"วัดพนัญเชิง" เป็นวัดสำคัญ ที่มีมาก่อน กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีไฮไลท์สำคัญคือหลวงพ่อโต หรือพระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูปสูงใหญ่ ที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวไทย-จีน ที่ตั้งรกรากอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา นอกเกาะเมือง ทั้งยังมีตำนานรักปรำปราของเจ้าสายน้ำผึ้งกับเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ที่เลื่องลือ และที่สำคัญที่นี่เป็นหนึ่งในวัดที่มีปลาเยอะมากทำให้ที่นี่เป็นจุดให้อาหารปลา ที่ผมชอบมากที่สุดตั้งแต่เที่ยวมาเลย ตามผมไปเที่ยวกันครับ วัดพนัญเชิงทริปเที่ยวอยุธยาน่าสนใจอื่นๆ5 พิกัดไหว้พระวันหยุดยาว รวมที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว อยุธยา เที่ยวกรุงเก่าแบบชิลล์ๆ"พระราชวังบางปะอิน" ชมความงามของศิลปกรรมไทย บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา OneDayTripsวัดพระงาม ประตูแห่งกาลเวลา อยุธยาหลังจากที่ห่างหายจากทริปเที่ยวมานาน ผมรู้สึกเบื่อๆจึงชวนแฟนออกนอกเมืองไปไหว้พระที่อยุธยาเสียหน่อย วัดที่ผมตั้งใจไป หนีไม่พ้นวัดพนัญเชิงวรวิหาร หรือวัดพนัญเชิง วัดนี้ผมจะแวะทุกครั้ง เพราะชอบให้อาหารปลา และที่เป็นพิเศษคือแฟนผมดูจะชอบมากกว่าผมเสียอีก เล่าชะยืดยาวผมขับรถมาถึงแล้วครับ วัดพนัญเชิง หากเพื่อนๆกลัวหลงผมปักหมุดไว้ให้ด้านล่างบทความแล้วครับสำหรับที่นี่ลานจอดรถค่อนข้างเยอะครับ แต่ผมแนะนำให้จอดด้านหน้าของพระวิหารเลยเดินใกล้ดี เมื่อลงจากรถจุดแรกที่ต้องเข้าไปคือกราบพระด้านหน้า โดยมีจุดบริการดอกไม้ธูปเทียน บริเวณทางขึ้นระหว่างพระอุโบสถและพระวิหาร หลังจากนั้นเดินขึ้นบันไดเตี้ยๆขึ้นไปยังโถงกลางระหว่างพระอุโบสถ และพระวิหาร มีพระพุทธรูปให้เพื่อนๆปิดทองกันก่อนจะเดินตรงต่อไปกราบหลวงพ่อโตกันหลวงพ่อโต พระพุทธไตรรัตนนายก พระเจ้าพนัญเชิง หรือ ซำปอกงมาถึงที่สำคัญที่ใครมาที่นี่แล้วไม่มาไหว้ขอพรท่าน อาจจะถือว่ามาไม่ถึงที่วัดพนัญเชิงแห่งนี้ คือหลวงพ่อโต หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ซำปอกง พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองปางมารวิชัย ศิปะแบบอู่ทองตอนปลาย ด้านหน้ามีพัดยศแบบพุ่มข้าวบิณฑ์ ซ้ายและขวามีพระอัครสาวกเฝ้าอยู่ ผมบอกเลยทุกครั้งที่ได้เข้าไปกราบท่านผมรู้สึกถึงความอลังการ ความยิ่งใหญ่ และความภาคภูมิใจ ที่บ้านเมืองเรามีอะไรที่ยิ่งใหญ่และงดงามแบบนี้ให้ได้ชมกันหลวงพ่อโต น่าจะเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาแต่สร้างกรุงศรี เพราะที่วัดมีประวัติการสร้างก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเสียอีก ผมเองเคยอ่าน "คำให้การชาวกรุงเก่า" มีเนื้อความที่ว่า ก่อนที่กรุงจะแตกนั้นเห็นหลวงพ่อโตมีน้ำตาไหลออกมาจากพระเนตร อย่างไรก็ตามทำให้เราได้รู้ว่ามีการตั้งรกรากของชุมชนก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา และที่สำคัญที่สุดคือการติดต่อค้าขายกับต่างชาติ เช่นจีนหลังจากกราบท่านเสร็จแล้วเดินวนทางขวาทางออกจะอยู่ด้านหลังของหลวงพ่อโตนะครับเพื่อนๆ ส่วนรอบๆจะมีพระพุทธรูปเก่าๆ ที่พบได้ในบริเวณนั้น ที่ผนังสังเกตดีๆจะมีการเจาะช่องบรรจุพระพุทธรูปไว้ พระพุทธรูปทองคำ ในพระอุโบสถเดินออกด้านหลังพระวิหารหลวงพ่อโต ย้อนกลับไปด้านหน้าวิหารระหว่างโถงกลางสังเกตใบเสมาครับ ตำแหน่งตรงนั้นคือล้อมเขตของพระอุโบสถ ซึ่งผมเองจะพาเพื่อนๆเข้าไปไหว้พระสำคัญกันด้านในครับ หาเจอแล้วเดินตามผมเข้ามาเลยด้านหน้าของพระอุโบสถมีหอพระตรงกลาง ประตูทางเข้าซ้าย-ขวา เดินเข้ามาด้านในพระอุโบสถเพื่อนๆจะเห็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย 3 องค์ ได้แก่ พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปปูน และพระพุทธรูปนาก รอบข้างเขียนจิตรกรรมฝาผนังไว้อย่างวิจิตร เรามาส่องรายละเอียดพระพุทธรูปกันดีกว่าครับพระพุทธรูปทองคำ เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย สังเกตจากพระพักตร์และพุทธลักษณะแบบสุโขทัย ทำจากทองสัมฤทธิ์ สีทองสดใสสะท้อนแสงไฟจนเห็นเด่นชัด อยู่ด้านซ้ายมือของเพื่อนๆ และองค์จะเล็กที่สุดใน 3 องค์พระพุทธรูปปูนปั้น เป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยา ทำจากปูนปั้น ลงรักปิดทอง องค์ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ตรงกลางพระพุทธรูปนาก เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย หน้าตักเท่ากับพระพุทธรูปทองคำ แต่สูงกว่านิดหน่อย องค์จะออกสีแดงค่อนข้างชัดเจน อยู่ด้านขวามือของเพื่อนๆว่ากันว่าพระพุทธรูปทองและพระพุทธรูปนาก แต่เคยถูกห่อหุ้มด้วยปูนปกปิดเนื้อในเอาไว้ เพราะเหตุผลหลายๆประการ เช่น ศึกสงคราม การเมือง หรือเหตุผลอื่นๆของคนสมัยนั้น เหมือนกับพระพุทธรูปสำคัญสำคัญ หลายองค์ในประเทศไทยเรา เมื่อกาลเวลาผ่านไป เนื้อในของพระพุทธรูปได้ถูกเผยออกมา ให้เราได้กราบไหว้ ได้ชมความงดงามของศิลปะอันล้ำค่าของไทยเราจวบจนปัจจุบันพระวิหารเซียนเดินออกมาจากพระอุโบสถ เพื่อนจะสังเกตเห็นพระวิหารเซียนซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ข้างๆกันกับพระอุโบสถ โดยภายนอกจะเหมือนกันกับพระอุโบสถ แต่ไม่มีใบเสมาล้อมรอบ เมื่อเดินเข้าไปด้านในของพระวิหารเซียน จะพบพระพุทธรูปปางค์มารวิชัย ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีสูง ด้านบนประดับฉัตร 7 ชั้น ที่เห็นจะแปลกตาคือจิตรกรรมฝาผนัง ที่เขียนลวดลายเป็นเครื่องถ้วยโถโอชาม แบบจีนไว้อย่างวิจิตร ให้ความรู้สึกอีกแบบอบ่างบอกไม่ถูกเลยครับตำนานรักเจ้าสายน้ำผึ้ง พระนางสร้อยดอกหมากเดินออกมาด้านล่างของกลุ่มพระวิหารจะ บริเวณริมแม่น้ำป่าสัก จะสังเกตเห็นอาคารลักษณะเป็นคล้ายๆศาลเจ้าจีน จุดนี้คือศาลพระนางสร้อยดอกหมาก ศาลที่มีเรื่องราวความรักที่จบแบบโศกอนาถกรรม ซึ่งมีตำนานมาตั้งแต่ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ตามตำนานกล่าวว่า พระเจ้ากรุงจีน มีพระธิดาที่มีพระสิริโฉมงดงามนามว่า "สร้อยดอกหมาก" ครั้นเติบโตเป็นสาวแรกรุ่นได้มีการมั่นหมายกับเจ้ากรุงอโยธยานามว่า "เจ้าสายน้ำผึ้ง" เจ้าสายน้ำผึ้งนั้นได้นำเรือพระที่นั่งไปรับพระนางสร้อยดอกหมากถึงกรุงจีน เมื่อเสด็จพากันกลับมาที่กรุงอโยธยา เจ้าสายน้ำผึ้งทรงให้พระนางสร้อยดอกหมาก ปักสมอสำเภารออยู่ที่บริเวณท่าน้ำบางกะจะ(หน้าวัดพนัญเชิงปัจจุบัน) หลังจากนั้นได้ทรงไปจัดเตรียมตำหนักไว้รออภิเษก จึงส่งเสนาอำมาตย์ชั้นผู้ใหญ่ออกไปรับ พระนางสร้อยดอกหมาก เมื่อเห็นดังนั้นพระนางก็ทรงน้อยเนื้อต่ำใจตัดพ้อต่างๆนา เป็นเหตุให้เจ้าสายน้ำผึ้งต้องเสด็จมารับด้วยพระองค์เอง เมื่อเสด็จมาถึงเจ้าสายน้ำผึ้งคิดว่าพระนางพูดเล่นจึงแกล้งสัพหยอกไปว่า หากไม่อยากไปก็ให้อยู่ที่นี่ พระนางสร้อยดอกหมาก ได้ฟังก็คิดว่าเจ้าสายน้ำผึ้ง พูดจริงจึงได้กลั้นใจตาย อยู่บนเรือสำเภานั่น หลังจากพระนางถึงแก่ความตาย เจ้าสายน้ำผึ้งทรงให้อัญเชิญพระศพลงมาทำพิธีพร้อมตั้งศาลไว้บริเวณนี้ เรื่องราวของพระนางสร้อยดอกหมาก กับ เจ้าสายน้ำผึ้ง อาจจะเป็นตำนาน ปรำปราที่อาจจะไม่มีเค้าโครงของความเป็นจริงอยู่บ้าง แต่เรื่องราวนี้จะแสดงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่าง ไทย-จีน ที่มีมาอย่างยาวนาน จวบจนปัจจุบันให้อาหารปลา ท่าน้ำวัดพนัญเชิง มาถึงสถานที่ที่ผมชอบมากและเป็นกิจกรรมที่ขาดไม่ได้คือการให้อาหารปลาบริเวณท่าน้ำวัดพนัญเชิง เมื่อเดินผ่านประตูกลุ่มวิหารออกมาบริเวณริมแม่น้ำป่าสัก เพื่อนๆจะเห็นทางเดินที่สามารถลงไปแพด้านล่างเหนือแม่น้ำครับเดินผ่านสะพานลงมาด้านล่าง จะเป็นแพ ด้านซ้ายมือจะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาด้านหน้าเพื่อนๆเป็นแม่น้ำป่าสัก ด้านบนแพมีซุ้มขายอาหารปลา และขนมปังตามแต่เพื่อนๆจะชอบใจกันครับ อ่อลืมบอกไปย้อนกลับไปตอนขับรถเข้ามาที่วัดเพื่อนๆจะเห็นซุ้มขายอาหารปลา ก็สามารถแวะซื้อเข้ามาให้ที่วัดได้เช่นกันครับแน่นอนครับปลาที่นี่ค่อนข้างเยอะ ถึงเยอะมาก ที่มากคือปลาสวายตัวใหญ่ๆ และปลาตะเพียนหางแดงตัวเล็กๆ ที่แหวกว่ายรอเพื่อนๆมาให้อาหารอยู่ครับพาเพื่อนๆเที่ยวทริปนี้หวังว่าเพื่อนๆน่าจะอิ่มบุญกับการไหว้พระ และให้อาหารปลาที่วัดพนัญเชิง พร้อมทั้งได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม ศิลปกรรม ไปด้วย ตอนนี้ผมขอชิลล์ๆกับการให้อาหารปลาก่อน พร้อมขอลาทริปนี้ไปเพียงเท่านี้ครับ พบกันทริปหน้า บ๊ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆภาพ : JaturongT.ออกแบบตกแต่ง : Canvaวัดพนัญเชิงวรวิหารที่อยู่ : วัดพนัญเชิงวรวิหาร ตำบล คลองสวนพลู อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000พิกัด : https://maps.app.goo.gl/baeKULNza3n9MrYz6โทรศัพท์: 035-243-867Facebook : วัดพนัญเชิงวรวิหารเวลาเข้าชม : 07.00-17.00 น.อัตราค่าเข้าชม : -อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !