นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเมียนมา ส่วนใหญ่โฟกัสไปที่เจดีย์ชเวดากอง พระธาตุอินทร์แขวน และพระนอนตาหวาน พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ตามที่ชายสามโบสถ์ได้พาไปเช็คอิน แต่มีอีกที่หนึ่งไม่ควรพลาดครับ เจดีย์โบตะทาวน์ ชาวไทยเรียกกันว่า เจดีย์ทหาร 1,000 คน และที่นี่ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิสุดฮิตที่คนไทยสายมูไม่ควรพลาด โบโบจีนัต เทพทันใจ และ เมียะนางนเวนัต (เมียะนานหน่วย) หรือ เทพกระซิบ ทั้ง 3 สิ่งศักดิ์สิทธิมีความสัมพันธ์ มีความเป็นมาอย่างไรติดตามได้เลยครับทุกคน เจดีย์โบตะทาวน์ เจดีย์ที่สำคัญของเมียนมา อยู่ในเมืองย่างกุ้ง เป็นเจดีย์ที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ เจดีย์เดิมมีอายุถึง 2,500 ปีมีความเก่าแก่สร้างขึ้นมาพร้อมกับ เจดีย์ชเวดากอง แต่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เมียนมายังเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ จึงถูกญี่ปุ่นโจมตีด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด เจดีย์โบตะทาวน์ โดนระเบิดในครั้งนั้นจนเจดีย์พังเสียหายถล่มลงมาจนหมดสิ้น แต่ในเวลาต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2486 หลังจากที่เมียนมาได้รับเอกราช จึงมีการบูรณะจัดสร้างเจดีย์ขึ้นมาใหม่ที่เราได้เห็นกันในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าไม่มีภาพถ่ายของเจดีย์เดิมเหลืออยู่ แต่น่าจะมีรูปแบบใกล้เคียงกับเจดีย์เก่าก่อนถูกระเบิดทำลาย เจดีย์โบตะทาวน์องค์ใหม่นี้คล้ายกับเจดีย์ชเวมอดอหรือพระธาตุมุเตา พระธาตุศักดิ์สิทธิแห่งเมืองพะโคภาพเขียนที่เล่าเรื่องประวัติของเจดีย์โบตะทาวน์ ภาพพ่อค้าพี่น้องชาวเมียนมา 2 คนเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วทูลขอของที่ทำให้รำลึกถึงพระองค์เมื่อต้องเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดเมืองนอน พระพุทธองค์ทรงดึงพระเกศาประทานให้พ่อค้าทั้งสองคน ทางเดินภายในเจดีย์โบตะทาวน์มีภาพประวัติเรื่องราว พร้อมคำบรรยายทั้งภาษาเมียนมาและภาษาอังกฤษ ภาพนี้เป็นไฮไลท์ คีเวิร์ดสำคัญของการมาไหว้สักการะเจดีย์เมียนมาเลยครับทุกคนภาพกองทหาร 1,000 คน "โบตะทาวน์" ซึ่งกลายเป็นชื่อของเจดีย์ เมื่อกษัตริย์มอญตั้งกองกำลังทหาร 1,000 คน เพื่อมาต้อนรับพระเกศาธาตุ 8 เส้นของพระพุทธเจ้าภาพที่ชายสามโบสถ์ตีความว่า ภาพขวาน่าจะเป็นเส้นพระเกศาพระพุทธเจ้าบรรจุอยู่ในครอบแก้วที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม ส่วนภาพซ้ายคือพระสารีริกธาตุ จำนวน 2 องค์ขนาดเท่าเมล็ดมัสตาร์ด ทั้งสองชิ้นถูกขุดพบในซากปรักหักพังที่ฝังจมดินโคลนขณะจัดสร้างเจดีย์โบตะทาวน์ขึ้นมาใหม่แทนองค์เดิมเจดีย์โบตะทาวน์ มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยว่า เจดีย์ทหาร 1,000 คน (โบแปลว่าทหาร ตะทาวน์แปลว่า 1,000) ในตำนานเก่าแก่มีประวัติมาว่า เมื่อครั้งพุทธกาล 2,500 ปีก่อนมีพี่น้องชาวเมียนมา 2 คนชื่อ ตปุสสะและภัลลิกะ ไปค้าขายในประเทศอินเดีย เมื่อจะเดินทางกลับ ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วทูลขอของที่ระลึกจากพระพุทธองค์ ท่านจึงดึงพระเกศาประทานให้พ่อค้า 2 คน อัญเชิญมาทางเรือแล้วมาขึ้นฝั่งที่เมืองตะเกิงหรือดากอง เมื่อ 2,000 ปีก่อน กษัตริย์มอญในสมัยนั้นจัดกองกำลังทหาร 1,000 คนต้อนรับ ได้อัญเชิญพระเกศาธาตุไว้ 1 เส้นและจัดสร้างเจดีย์โบตะทาวน์เพื่อบรรจุ ส่วนอื่นได้ไปเก็บไว้ที่เจดีย์ชเวดากองเจดีย์โบตะทาวน์ที่เห็นในปัจจุบัน สร้างขึ้นมาใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2486 เจดีย์องค์เดิมสร้างมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่ถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดของญี่ปุ่น แต่ทรัพย์สินมีค่ามากมาย และพระเกศา สารีริกธาตุพระพุทธเจ้า ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ จึงนำมาจัดแสดงภายในเจดีย์ที่สร้างขึ้นใหม่ ที่ออกแบบเป็นทางเดินคล้ายเขาวงกตภาพเขียนในเจดีย์แสดงให้เห็นถึงชาวเมียนมาช่วยกันขุดค้นจนพบสถูปที่บรรจุพระเกศาพระพุทธเจ้าสถูปหินที่ถูกค้นพบ มีถึง 2 ชั้น ก่อนจะถึง สถูปทองคำขนาดเล็ก ที่บรรจุกระบอกทองคำขนาดเล็กที่มีเส้นพระเกศาพระพุทธเจ้าบรรจุอยู่ภายใน ภาพนี้ชายสามโบสถ์ถ่ายจากตู้จัดแสดงที่อยู่ภายในเจดีย์โบตะทาวน์ สามารถเห็นกันได้เลยครับทุกคน เจดีย์โบตะทาวน์ องค์ดั้งเดิมมีอายุยืนยาวมาถึง 2,000 กว่าปี พังทลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเริ่มขุดค้นซากปรักหักพังด้วยความศักดิ์สิทธิของพระเกศาธาตุทำให้ค้นพบของมีค่า เครื่องเงินเครื่องทอง พระพุทธรูปต่างๆ มากมาย ที่จมอยู่ในดิน ได้ขุดค้นพบพระเกศาธาตุม้วนอยู่ในผอบอยู่ในสภาพสมบูรณ์อย่างไม่บุบสลายแม้จมอยู่ในโคลน ปัจจุบันโบราณวัตถุ ของมีค่าต่างๆ ได้จัดแสดงอยู่ภายในเจดีย์ที่มีลักษณะกลวง มีทางเดินคล้ายเขาวงกต สิ่งของต่างๆ จัดแสดงอยู่ในตู้กระจกระหว่างทางเดิน พร้อมพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกันนั้นมีภาพเขียนที่เป็นประวัติของเจดีย์โบตะทาวน์ มีคำบรรยายเป็นภาษาเมียนมาและภาษาอังกฤษสิ่งของมีค่าที่จัดแสดงอยู่ภายในเจดีย์โบตะทาวน์ ทุกชิ้นล้วนขุดได้จากเจดีย์โบตะทาวน์องค์เดิมเจดีย์โบตะทาวน์ นอกจากจะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิที่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเมียนมาไม่ว่าจะไปทริปหลายวัย หรือวันเดียวจะต้องแวะไปเคารพกราบไหว้นมัสการ แต่ยังมีอีกสองสิ่งศักดิ์สิทธิที่เป็นที่ศรัทธาของชาวเมียนมาและนักท่องเที่ยวสายมูชาวไทย นั่นคือ รูปปั้น โบโบจีนัต หรือเทพทันใจ และ เมียะนางนเวนัต (เมียะนานหน่วยนัต) ที่อยู่ในบริเวณเจดีย์โบตะทาวน์ ทั้งสองนัตมีความสำคัญอย่างไรกับองค์เจดีย์ ตามอ่านในข้อความต่อไปเลยครับทุกคนโบโบจีนัต หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่า เทพทันใจ เทพศักดิ์สิทธิที่สายมูศรัทธาในความศักสิทธิ ในตำนาน ท่านคือพ่อปู่ปราชญ์ชาวเมียนมา ที่ชี้ตำแหน่งสร้างเจดีย์โบตะทาวน์องค์เดิมเมื่อ 2,000 ปีก่อน ท่าที่ท่านยืนชี้นิ้วคือชี้ไปที่ตำแหน่งสร้างเจดีย์โบโบจีนัต เป็นพ่อปู่ที่ชาวเมียนมานับถือ คำว่านัตที่ต่อท้ายหมายถึง จิตวิญญาน เทพศักดิ์สิทธิ คนไทยตีความหมายโบโบจีนัต เป็นเทพทันใจ ที่บันดาลให้เกิดความสำเร็จโดยเฉพาะการอธิษฐานขอพรเพียงข้อเดียว หรือแม้กระทั่งการนำหน้าผากตัวเองไปสัมผัสปลายนิ้วขององค์เทพทันใจ แต่ในตำนานของชาวเมียนมา โบโบจีนัต เป็นปู่ทวดที่เป็นปราชญ์ ชี้แนะนำตำแหน่งที่สร้างเจดีย์โบตะทาวน์ ต่อมาได้สร้างรูปปั้นจำลอง เป็นท่าที่ท่านยืนชี้นิ้วไปในตำแหน่งที่สร้างเจดีย์ แล้วอันเชิญดวงวิญญาณท่านเพื่อมาเฝ้า เจดีย์ศักดิ์สิทธิ จนเป็นที่นิยมสร้างรูปปั้น โบโบจีนัต ทั่วสถานที่ศักดิ์สิทธิในเมียนมาและประเทศไทยเมียะนานหน่วยนัต หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่า เทพธิดากระซิบ (ชายสามโบสถ์เติมคำว่า ธิดา เพิมขึ้นให้ฟังดูนุ่มนวลขึ้น) สายมูเชื่อกันว่าขอพรจากเธอด้วยการกระซิบข้างหู จะได้รับพระจากเธอ แต่ในตำนานเธอเป็นเจ้าหญิงชาวไทยใหญ่ ที่บำเพ็ญเพียรไม่ทานเนื้อสัตว์ และมีส่วนสำคัญในการสร้างเจดีย์โบตะทาวน์ขึ้นมาใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากเมียนมาไ้ด้รับเอกราชจากอังกฤษเมียะนางนเว(เมียะนานหน่วย)นัต หรือเทพธิดากระซิบ ในตำนานของชาวเมียนมาคือเจ้าหญิงที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า เธอไม่บริโภคเนื้อสัตว์ตั้งแต่อายุยังน้อย จนลือกันว่าเธอเป็นธิดาพญานาค เล่ากันว่า โบโบจีนัต ไปเข้าฝันให้เธอมาบำเพ็ญเพียรที่เจดีย์โบตะทาวน์ เธอมีบทบาทในการก่อสร้างเจดีย์โบตะทาวน์ขึ้นมาใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ความเชื่อของคนไทยคือ เธอคือเทพธิดาองค์หนึ่งที่มีความศักดิ์สิทธิในการให้พรเมื่อไปยืนกระซิบข้างหูที่เป็นรูปปั้นของเธอ เมียะนานหน่วย มีชื่อเสียงในการขอให้ช่วยเหลือพี่สาวหรือน้องสาวพิกัด เจดีย์โบตะทาวน์ทางเข้าชมเจดีย์โบตะทาวน์ ทุกคนต้องเริ่มต้นเข้าทางนี้และเดินไปตามทางเดินเขาวงกตชมภาพและสิ่งของประดับเจดีย์องค์เก่า พระสารีลิกธาตุ และพระเกศาธาตุพระพุทธเจ้าเมียนม่ามีสิ่งที่น่าสนใจโดยเฉพาะสายมูไม่ควรพลาด มีสถานที่ศักดิ์สิทธิให้มูเยอะเลย แต่เจดีย์โบตะทาวน์แห่งนี้ ชายสามโบสถ์มีความประทับใจ มีความตื่นเต้นที่ได้ทราบประวัติความเป็นมาของเจดีย์ จากการได้เดินชมภาพเขียนที่ประดับทางเดินพร้อมคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ สิ่งของมีค่าต่างๆ ที่จัดแสดงรอบทางเดินเขาวงกตภายในเจดีย์อย่างไรก็ตามหากต้องการเข้าไปท่องเที่ยวประเทศเมียนม่าร์ เพื่อความสะดวกปลอดภัย จากสถานการณ์ปัจจุบันแนะนำให้ติดต่อผ่านบริษัททัวร์ชั้นนำ ที่มีใบประกอบธุรกิจนำเที่ยวอย่างถูกต้องนะครับขอบคุณ สมาคมสหพันธ์การท่องเที่ยวพม่า Union of Myanmar Travel Association ( UMTA) และ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว Thai Travel Agents Association (TTAA)ภาพประกอบคอนเทนท์ทุกภาพโดย ครีเอเตอร์ชายสามโบสถ์#ที่เที่ยวยอดนิยม #เที่ยวต่างประเทศ #เมียนมา #เทพทันใจ #เทพกระซิบ #โบโบจีนัต #เมียะนานหน่วยนัตเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !