วันนี้เราจะไปเที่ยวทิพย์กันที่ "อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน" ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง หลายคนเคยไปเที่ยวแล้วและคงยังคิดถึงบรรยากาศที่มีทั้งความอบอุ่นและความชุ่มฉ่ำในสถานที่เดียวกัน เพราะในบริเวณพื้นที่อุทยานฯนั้นมีทั้งส่วนที่เป็นลานน้ำพุร้อน มีลักษณะเป็นธารน้ำแร่ที่เต็มไปด้วยโขดหินธรรมชาติแทรกกลางแอ่งน้ำร้อน หากมาเที่ยวในช่วงเช้า ยามแสงส่องลงมายังบ่อน้ำร้อน คล้ายมีไอหมอกปกคลุม โรแมนติกชวนฝันมาก สำหรับกิจกรรมที่ต้องห้ามพลาดเลยนั่นก็คือ "การลวกไข่น้ำแร่" ซึ่งบ่อน้ำแร่มีอุณหภูมิ 70-80 องศาเซลเซียส สามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน 15 นาที ซึ่งไข่ที่ลวกสุกแล้วจะมีลักษณะ "ไข่ขาวเหลว ไข่แดงแข็ง" แตกต่างจากการลวกหรือต้มไข่ทั่วไปที่ไข่ขาวจะแข็งไข่แดงจะเหลว แถมยังให้รสชาติที่หอม อร่อยกลมกล่อมอีกด้วย สามารถเลือกทานเปล่าๆ ทานคู่กับซอสแมกกี้ ใส่ในข้าวต้มหรือโจ๊ก ทานกับน้ำเต้าหู้หรือกาแฟยามเช้าก็ได้ หรือนำมาทำเมนูสุดฮิตขึ้นชื่อของที่นี่ นั่นคือ "ยำไข่น้ำแร่" เมื่อได้ทานแล้วมักจะติดใจในรสชาติความอร่อย ก่อนกลับก็ไม่พลาดที่จะลวกไปไว้ทานต่อที่บ้านหรือเป็นของฝากให้กับญาติ เพื่อน หรือคนรู้จัก ซึ่งสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานเป็นเดือน ภาพประกอบ (ภาพที่1) โดยผู้เขียน ภาพประกอบ (ภาพที่2) โดยผู้เขียน ภาพประกอบ (ภาพที่3) โดยผู้เขียน ภาพประกอบ (ภาพที่4) โดยผู้เขียน นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ "การอาบหรือแช่น้ำแร่" ซึ่งทางอุทยานฯ ได้สร้างห้องอาบน้ำแร่ขึ้นอย่างได้มาตรฐาน เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวรวมทั้งคนในพื้นที่เอง สามารถมาใช้บริการกันได้ มีทั้งแบบห้องส่วนตัวและห้องรวม ซึ่งประโยชน์ของการอาบน้ำแร่คือ 1. ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า 2. ช่วยระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น 3. ช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิด เช่น กลาก เกลื้อน ผื่นคัน หลายคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อแช่น้ำแร่ เพราะเชื่อว่าช่วยให้คลายจากอาการปวดข้อกระดูกได้ แต่น้ำจากบ่อน้ำแร่ที่นี่ ไม่สามารถนำมาดื่มได้ เพราะมีแร่ธาตุบางชนิดสูงกว่ามาตรฐาน ภาพประกอบ (ภาพที่5) โดยผู้เขียน แต่หากว่าไม่อยากลงไปแช่ทั้งตัว ในส่วนด้านนอกก็มีบ่อไว้สำหรับนั่งแช่เท้า เหมาะมากสำหรับการนั่งผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยอุณหภูมิที่กำลังพอดีของน้ำแร่ในบ่อ ภาพประกอบ (ภาพที่6) โดยผู้เขียน ไม่ไกลจากบ่อน้ำพุร้อน เป็นบริเวณของน้ำตกแจ้ซ้อน มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแอ่งรองรับน้ำตลอดสาย ไหลตกลงมาเป็นชั้นๆ มี 6 ชั้น มีบันไดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นไปถ่ายรูปและชื่นชมความงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติสายน้ำแต่ละชั้นอย่างสะดวก ระยะทางห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กิโลเมตร มีทางเดินสะดวก สามารถเดินขึ้นไปหรือใช้รถยนต์ขับขึ้นไปก็ได้ ภาพประกอบ (ภาพที่7) โดยผู้เขียน ภาพประกอบ (ภาพที่8,ภาพที่9) โดยผู้เขียน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับในความทรงจำของใครหลายคน แม้ในขณะนี้เราจะยังไม่สามารถไปเยือนได้ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักทั่วทุกพื้นที่ ทำให้ทางอุทยานฯต้องปิดทำการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของทุกคน แต่เชื่อแน่ว่าเมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จะได้กลับมาต้อนรับ มอบความสุข ความอบอุ่น ความชุ่มฉ่ำให้กับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง...แล้วเราจะพบกันเมื่อวันนั้นมาถึง ภาพปกและภาพประกอบสวยๆ โดย ผู้เขียน วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !