะประดิษฐานอยู่ที่ศาลาเล็ก ๆ ข้างทางเข้าวัด หลายคนก็ไปกราบไว้ขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลให้แก่ชีวิต และยังมีรูปปั้นสัตว์ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เช่น รูปปั้นไก่ รูปปั้นม้า มุมนี้จะเป็นบันไดสวรรค์ เป็นบันไดสองข้างที่มีพญานาคอยู่ตรงด้านบนของบันไดทางเดิน ซึ่งมีความสวยงามมาก ทำให้ใครที่ผ่านไปผ่านมาหลายคนแวะถ่ายรูป ผมคนหนึ่งที่ติดนิสัยการถ่ายรูปมาก พอไปไหนมาไหน ก็ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปสวย ๆ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ขึ้นชื่อว่าวัดป่า ก็ต้องมีมุมที่ให้เราได้สงบจิตใจ ถ้าเดินขึ้นบันไดทางเดินนี้แล้ว จะเป็นทางเดินจงกลมที่มีระยะทางที่ไกลมาก ในการเดินจงกลม ทางวัดสร้างไว้เพื่อปฏิบัติธรรม ทำให้เราได้สำรวมกายและใจ ด้านข้างจะเป็นป่ารอบสระน้ำขนาดใหญ่ในวัด ผมเคยเดินอ้อมอยู่ครับ โดย 1 รอบจะมีระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ซึ่งไกลอยู่พอสมควร และมีความสงบ ร่มรื่นมาก เหมาะแก่การมานั่งสมาธิ และเดินจงกลม เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้มีความสงบ และมีสมาธิมากขึ้น สระน้ำที่ผมว่า เป็นสระน้ำที่มาความกว้างมาก ความกว้างของสระประมาณ 200 เมตร ความยาวประมาณ 400 เมตร ระยะทางรอบสระประมาณ 1,200 เมตร ซึ่งเป็นสระสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง สระนี้น่าจะขุดพร้อม ๆ กับการสร้างวัด ตั้งแต่ผมจำความได้ก็มีสระน้ำนี้แล้วครับ ในสมัยก่อนก็จะเป็นที่ที่ให้พระภิกษุสามเณร สรงน้ำกันที่นี่ แต่สมัยนี้ไม่มีแล้ว ผมจำความได้ ตอนผมเป็นเด็ก ผมเคยมาให้อาหารปลาที่นี้ ปลาที่นี้เยอะมาก ๆ มีทั้งปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาดุก โดยสระในวัดแห่งนี้จะไม่อนุญาตให้จับสัตว์น้ำ ใครที่มีความประสงค์ ที่จะปล่อยปลา ทำบุญให้อาหารปลาก็ได้ แต่อาหารท่านต้องนำมาเอง ทางวัดจะไม่มีการจำหน่ายอาหารปลา ปลาที่นี้สามารถกินข้าวเหนียวได้ หลังจากได้มาใส่บาตร พอข้าวเหลือจากการใส่บาตร ผมก็จะนำข้าว โยนลงไปให้ปลากินครับ ปลาในสระน้ำนี้เยอะมาก ๆ พอในช่วงเทศกาล วัดแห่งนี้จะมีการตกแต่งภายในวัดและรอบสระอย่างสวยงาม และมีการจัดงานประเพณีที่น่าเยี่ยมชม เป็นการบำรุงพุทธศาสนาครับ ภายในวัดจะไม่มีโบสถ์พระ แต่จะมีศาลาที่สวยงาม ซึ่งผมไม่ได้เข้าไปถ่ายภาพด้านใน เพราะตอนนั้นผมได้ไปส่งคุณยายที่วัด ทางวัดได้จัดพิธีกรรมทางศาสนาอยู่ ผมจึงไม่อยากเข้าไปรบกวน ในวัดจะมีหอระฆัง 3 ชั้น ที่สวยงาม อย่างที่พูดไป ภายในศาลาด้านในวัดที่จัดพิธีกรรมนั้น เป็นศาลาไม้ขนาดใหญ่ โดยมีการจำลองให้เปรียบเสมือนป่าหิมพาน มีรูปปั้นสัตว์ รูปปั้นพันธุ์ไม้ในศาลาการเปรียญ ที่สวยงาม ผมอยากนำรูปภาพมาฝากทุกคนมาก ๆ ครับ แต่เข้าไปบันทึกภาพไม่ได้ ภายในวัด มีความสวยงามและร่มรื่นมาก กว่าจะได้ศาลาการเปรียญที่สวยงามขนาดนี้ ทางวัดต้องมีคนเลื่อมใสไม่น้อย จึงจะสร้างได้ ครั้งก่อน ผมเคยมา ยังเป็นศาลาธรรมดา มีความกว้างอยู่พอสมควร แต่ตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปหมดทุกอย่าง มีความสวยงามทางประติมากรรมมากครับ รู้สึกดีมาก ๆ ที่ได้มาวัดครั้งนี้ ถึงจะไม่ได้มาทำบุญ แต่ผมก็ได้มาเห็นความเปลี่ยนแปลง ที่สวยงามของวัด วัดนี้เป็นวัดป่า ที่มีความสงบ มีบรรยากาศที่ดี เต็มไปด้วยเสียงนก เสียงสัตว์หลายชนิด และมีชาวบ้าน มาทำบุญเป็นอย่างมากในทุก ๆ วัน โดยเฉพาะวันพระ ช่วงตักบาตร ช่วงเทศกาลต่าง ๆ ก็มีคนมาวัดนี้เป็นจำนวนมาก ถ้าผมมีโอกาส ผมก็อยากจะนำเงินไปถวายวัด เพราะเป็นวัดในชุมชนเก่าของผม ผมโตมาจากที่นี่ ผมเลยอยากให้ทุกคนได้เห็นความงามของวัดนี้ ถึงวัดนี้จะไม่มีค่อยเจริญไม่มีความสวยงามเทียบกับวัดอื่น แต่ในเรื่องคุณค่าทางจิตใจ ผมเชื่อว่า วัดนี้มีคุณค่าทางจิตใจไม่น้อยเลยกับชาวชุมชนบ้านม่วงนาดี บทความและรูปภาพโดย : hitERlist เจ้าของบทความ