นานมาแล้วที่ได้อ่านวรรณกรรมรางวัลซีไรต์ปีพ.ศ.2534 เรื่องเจ้าจันท์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน ของศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ มาลา คำจันทร์ ในเรื่องคือเจ้าจันท์เดินทางผ่านป่าดงเพื่อไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน ในเรื่องราววรรณกรรมเล่มนี้มีความงดงามด้วยภาษา มีกลิ่นอายล้านนา ดำเนินเรื่องไปกับความซับซ้อนกดดันในจิตใจของตัวละคร ได้อ่านแล้วประทับใจ และอีกสิ่งหนึ่งที่จดจำก็คือพระธาตุอินทร์แขวน จุดหมายอันเป็นปรัชญา ที่ต้องหาโอกาสไปสักครั้ง พอมาถึงวันที่ได้มาพม่าได้มายังพระธาตุอินทร์แขวน การเดินทางมาเริ่มต้นที่เมืองย่างกุ้ง ด้วยการเหมารถแท็กซี่ จากย่างกุ้งต้องผ่านเมืองหงสาวดี ข้ามแม่น้ำสะโตง แม่น้ำสายใหญ่ที่ความกว้างจากฝั่งหนึ่งถึงฝั่งหนึ่งถึง 3 กิโลเมตร ตรงนี้เป็นจุดสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย มีอยู่ตอนหนึ่งได้เอ่ยไว้ว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ยิงพระแสงปืนข้ามลำน้ำสะโตง จากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งถูกแม่ทัพพม่าเสียชีวิต พระแสงปืนกระบอกนี้จึงได้ถูกขนานนามว่าพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง การขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนทางรถยนต์และนั่งเสลี่ยง ปัจจุบันแม้ว่าการขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนจะมีเคเบิลคาร์ขึ้นภูเขา แต่การขึ้นเขาแบบเดิมก็ไม่ได้หายไป ทั้งการนั่งกระบะท้ายรถ นั่งเสลี่ยง หรือการเดินเท้าขึ้นมา เพราะจุดที่เคเบิลคาร์พาขึ้นมา จะต้องเดินเท้าต่ออีกพักใหญ่ หากเทียบกันคนที่มาทางรถ สามารถจะขึ้นมาได้ใกล้กว่า พระธาตุอินทร์แขวนอยู่บริเวณยอดเขาตรงชะง่อนผา ระดับความสูง 1100 เมตรจากระดับน้ำทะเล คนพม่าเรียกไจที่โย่ อยู่ในเขตรัฐมอญ ถนนทางขึ้นไปบนดอยคล้ายกับดอยสุเทพ รถที่ขึ้นไปบางคนเรียกว่ารถขนหมู การนั่งจะนั่งไปบนไม้กระดานขนาดฝ่ามือ ผู้โดยสารที่นั่งจะนั่งตัวติดกัน คล้ายกับช่วยพยุงกันไว้ไม่ให้ร่วงลงไปจากรถ มีความลำบากอยู่บ้างเวลารถเบรคตอนขึ้นเนินเลี้ยวซ้ายขวา ต้องระวังหัวเข่าจะไปกระแทกกับไม้ข้างหน้า ก็นั่งจนเมื่อยก้นพอดู ดีตรงที่อากาศเย็นสบาย แบบนั่งรถเปิดประทุน หากว่าเป็นนักท่องเที่ยวเขาจะให้ลงจากรถก่อนที่จะไปถึงที่หมายคือ บริเวณลานบนภูเขาพระธาตุอินทร์แขวน เพื่อให้เดินผ่านบริเวณร้านขายของของชาวบ้านในชุมชนใกล้ ๆ นั้น แต่พอดีก่อนนี้มีคนพม่าแนะนำว่า นักท่องเที่ยวที่หน้าตาคล้าย ๆ คนท้องถิ่นอย่างพวกเรา สามารถที่จะปะปนขึ้นไปจนถึงที่หมายในสถานีปลายทางที่จะเดินน้อยที่สุดได้เลย เวลาเขาให้ลงจึงนั่งเฉยเนียนไป ลานกว้างบนภูเขาของพระธาตุอินทร์แขวน แล้วรถก็ขึ้นไปจนถึงปลายทาง เรียกได้ว่าแทบจะขึ้นบันไดไปบริเวณลานพระธาตุอินทร์แขวนกันเลย ช่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ว่าทำไมความเจริญ จึงมาอยู่บนภูเขา ห่างไกลจากตัวเมืองขนาดนี้ มีทั้งโรงแรมที่พัก มีแสงไฟมลังเมลือง ซึ่งแสงไฟสว่างไสวนี้จะอยู่ไปตลอดทั้งคืน แน่นอนว่าไฟฟ้าทั้งหมดจะต้องเป็นการใช้เครื่องปั่นไฟ แล้วข้างบนนี้ก็มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ด้วย แล้วก็ได้เห็นว่าพระธาตุอินทร์แขวนแบบในนวนิยายกับพระธาตุอินทร์แขวนที่เห็นอยู่ไกล ๆ อย่างตอนนี้ช่างไม่เหมือนกันเลย ในจินตนาการของนวนิยายเป็นการบุกป่าฝ่าดง มีความเป็นป่าอย่างแท้จริง แต่พระธาตุอินทร์แขวนที่เห็นอยู่ ด้านบนเป็นลานกว้างบนภูเขาประหนึ่งเป็นเมืองอีกเมืองหนึ่ง มองเห็นองค์พระธาตุอินทร์แขวนสีทองเหลืองอร่ามชัดเจนแต่ไกล สวยงามทั้งเวลากลางคืนและในยามเช้า องค์พระธาตุประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า มีผู้คนมากมายจากทั่วสารทิศขึ้นมาสักการะกราบไหว้ด้วยความศรัทธา บางคนนอนค้างบนลานของพระธาตุ ในเวลายามเย็น ลมข้างบนนี้จะค่อนข้างแรง อากาศในช่วงเดือนธันวาคมค่อนข้างหนาวทีเดียว พระธาตุอินทร์แขวนเวลากลางคืน การถอดรองเท้าเข้าไปในบริเวณวัดและเจดีย์ของพม่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องกระทำอย่างเคร่งครัด พื้นที่ของพระธาตุอินทร์แขวนก็เช่นเดียวกัน เราต้องถอดรองเท้าตั้งแต่ตรงบันไดทางขึ้น ซึ่งต้องเดินไกลอีกนับกิโลกว่าจะถึงองค์พระธาตุอินทร์แขวน เท้าของเราอาจจะรู้สึกว่าเลอะไปหมด แต่สักพักเราก็จะเคยชินเมื่อเห็นว่าทุกคนก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน บริเวณใกล้องค์พระธาตุอินทร์แขวน เขาไม่ให้ผู้หญิงเข้าไปปิดทอง จะมีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่ไปยืนปิดทองได้ แต่พื้นที่ที่เขากันไว้ก็ไม่มากนัก ถึงเป็นผู้หญิงไม่ได้เข้าไปใกล้ชิด ก็สามารถมองเห็นส่วนยอดทองคำของพระธาตุที่ครอบอยู่บนก้อนหินสีทองได้ชัดเจน อีกทั้งยังได้เห็นความอัศจรรย์ใจของการลอยแขวนเหนือพื้นของก้อนหินองค์พระธาตุได้ชัดเจน การมาที่นี่แม้ว่าจะเป็นช่วงที่คนเยอะ แต่จุดหมายทุกคนมีศูนย์รวมที่เดียวกัน เราจึงเห็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันในทุกช่วงเวลา บางคนมานั่งสวดมนต์ยาว ๆ ท่ามกลางสายลมเย็นพัดผ่าน บางคนมาปิดทองเพื่อเป็นสิริมงคล บางคนมาเพื่ออธิษฐานแบบเจ้าจันท์ ไม่ว่าแต่ละคนจะมาด้วยความมุ่งหมายใด จะสมหวังดังใจหรือไม่ แต่เชื่อว่าสิ่งที่ผู้ศรัทธาได้รับก็คือความปิติยินดีและความทรงจำที่ดีต่อสายลมเย็น ๆ ของกาลเวลาที่ได้มีโอกาสเห็นองค์พระธาตุอินทร์แขวนสถิตอยู่ตรงนี้