ปีใหม่ทั้งทีมีที่เที่ยวกันรึยังคะเพื่อนๆ ปลายเดือนธันวาคม จนถึงต้นเดือนมกราคม เป็นช่วงที่อากาศกำลังดีสุด ๆ ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้เหมาะสำหรับการออกไปเที่ยวผ่อนคลายจากงาน หรือ การเรียน วันนี้ซาเนียมีที่เที่ยว ที่ซาเนียเคยไปเที่ยวแล้วอยากจะมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ชื่นชมกับบรรยากาศสบายๆ นั่นก็คือ เบตง เบตงเป็นภาษามลายู แปลว่าไม้ไผ่ เดิมเรียกว่าอำเภอระยม ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2441 เป็นดินแดนภายใต้การปกครองดูแลของชนชาติไทยในยุคขยายอิธิพลและครอบครอง แล้วคุณจะรู้ว่า จ.ยะลา ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มีความสดชื่นรออยู่ ไปเที่ยวกันเลยจ้ากับทริป " ปลายฝนต้นหนาวชมหมอกเบตง " แวะถ่ายรูปที่แรกของทริป " ปลายฝนต้นหนาวชมหมอกเบตง DAY 1 " คือ สะพานข้ามทะเลสาบป่าฮาลา-บาลา สะพานแห่งนี้เป็นเส้นทางสัญจรหลักสู่เมืองเบตงและยังเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งบรรยากาศดีมาก ลมพัดเย็นสบายแต่พวกเราแวะถ่ายรูปตอนกลางวันก็แอบร้อนนิดหน่อยจ้า สะพานข้ามทะเลสาบป่าฮาลา-บาลา สถานที่เที่ยวต่อไปคือ พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 น. - 16.30 น จัดตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2548 เพื่อให้ท้องถิ่นได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมของคนในพื้นที่มากขึ้น พิพิธภัณฑ์เบตง มี 3 ชั้น โดยส่วนของการจัดแสดงมี 2 ชั้น ซึ่งชั้นล่างเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยเก่า เช่น ถ้วยชาม เครื่องเคลือบ ตู้ เตียง ตะเกียงเก่า โดยนำมาจัดแสดงไว้ในตู้ไม้กระจกใส ตั้งอยู่หน้าบันไดทางขึ้น ส่วนชั้นที่ 2 มีการจัดแสดงรูปเก่า ๆ หนังสือพิมพ์ประวัติความเป็นมา โดยแขวนไว้บนฝาผนังของห้อง และมีการติดบอร์ดแสดงแหล่งข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของอำเภอเบตง นอกจากนี้ชั้นที่ 3 ยังเป็นหอคอยชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองเบตงทั้งเมืองได้ (ข้อมูลจาก: เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ) พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง หลังจากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางไปกันต่อที่ ป้าย เบตง ใต้สุดแดนสยาม เมืองงามชายแดน ใครที่มาเบตงแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปที่นี่ถือว่ายังมาไม่ถึงนะคะ ว่าแล้วก็ขอถ่ายสักรูป แชะๆ ป้าย เบตง ใต้สุดแดนสยาม เมืองงามชายแดน นอกจากป้ายนี้แล้วบริเวณนี้จะมีจุดถ่ายรูปไกล้ๆกันคือ รูปปั้นไก่เบตง ไก่เบตงใหญ่ยักษ์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของอำเภอเบตงนั่นเอง ห้ามพลาดไปถ่ายรูปเลยนะคะ รูปปั้นไก่เบตง เดินไปตรงข้ามอีกหน่อย ก็จะเจอสถานที่สุดชิค ที่ใครมาเบตงก็ต้องเช็คอิน นั่นคือ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของประเทศไทย ภายในอุโมงค์มีการตกแต่งติดไฟอย่างสวยงาม ยิ่งค่ำๆยิ่งสวยมากๆ เลยจ้า อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เมื่อถ่ายรูปจนพอใจแล้วพวกเราก็ออกเดินทางไปเที่ยวที่ หมู่บ้านปิยะมิตร ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปกับ ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซะหน่อย ไม่ได้มีดีแค่ขนาดใหญ่นะคะ แต่ยังสามารถส่งจดหมายได้จริงด้วยจ้า ตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และแล้วก็มาถึง หมู่บ้านปิยะมิตร ภายในเป็นห้องโถงพิพิธภัณฑ์ มีอุโมงค์ปิยมิตร เป็นอุโมงค์ที่มีลักษณะคดเคี้ยว ต้องเดินไกลมากกว่าจะวนมาทางออก แต่ก็สนุกมากเช่นกันได้ชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่กว่าหลายร้อยปีอีกด้วย หมู่บ้านปิยะมิตร เวลาเย็นมากแล้ว ต้องไปเข้าชม สวนหมื่นบุปผา ก่อนสวนปิด ด้านในมีดอกไม้นานาพันธ์บานสะพรั่ง ความสวยงามของดอกไม้เมืองหนาวที่ปลูกเรียงรายเป็นทิวแถว สีสันสวยงามเย้ายวนให้เดินเที่ยวชม สัมผัสกับสภาพภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าพื้นที่อื่นของภาคใต้ พวกเราได้เดินเที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เวลาประมาณ 18.00 น. ฟ้าก็มืด สวนหมื่นบุปผา มาเที่ยวทั้งทีก็ต้องเที่ยวให้คุ้มกับเวลาที่มีจำกัดให้มากที่สุด ไปหลายที่เลยวันนี้จบด้วยถึงที่พักเวลาประมาณเกือบ 3 ทุ่ม พวกเราพักกันที่นี่ค่ะ บ่อน้ำร้อน รีสอร์ท & สปา จัดแจงเสื้อผ้าอาบน้ำ ออกไปทานข้าวได้นอนเกือบเที่ยงคืน วันนี้เหนื่อยมากเลยฝันดีค่ะทุกคน อย่าลืมติดตามกันต่อนะคะ กับทริป ( ปลายฝนต้นหนาวชมหมอกเบตง DAY 2 ) ฉันจะพาทุกคนไปชมหมอกกันแล้วน้า