ช่วงนี้จอร์เจียกำลังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตมากในประเทศไทย เปิดดูในเฟซบุ๊คก็มีแต่รูปสวยๆ ขึ้นมาเต็มไปหมด ยั่วกิเลสแบบสุดๆ และเพราะฟรีวีซ่าสำหรับประเทศไทยด้วยจึงง่ายต่อการไปเที่ยวมากแค่มีพาสปอร์ตเล่มเดียวก็เที่ยวได้แล้ว เย้ๆ แต่ตอนช่วงที่ผู้เขียนไปยังไม่มีบินตรงไปถึงจอร์เจีย ดังนั้นจึงต้องไปต่อเครื่อง นั่งกันยาวๆ เลยค่ะ หลังจากที่ทนกับกิเลสไม่ไหวผู้เขียนก็ทำการจองทัวร์ไปจอร์เจียทันทีช่วงปลายเดือนตุลาคม 2562 โดยบินไปกับสายการบินยูเครนแอร์ไลน์ ใช้เวลาบินไปลงที่สนามบินยูเครนเป็นเวลา 12 ชม. แล้วต่อเครื่องจากยูเครนย้อนกลับมาที่สนามบินเมืองทบิลิซี ประเทศจอร์เจียอีก 6 ชม. เวลาที่จอร์เจียช้ากว่าไทย 3 ชม. แต่ได้ข่าวว่าช่วงปลายปี 2562 มีบินตรงไปยังประเทศจอร์เจียแล้วนะคะ สบายขึ้นหน่อยไม่ต้องนั่งเครื่องย้อนไปย้อนมาเหมือนผู้เขียน (เศร้าจัง) ประเทศจอร์เจีย ในอดีตเคยเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต อยู่ทางตะวันออกของทะเลดำในคอเคซัส มีเมืองหลวงชื่อว่า กรุมทบิลิซี ใช้ภาษาจอร์เจียเป็นภาษาหลักและยังเป็นภาษาเก่าแก่ที่สุดในโลก ตามสถานที่ท่องเที่ยวสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ ในประเทศจอร์เจียส่วนใหญ่นัยถือศาสนาคริสต์ นิกายออโทด็อกซ์ จึงทำให้มีโบสถ์และวิหารที่เก่าแก่และยังคงสภาพสวยงามไว้ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมค่ะ ตัวผู้เขียนประทับใจตอนเดินทางไปเทือกเขาคอเคซัสมากค่ะ อากาศเย็นสบาย สดชื่น แถมวิวก็สวยมากๆ ด้วย ช่วงที่ผู้เขียนไปคือช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน เป็นฤดูใบไม้ร่วง อากาศกำลังเย็นสบายไม่หนาวมาก อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 5-17 องศา ระหว่างเดินไปชมความสวยงามของเทือกเขาคอเคซัสที่เมืองคาซเบกี (Kazbegi) ได้แวะชมที่ป้อมอนานูรี (Ananuri Fortresd) ป้อมอนานูรี เป็นสถานที่อันเก่าแก่มีกำแพงล้อมรอบและตั้งอยู่ริมแม่น้ำอรักวี เป็นป้อมปราการในศตวรรษที่ 16-17 ภายในยังมีโบสถ์อยู่ 2 หลังตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามสามารถมองเห็นความสวยงามของเบื้องล่างได้ หลังจากแวะชมกันที่ป้อมอนานูรีแล้วก็เดินทางไปสู่เมืองคาซเบกี (Kazbegi) เมืองนี้ตั้งอยู่บนความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 1740 เมตร ทำให้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวติดลบถึง 5 องศา เมื่อมาถึงแล้วจะเปลี่ยนเป็นนั่งรถจิ๊ป 4WD เพราะเส้นทางค่อนข้างชันและคดเคี้ยวต้องใช้รถคันเล็กและคนในท้องถิ่นที่ชำนาญทางพาขึ้นไปเพื่อชมวิวอันสวยงามด้านบนและโบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) ข้างบนนี้โบสถ์นี้สามารถชมวิวได้ 360 องศา อากาศกำลังเย็นสบายแต่มีฝุ่นค่อนข้างมาก ถ้าใครได้ขึ้นไปอย่าลืมเช็คอากาศและนำผ้าปิดจมูกขึ้นไปเผื่อด้วยนะคะ ในส่วนของอาหาร อาหารของประเทศจอร์เจียอร่อยและกินง่ายส่วนใหญ่จะเป็นผัก ชีส ไก่ ปลาและหมูย่าง ใช้เวลาในการกินอาหารต้องเผื่อเวลาไว้สัก1-2 ชม. เพราะทำอาหารสดใหม่ ที่นี้จะเสิร์ฟไวน์แดงกับน้ำเลมอนเนดทุกมื้อค่ะ การเดินทางถ้ามากันหลายสามารถเหมาทัวร์ท้องถิ่นได้ค่ะ หรือจะเหมาทัวร์จากประเทศไทยไปเหมือนผู้เขียนก็ได้ สกุลเงินของประเทศจอร์เจียใช้สกุลเงิน จอร์เจียน ลารี (Georgian Lari หรือ GEL) นำเงินสกุลดอลล่าร์หรือยูโรมาแลกเป็นเงินลารีได้ที่สนามบินนะคะ เรทดีที่สุด 1 ลารีประมาณ 11-13 บาท ขึ้นอยู่กับค่าเงินดอลล่าร์หรือยูโรในขณะนั้น ด้านอินเตอร์เน็ตหรือ Wifi สามารถซื้อได้ที่ประเทศจอร์เจียหรือเล่น Wifi ฟรีที่โรงแรมค่ะ ภูมิอากาศของประเทศจอร์เจียผู้เขียนสรุปให้ในแต่ล่ะฤดูกาลเผื่อท่านใดสนใจและอยากไปประเทศจอร์เจียร์จะได้ตัดสินใจถูกว่าควรไปช่วงไหนดี แต่ล่ะช่วงถ่ายรูปสวยแตกต่างกันไปค่ะ ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงเดือนมีนาคม ถึง เดือนเมษายน อากาศเย็นสบาย บางวันค่อนข้างหนาว ฤดูร้อน ช่วงเดือนพฤกษภาคม ถึง เดือนกันยายน อากาศเย็นค่อนข้างอบอุ่น ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเดือนตุลาคม ถึง เดือนพฤศจิกายน อากาศเย็นค่อนข้างหนาว อาจจะมีฝนตกบ้างเป็นบางวัน ฤดูหนาว ช่วงเดือนธันวาคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์ อากาศหนาวมาก ท่านใดที่เบื่อๆ ก็ลองเปลี่ยนมาเที่ยวที่ประเทศจอร์เจียกันนะคะ บรรยากาศดีสวยงามไม่แพ้กัน ผู้คนก็อัธยาศัยดี ราคาสินค้าก็ไม่แพงที่สำคัญฟรีวีซ่าด้วยค่ะ ลองมาเที่ยวกันดูนะคะ เครดิตภาพประกอบทั้งหมดโดย pudploy (ผู้เขียน)