สำหรับนักเดินทางขาลุยที่ลุยมาโดยตลอดอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับการนั่งรถไฟชั้น 3 แต่สำหรับคนที่ไม่เคยนั่งเส้นทางเดินรถแบบไกลๆ และยังนั่งชั้น 3 รวมถึงคนที่จองชั้นดีๆ ไม่ทันแต่ก็อยากเที่ยวจึงไม่อาจหนีจากตัวเลือกชั้น 3 ไปได้ และถ้ายังกังวลใจ ลังเลใจว่าตัดใจไม่ไปหรือไปๆ มันดูสักครั้ง ก็ลองมาอ่านรีวิวนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจกันก่อน วิธีการจองแบบออนไลน์ ปัจจุบันสามารถจองรถไฟผ่านทั้งแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยต้องทำการสมัครสมาชิก ใส่ข้อมูลชื่อนามสกุล บัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นให้เลือกต้นทางและปลายทาง เลือกวันที่ เลือกจำนวนผู้โดยสาร และกดค้นหาขบวนรถไฟ หน้าเว็บจะประมวลผลขบวนรถไฟที่วิ่ง ให้เราคลิกเลือกขบวนที่จะไป แล้วไปเลือกชั้นของรถไฟ หากชั้นไหนเต็มแล้วมันจะไม่สามารถเลือกได้ เมื่อได้ชั้นที่ประสงค์นั่งแล้วก็เลือกที่นั่ง จากนั้นก็ไปหน้าชำระเงิน ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะชำระทันทีเลย หรือไปชำระที่สถานี สำหรับตัวเลือกชำระที่สถานีท่านจะต้องชำระในวันถัดไป หากไม่ไปชำระระบบจะทำการยกเลิกตั๋วอัตโนมัติค่ะ ทริคการจองและเลือกที่นั่ง ในชั้น 3 ทำไมต้องบอกทริคเลือกที่นั่ง... สารภาพว่าเคยจองแบบไม่คิดอะไรจิ้มๆ ไปเลย แล้วครั้งนั้นไปกับเพื่อนปรากฎว่าที่นั่งมันละคู่ เพราะอยากจะนั่งริมหน้าต่างกันทั้งคู่เลยไม่เลือกที่นั่งข้างกันแต่แทนที่ที่นั่งจะอยู่ตรงข้ามกันหันหน้าเข้าหากัน ความจิ้มที่นั่งไปแบบไม่คิดเลยได้นั่งหันหลังชนกัน เลยไม่ได้คุยกันเลยตลอดการเดินทาง ดังนั้นเราจึงมาบอกทริคเล็กๆ น้อยๆ แต่อาจจะช่วยให้การเดินทางด้วยรถไฟชั้น 3 ของคุณไม่ทำให้คุณทรมานมากนัก 1. ถ้าอยากนั่งหันไปในทางเดียวกับเส้นทางเดินรถ ให้ดูว่าหัวขบวนอยู่ฝั่งไหน โดยสังเกตหน้าเว็บตอนเลือกที่นั่งมันจะมีลูกศรปรากฏว่าหัวขบวนอยู่ทางไหน และจำไว้เสมอว่าชั้น 3 ที่นั่งติดห้องน้ำ ( ฝั่งหัวขบวน ) จะหันหลังให้ห้องน้ำซึ่งจะหันหลังให้เส้นทางเดินรถด้วย แถวต่อมาจะตรงกันข้าม และสลับสับหว่างไปเรื่อยๆ หากเรานับถูกเราก็จะจองได้ที่นั่งตรงใจเรา และอยู่ด้วยกันกับเพื่อนร่วมทริป 2. พัดลมมีแบบสลับคู่ที่นั่ง โดยเริ่มจากคู่ที่นั่งที่ติดห้องน้ำเป็นคู่แรกและสลับไปเรื่อยๆ ( ดังภาพที่แนบมา ) แม้จะไปเชียงใหม่และแม้ว่าจะเดินทางตอนกลางคืนที่คุณอาจจะคิดว่ามันไม่น่าจะร้อน แต่ในการเดินทางเราเลือกคนที่จะนั่งไปกับเราไม่ได้ เราและเพื่อนไม่หนาวแต่คนอื่นอาจจะหนาวและทำการปิดหน้าต่าง และบอกเลยว่าหากปิดหน้าต่างมันจะอบทันที ไม่มีลมแถมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทั้งร้อนทั้งหายใจไม่สะดวกเลยค่ะ ทริปที่ผู้เขียนไปมาล่าสุดนั้นที่นั่งข้างๆ มีคนหนาวและปิดหน้าต่าง ทำเอาชาวต่างชาติที่นั่งตรงนั้นถึงกับปลดกระดุมเสื้อและขอมานั่งฝั่งผู้เขียนเป็นครั้งคราวเลย ดังนั้นถ้าเรานั่งตรงที่มีพัดลมแล้วเกิดมีการขอปิดหน้าต่างขึ้นมา คุณก็จะยังมีพัดลมช่วยบรรเทาความร้อนอยู่ รีวิวบรรยากาศบนขบวน ส่วนตัวรู้สึกว่าขบวนก็ไม่ได้แย่มาก สำหรับผู้เขียนรู้สึกว่ามันก็นั่งไปได้ และนอนได้นะถ้าไม่มีคนมานั่งข้างๆ ถ้าเราเดินทางวันธรรมดามันก็มีโอกาสที่คนจะไม่แน่นแล้วมันก็จะมีพื้นที่เหลือให้เราสามารถเหยียดขาไปข้างๆ ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าที่นั่งข้างมันจะว่างหรือป่าวด้วย เรื่องอาหารไม่ต้องห่วงมีขึ้นมาขายเรื่อยๆ ยกเว้นช่วงดึกๆ และจะมาขายอีกที่ช่วงเช้ามืด ทางด้านอากาศอย่างที่บอกว่าตอนกลางคืนมันไม่ร้อน ถ้าเปิดหน้าต่างหมดเข้าขั้นหนาวเลยแหละแต่ถ้าปิดหน้าต่างหมดก็คืออีกเรื่องหนึ่งเลยเช่นกันส่วนที่ไม่ประทับใจในขบวนที่ไปคือ "น้ำห้องน้ำไม่ไหลค่ะ" ปกติมันจะต้องมีน้ำไหลทั้งน้ำจากสายฉีดชำระและน้ำสำหรับกดทำความสะอาดตัวชักโครก หากเป็นแค่สายฉีดชำระใช้ไม่ได้เรายังพอใช้ทิชชู่เปียกหรือทิชชู่ธรรมดาเช็คทำความสะอาดได้ แต่นี้คือน้ำล้างชักโครกมันก็ไม่ไหล แล้วมันก็เหมือนเราต้องไปปลดปล่อยสะสมทับถมกับของๆ คนอื่นๆ ขบวนที่ผู้เขียนไปคือขบวน 51 เที่ยว 22.00 น. ถึงเชียงใหม่ประมาณเที่ยงๆ ค่ะ อย่างอื่นสำหรับผู้เขียนคือไม่มีปัญหาอะไร รับได้หมด ยกเว้นเรื่องห้องน้ำเรื่องเดียวที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไร ก็หวังว่าเขาจะแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วนะ ส่วนขบวนขากลับเชียงใหม่ - กรุงเทพมีน้ำไหลปกติ ทั้งสายฉีดชำระและน้ำทำความสะอาดชักโครกก็ถือว่าโอเคอยู่เอาล่ะค่ะ ชั้น 3 มันก็ไม่ได้แย่ ขึ้นอยู่กับว่าขบวนที่เราไปจะมีแจ็คพอร์ตอะไรแถมให้หรือไม่ ถ้าโชคดีไม่เจอแจ็คพอร์ตแปลกๆ มันก็จะแฮปปี้ตลอดเส้นทางการเดินทาง สุดท้ายนี้หากใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลยนะคะ หรือถ้าอยากติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามกันได้ที่Facebook : แบกกล้องชิวเที่ยวไปเรื่อยYouTube : I Tell You TryIG : i_am_solo_traveler_เรียบเรียงเนื้อหาและภาพโดยหญิงเถื่อนวันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !