เชื่อว่า “บาหลี” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะได้ลองไปสักครั้ง แต่ถ้าคุณเป็นสายลุยเดี่ยว การเช่ารถยนต์นั้นอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงเกินงบ วันนี้จะลองพาไปดูอีกทางเลือกคือการเช่ารถมอเตอร์ไซด์เพื่อเที่ยวในบาหลีกันครับ ด้วยความที่เกาะบาหลีมีขนาดประมาณ 5,700 ตารางกิโลเมตร (ใหญ่ประมาณสิบเท่าของเกาะภูเก็ต) การแว๊นซ์มอเตอร์ไซด์ไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถเลยครับ และการเช่ามอเตอร์ไซด์มีหลายทางเลือก เช่นการเช่าตามร้านข้างทาง แต่ที่จะมาแนะนำวันนี้เป็นการเช่าผ่านเว็บไซด์ครับ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สะดวกและสามารถทำได้ตั้งแต่อยู่ที่ไทย ไปถึงสนามบินก็รับรถได้เลย สบายใจหายห่วง เว็บไซด์ที่ลองใช้เป็นของ bikago ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับประเภทของรถ โดยมีค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ประกอบด้วย ค่าเช่ารถ เรทราคาอยู่ประมาณ 9 ถึง 10 ดอลล่าร์ต่อวัน (ขึ้นกับช่วง high หรือ low season ด้วย) ค่าประกันภัย วันละประมาณ 4 ดอลล่าร์ การจองเราระบุจุดรับรถและเวลาที่เราจะถึง แล้วตัดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้เลย *ทางบริษัทจะตัดบัตรหักเป็นเงินประกันไว้ด้วย 95$ นะครับ ส่วนนี้จะได้คืนหลังจากส่งคืนรถแล้ว เมื่อเราเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเด็นปาซาร์ของบาหลี จะมีเจ้าหน้าที่มารอที่ทางออกครับ จะพาเราเดินไปที่ลานจอดรถ รอบนี้ได้จอง Honda Vario 125CC เอาไว้ เป็นรุ่นออโต้ บิดอย่างเดียว หน้าตาประมาณนี้ จะมีหมวกกันน็อคและชุดปฐมพยาบาลไว้ให้ใต้เบาะครับ ตอนก่อนรับรถก็แนะนำให้ถ่ายรูปเอาไว้ก่อน พวกตำหนิต่างๆ เผื่อเป็นหลักฐานครับ เจ้าหน้าที่ก็จะแนะนำพวกข้อมูลทั่วไปให้ไว้ด้วย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ เจ้าหน้าที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเลย พอได้มาลองขี่มอเตอร์ไซด์ที่นี่ก็พบว่า... - ถนนที่บาหลี เหมือนที่ไทยครับ ขับเลนซ้ายเหมือนกัน เส้นทางค่อนข้างดีเลย มีหลุมบ้างแต่ก็ไม่เยอะเท่าบ้านเรา - ต้องใส่หมวกกันน็อคทุกครั้ง - ตลอดระยะเวลาเที่ยว ไม่เจอตำรวจตรวจบัตรเลยครับ (แต่ก็เตรียมใบขับขี่ติดไปด้วย) - คนที่นี่ขับรถไม่ปาดเหมือนบ้านเรา ขับแล้วสบายใจกว่า - ถ้ามาช่วง Low season อาจจะเจอฝนต้องมีเสื้อกันฝนติดไว้ด้วยนะครับ (ขับเร็วไม่ได้ด้วย ต้องเพิ่มความระมัดระวังเพราะถนนลื่น) - สามารถลัดเลาะเข้าซอกซอยได้สะดวก การจอดรถ สามารถจอดข้างทางได้เลย แต่ต้องล็อครถทุกครั้งนะครับ ที่เที่ยวบางที่อาจจะมีเก็บค่าที่จอดรถด้วยแต่ก็ไม่แพงครับ การเติมน้ำมัน เข้าสถานีเติมน้ำมัน สังเกตุตามคนท้องถิ่นได้เลยครับ ด้วยความที่เรากะปริมาณไม่ถูกก็จะให้เติมเต็มถังไว้ก่อน แต่ไปเติมทีไรค่าน้ำมันพนักงานจะปัดขึ้นตลอดเลย เลยรู้สึกเหมือนแอบโดนโกงนิดนึง หลังจากเที่ยวเสร็จแล้วถึงวันกลับ เราก็ขี่รถไปที่สนามบิน (แวะเติมน้ำมันให้เต็มถังด้วยนะครับ ใกล้ๆ สถามบินจะมีสถานีเติมน้ำมันอยู่ใกล้ๆ) จะมีจุดนัดหมายในการให้ไปจอดรถไว้ รอบนี้ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัทครับ สามารถไปจอดที่ตึกที่นัดหมายไว้ แล้วเราก็ถ่ายรูปรถ 6 จุด (ด้านหน้า หลัง ซ้ายขวา ใต้เบาะ และหน้าปัดมอเตอร์ไซด์) แล้วส่งเมลให้บริษัทครับ ส่วนกุญแจรถและบัตรเข้าที่จอด สามารถโยนใส่ใต้เบาะแล้วล็อคเบาะเป็นอันเรียบร้อยครับ หลังจากได้ลองเช่ารถ พบว่าการเช่ารถก็มีข้อดีข้อด้อยนะครับ ข้อดี สามารถระบุสถานที่รับรถ เลือกวันเวลา เลือกรุ่นรถ รวมถึงรู้ราคาค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง มีประกันให้อุ่นใจ รวมถึงบริการหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ทำให้มั่นใจว่าอย่างน้อยจะมีคนช่วยเราได้หากเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่ดูแลดี ทั้งเจ้าหน้าที่ที่ส่งรถ และเจ้าหน้าที่ที่ประสานงานติดต่อทางอีเมล สะดวกตอนรับรถและส่งคืนรถ (รับส่งที่สนามบินเลย) ข้อด้อย ในเว็บไซด์ราคาจะสูงกว่าเช่าตามร้านทั่วไป (แพงกว่าเกือบเท่าตัว แต่ลุยเดี่ยวก็ยังถูกกว่าเช่ารถยนต์) ชุดปฐมพยาบาลถ้าเปิดใช้ก็เสียค่าเปิด (ถ้าไม่ได้ใช้ก็ไม่เสียนะครับ) ต้องวางเงินมัดจำก่อน (ตัดผ่านบัตรเครดิต แต่ยังดีที่ Refund ได้เร็ว) สุดท้ายฝากภาพถ่ายวิวที่จอดข้างทางแวะถ่ายมา ... ขี่ไปจอดแวะดูวิวไป ชิวมากๆ เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถลองได้ไปสัมผัสกันนะครับ เพราะเส้นทางขี่ไม่ยากและปลอดภัย สัมผัสกับวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบเต็มอิ่มเลยครับ