สวัสดีค่า เวลานึกถึงแม่ฮ่องสอน แน่นอนว่าสถานที่ที่คนต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ก็คือปางอุ๋งนั่นเอง และวันนี้เราจะมารีวิวการไปเที่ยวปางอุ๋งครั้งแรกของเราค่า จริง ๆ เราเคยมาแม่ฮ่องสอนแล้วครั้งนึงและตั้งใจจะมาปางอุ๋งด้วย แต่โชคชะตาไม่เป็นใจตอนนั้นเพื่อนจองรถไม่ทันก็เลยทำให้อดไป ครั้งนี้ไม่พลาด และบอกเลยว่าหาข้อมูลเยอะมากว่าไปยังไง? ต่อรถที่ไหน? ควรไปประมาณกี่โมงดี? สุดท้ายด้วยข้อจำกัดด้านเวลา เราเลยเลือกการเดินทางโดยรถทัวร์ค่ะ (ทั้งที่ในใจอยากนั่งเครื่อง ◉_◉) เพราะต้องการไปถึงอาเขตเชียงใหม่ให้ทันรถตู้รอบแรกๆ เพื่อต่อรถตู้ไปแม่ฮ่องสอนต่อ ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง (1,864 โค้ง) ให้ทันรถสองแถวที่จะรับเข้าไปปางอุ๋ง จากที่อ่านมาเค้าบอกว่าจะมีรอบ 10โมง กับ บ่ายสอง จากการนั่งรถแบบมาราธอน หลับแล้วหลับอีก หลับจนเหนื่อย จะไม่หลับก็ไม่ได้เดี๋ยวเมารถอีก ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วค่าาาาาาาาาาาาา (~˘▾˘)~ ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน บรรยากาศตอนที่มาถึงคือดีมาก ๆ ทั้งเงียบ และสงบ แต่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกวังเวลงนะ ฟิลเหมาะกับการมาพักผ่อนมากๆ ยกเว้นตอนเดินทาง (¬_¬) คือไม่รู้จะบอกยังไงดี แต่เราว่าใครที่ได้มีโอกาสมาปางอุ๋ง ก็น่าจะรู้สึกคล้าย ๆ กันนะ และนี่คือที่นอนของเราในคืนนี้ หนาวแค่ไหนก็ไหวจ่ะแม่ >< ที่จริงเค้ามีพี่พักของทางโครงการด้วยนะ แล้วก็ที่พักของชาวบ้านแถวๆนั้นก็มี ลองหากันดูได้เลย แต่ที่เลือกพักข้างบนเพราะมันใกล้ดี มาถึงก็เลือกเต้นท์ที่ยังว่างอยู่ได้ตามสบาย จริง ๆ ถ้าใครมีเต้นท์อยู่แล้วสามารถเอามากางได้เหมือนกันนะ เลือกกันได้เลยว่าจะนอนติดริมน้ำแค่ไหนก็ได้ และมันฟินมากตอนตื่นเช้าแล้วมองออกมาจากเต้นท์เห็นหมอกลอยอยู่บนผิวน้ำ ;) ที่พักปางอุ๋งจะมีทั้งส่วนของโครงการและส่วนของบ้านพักร่วมโครงการในหมู่บ้านที่ดูแลโดยชาวบ้านแถวนั้น ทั้งสองส่วนนี้มีจำนวนที่พักเยอะอยู่พอสมควร แต่ก็เต็มเร็วเหมือนกัน รู้แบบนี้แล้วใครที่มีแพลนจะไปแนะนำให้จองล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่าค่ะ ดูห่าน 。◕‿◕。 บอกเลยว่าน้องเหมือนเป็นซิกเนอเจอร์ของที่นี่เลยนะ เคยได้ยินมาว่า ใครที่มาปางอุ๋งแล้วเจอห่านขาวห่านดำคือจะโชค สมหวังเรื่องต่าง ๆ ไม่รู้ว่าจริงมั้ย แต่ดีใจที่ได้เจอน้อง เพราะเพิ่มกิจกรรมการดูน้องมาอีกหนึ่งอย่าง จริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรให้ทำเลย555 นอกจากดื่มด่ำกับธรรมชาติ ดูห่าน ดูดาว ดินเล่น กิน นอน.. แต่เราชอบนะ เพราะเดินทางมาเหนื่อยแล้ว ควรพัก! ดูดาว (◕‿◕✿) ก็อย่างที่บอกว่ากิจกรรมมันมีอยู่ไม่กี่อย่าง และหนึ่งในนั้นคือการนั่งดูดาวจ้า ช่วงที่เราไปที่นี่ตอนกลางคืนอากาศประมาณ 17 องศา กำลังเย็นสบายเลย ไม่หนาวเกินไป พอให้ออกมานั่งดูดาวรับลมได้ชิล ๆ ที่ประทับใจที่สุดคือดาวสวยมากแบบมาก ที่เค้าบอกยิ่งมืดยิ่งเห็นดาวก็คือจริงที่สุด ปลื้มค่ะสำหรับทริปนี้ <3 ล่องแพ ♥‿♥ กิจกรรมสุดท้ายก่อนเก็บกระเป๋ากลับก็คือการแหกขี้ตาตื่นมาเพื่อล่องแพดูหมอกที่ลอยตัวอยู่เหนือผิวน้ำ แต่! ด้วยความที่เราไปตอนเดือนตุลาคมอากาศมันคงไม่หนาวพอที่จะทำให้มีหมอกได้ เราก็เลยอดเห็นค่ะ แต่เราก็ยังอยากล่องแพนะ พอลงไปมีหมอกหรือไม่มีก็ไม่ใช่ประเด็นแล้ว เพราะแค่มองวิ้วรอบ ๆ ท้องฟ้าที่สีฟ้าสดตัดกับวิวเขาและน้ำก็คือฟินแล้ว มันดีมาก พอลงมาบนแพแล้วกิจกรรมที่ทุกแพต้องทำคือการถ่าบรูปนั่นเอง มันจะโยก ๆ หน่อยเวลาที่เราสลับที่นั่งกันเพื่อผลัดกันถ่าย แต่ทุกแพก็ไม่มีใครลดละในความพยายามนี้ ลุก ๆ นั่ง ๆ สลับกันถ่ายจนหมดเวลาเลยทีเดียว มีบางลำยืนเลยจ้า แต่เราขอผ่านท่านั้นเพราะกลัวจะพลาดได้อาบน้ำเย็นตอนเช้าแทนที่จะได้ภาพสวย ๆ ถึงจะไม่มีอะไรให้ทำมาก แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อเลย เต็มอิ่มกับธรรมชาติแบบสุด ๆ ไปเลย ใครที่ชอบป่า ชอบเขา ลองมาที่นี่แล้วจะม่ผิดหวังนะ \ (•◡•) / สำหรับทริปนี้ก็ขอจบรีวิวไว้เท่านี้นะคะ บ้ายบายยยยยย ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ของทริปนี้ - รถทัวร์ไปลงเชียงใหม่ 2 คน: 1,140 THB ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www2.nakhonchaiair.com/view/ - รถตู้จากอาเขต > แม่ฮ่องสอน 2 คน(ไป-กลับ) : 1,000 THB ข้อมูลเพิ่มเติม : https://premprachatransports.com/index.php - รถสองแถวจากแม่ฮ่องสอน > ปางอุ๋ง 2 คน: 180 THB - ที่พักปางอุ๋ง 2 คน: 600 THB - ค่าเครื่องบิน เชียงใหม่ > กรุงเทพ 2 คน: 1,500 THB (จองช่วงโปร) - ค่าอาหารขึ้นอยู่กับแต่ละคน: 600 THB รวม 5,020 THB หาก2 ก็อยู่ที่คนละ 2,510 THB ใครว่าง ๆ มีวันหยุดแต่ยังไม่รู้จะไปที่ไหนแนะนำปางอุ๋งนะคะ